ประวัติ รุด ฟาน นิสเตลรอย

| 01/01/1970 07:00 น. | 5527 Views

 

รุด ฟาน นิสเตลรอย

จับจองพื้นที่ภายในทีมได้อย่างแน่นอน เมื่อเขาคือกองหน้าเบอร์ 1 ในใจของฟาน บาสเท่นตลอดการเล่นในรอบคัดเลือก "ฟาน เดอะ แมน" เตรียมลงสนามในทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์เป็นครั้งแรกบนวัย 29 ปี

ฟาน นิสเตลรอย เกิดเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 1976 เริ่มต้นด้วยการลงเล่นในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ ต่อจากนั้นก็โยกย้ายมาเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางให้กับ เดน บอช ทีมระดับดิวิชั่น 2 ของฮอลแลนด์ แต่เจ้าตัวได้เปลี่ยนมาเล่นตำแหน่งกองหน้ากับสโมสร ฮีเรนวีน เมื่อปี 1997

และในปี 1998 ในวันเกิดวัย 22 ปี ก็ได้เซ็นสัญญาย้ายมาร่วมทัพ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ด้วยค่าตัว 6.8 ล้านยูโร (ประมาณ 340 ล้านบาท) เป็นสถิติค่าตัวการย้ายทีมระหว่างทั้งสองสโมสร

หัวหอกหน้าอาชา ตอบแทนความไว้วางใจด้วยการสังหารประตูไปถึง 31 ลูกจาก 34 เกมที่ลงสนามฤดูกาลแรกให้กับ พีเอสวี แถมยังได้รับเสียงโหวตจากเพื่อนร่วมอาชีพให้ครองรางวัลผู้เล่นแห่งปีของลีกแดนกังหันลมอีกด้วย และในฤดูกาลที่ 2 ของเจ้าตัวก็ยังเพิ่มสถิติไปอีก 29 ประตู

ฟาน นิสเตลรอย ย้ายมาร่วมทีม ปีศาจแดง เมื่อปี 2001 พร้อมกับโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ด้วยการยิงประตูคู่แข่งอย่างถล่มทลาย จนผงาดซิวรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักเตะอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) ในฤดูกาลแรกกับต้นสังกัดใหม่เท่านั้น

ฤดูกาล 2002-03 ซึ่งเป็นซีซั่นที่ 2 ของเจ้าตัวก็สามารถยิงประตูช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ชิพมาครองได้สำเร็จ แถมยังทำลายสถิติพังประตูในฟุตบอลถ้วยยุโรปให้กับต้นสังกัดในฤดูกาลเดียวกันได้อีกต่างหาก

ฟาน นิสเตลรอย ได้รับการเรียกตัวให้ติดทีมชาติฮอลแลนด์ชุดลุยศึกยูโร 2004 โดยก่อนหน้าเกมดวลกับ เยอรมัน เจ้าตัวก็ออกมาเพิ่มดีกรีความร้อนแรงของเกมการแข่งขันด้วยการขุดคุ้ยเรื่องราวโยงใยไปถึงช่วงเวลาแห่งความขมขื่นระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถูกบรรดาสื่อมวลชนเมืองเบียร์โจมตีอย่างหนัก แต่ก็จัดการดับเสียงครหาลงได้สนิท จากลูกวอลเล่ย์อย่างสุดสวยระหว่างเกมดวล อินทรีเหล็ก พร้อมช่วยชาติบ้านเกิดกรุยทางผ่านเข้าสู่รอบต่อไป

ฟาน นิสเตลรอย นำเป็นดาวซัลโวสูงสุดในรอบแบ่งกลุ่มของทัวร์นาเมนต์นี้ร่วมกับ เวย์น รูนี่ย์ หัวหอกทีมชาติอังกฤษ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเป็นหนึ่งใน 2 นักเตะที่สามารถทำประตูได้ตลอดทั้ง 3 เกมในรอบแบ่งกลุ่ม พร้อมด้วย มิลาน บารอส หัวหอกทีมชาติสาธารณรัฐ

นิลเตลรอย อยู่กับทีมผีแดง 5 ปี คว้าแชมป์อย่างละถ้วยกับทีม ซึ่งมีเหตุการณ์ๆหนึ่ง ที่เป็นตัวชี้ชะตาเส้นทางของรุด และท่านเซอร์อเล็กซ์ นั่นคือ การไม่ส่งรุด ลงเล่น ในศึกบอลถ้วยลีกคัพ แม้แต่วินาทีเดียว ซึ่งทีมแมนยู ถล่มวีแกนไป 4-0

หลังจากปิดฤดูกาลมาไม่นาน รุด ก็ย้ายออกจากทีมโดยกระทันหัน และก็เป็นทีม เรอัล มาดริด ที่เซ้งกองหน้ารายนี้ต่อไป

ที่เบอร์นาบิว รุดย้ายมาด้วยค่าตัว 18 ล้านยูโร ในสัญญา 3 ปี แฉท่านเซอร์เลยว่า ตัวเขาโดนคนในทีม ถีบหัวส่งออกมา ซึ่งมาแป๊บๆ พี่รุดก็กดแฮทริคได้ทันใจในแมทช์ที่สองของการแข่ง ที่ถล่มโอซาซูน่า 4-1

สองฤดูกาลแรก ที่อยู่กับทีมชุดขาว รุดโชว์ฟอร์มซัดไป41 ลูกจาก 61 นัด ซึ่งเป็นตัวหลักในการพาทีมคว้าแชมป์ลา ลีกา ไปได้ถึง 3 สมัยติด ซึ่งหลังจบฤดูกาล รุดได้ขยายสัญญาของตัวเองกับทีม ไปถึงปี 2010 ในทันที

แต่ในฤดูกาลที่ 2008-09 รุดมีอาการบาดเจ็บบริเวณเข่าขวา ไม่ได้ลงเล่นไปซะครึ่งค่อนฤดูกาล ได้ลงทั้งสิ้น 12 นัดเท่านั้น (แต่ยังยิงได้ถึง 10 ลูก)

ฤดูกาล 2009/10 เรอัล มาดริด ภายใต้นโยบายกาลาคติกอส ของประธานคนใหม่ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ซึ่งใช้เงินกว้านซื้อดาวดังมาเพียบ ทำให้ปัจจุบัน มาดริดใช้กองหน้าแค่คนเดียว และก็เป็น คาริม เบนเซม่า เจ้าหนูจอมขยันวิ่ง ที่ได้ยืนเป็นหน้าตัวเป้า ส่วนรุด ถ้าไม่มีอาการบาดเจ็บ ก็จะนั่งเป็นตัวสำรองไปโดยปริยาย

ADS