ประวัติ เคนนี่ แพร์รี่
เคนนี่ แพร์รี่
ขณะที่กระแสการแข่งขันรายการ โคโลเนียล ที่ผู้คนไดุพุ่งความสนใจไปที่ “แอนนิก้า โซแรนสตัม” แต่แชมป์ในรายการตัวจริงที่ใครก็คาดไม่ถึงกลับเป็นผู้ชายคนนี้ และความน่าสนใจหลายอย่างในตัวเขาก็ได้เปิดออกมาต่อสาธารณชน สื่อมวลชนหลายฉบับได้ขุดคุ้ยประวัติของแชมป์ที่ชื่อ “เคนนี่ เพอร์รี่” มานำเสนอ และต่างก็ยกย่องและชื่นชมในความเป็นนักอล์ฟผู้ทำเพื่อสังคมมาโดยตลอด อย่างเสมอต้นเสมอปลาย
“เคนนี่ เพอร์รี่” แชมป์ พีจีเอ ทัวร์ 6 รายการ เริ่มจตับไม้กอล์ฟครั้งแรกเมื่ออายุ 7 ปี โดยไดรับแรงสนับสนุนจากพ่อของเขา เพอร์รี่ เทิร์นโปในปี 1982 และเข้าร่วมแข่งขันในทัวร์ ปี 1987 เพอร์รี่ เป็นสมาชิกของหอเกียรติยศแห่ง ม.เวสเทิร์น เคนตั๊กกี้ ได้รับรางวัล Charles Bartlett Award จากสมาคมนักเขียนเรื่องกอล์ฟแห่งอเมริกาในปี 2002 ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับนักกอล์ฟผู้อุทิศตัวช่วยเหลือสังคม เพอร์รี่ บริจาค 5 % ของเงินรางวัลให้เป็นกองทุนการศึกษาของนักศึกษาที่มาจากแฟรงคลิน และศึกษาอยุ่ในมหาวิทยาลัย เดวิด ทลิพคอมบ์ ที่ภรรยาของเขาเป็นศิษย์เก่า เพื่อตั้งเป็นทุนการศึกษา 2 ทุน
ยิ่งไปก่านั้น 10 ปีที่แล้ว เพอร์รี่ ขอกู้เงิน ถึง 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ซื้อที่ดิน 142 เอเอเคอร์ เพื่อมาสร้าง คันทรี ครีก สนามกอล์ฟสาธารณะแห่งเดียวในเมือง ที่บ้านเกิดของเขา โดย เพอร์รี่ ออกแบบสนามแห่งนี้เพื่อนักกอล์ฟแฮนดิแคประดับถึงสูง ดดยเน้นบรรยากาศของสนามให้น่าเล่นมากกว่าสนามกอล์ฟสำหรับแข่งขันชิงชนะเลิศ และสนามมีความยาวเพียง 6,700 หลา ซึ่งสามารถเล่นได้ง่ายและตั้งราคาไม่ให้แพงจนเกินไปนัก คือ ราคา 12 ดอลล่าร์ และ 28 ดอลล่าร์ (สำหรับคนใช้รถกอล์ฟ)โดยเหตุผลของการคงที่ค่ากรีนฟีในราคาถูกนั้น ก็เพื่อให้นักกอล์ฟทั่วไป รวมถึงเยาวชน ได้มีโอกาสมาฝึกฝนฝีมือ 4 ปีแรกของการเข้าร่วมแข่งขันในทัวร์ เพอร์รี่ ฉลองแชมป์ครั้งแรกกับรายการ Memorial Tournament ในปี 1991 เพอร์รี่ ขึ้นนำในวันสุดท้ายด้วยสกอร์อันเป็นสถิติสนาม 9 อันเดอร์พาร์ 63 และต้องออกรอบเพลย์ออฟกับ “ฮัล เออร์วิน” เมื่อเขาตีเข้ามา 65-66 ใน 2 วันสุดท้าย ก่อนเพอร์รี่ จะเก็บชัยในหลุมแรกของการดวลเพลย์ออฟ ด้วยการทำเบอร์ดี้ ถัดไปอีก 3 ปี ในปี 1994 เพอร์รี่ ชนะเฉือน “เดวิด เฟเฮอร์ตี้” ไปเพียง 1 สโตรก ในรายการ New England Classic ที่พลีแซนท์ วัลเล่ย์ ชัยชนะหนนี้ช่วยให้เขาได้อันดับที่ 26 ในมันนี่ ลิสต์ และเข้าร่วม The Tour Championship เป็นครั้งแรก และในเดือนกุมภาพันธ์ในปีถัดมา เพอร์รี่ ทำผลงานได้อันดับ 3 ร่วมที่ AT&T Pebble Beach National Pro-amคว้าชัยชนะที่ Bob Hope Chrysler Classic และได้ที่ 2 ร่วม ในรายการ Nissan Open
ในปี 1996 อาจจะนับว่าเป็นปีที เพอร์รี่ ประสบความสำเร็จอย่างดี โดยเขาทำเงินได้เกือบ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ และอันดับที่ 13 ในมันนี่ ลิสต์ กับตำแหน่งท็อปเท็น 9 ครั้ง ซึ่งรวมถึงอันดับที่ 2,3 และ 5 อย่างละ 1 ครั้ง และที่ 4 จำนวน 2 ครั้ง เขาเกือบจะคว้าชัยชนะในรายการ PGA Championship ที่ วาลฮาลา ในเคนตั๊กกี้ โดย เพอร์รี่ ต้องดวลเพลย์ออฟกับ “มาร์ค บรู๊ค” ก่อนจะพ่ายไปในหลุม 18 เมื่อ บรู๊คทำเบอร์ดี้ ขณะที่เพอร์รี่พลาด แต่เมื่อมาถึงปี 1997 ฟอร์มการเล่นของเพอร์รี่ ไม่น่าจับตามมองนัก แต่เขาก็ยังคงรักษาสิทธิ์การเข้าแข่งขันโดยไม่ต้องผ่านรอบคัดเลือกเป็นฤดูกาลที่ 11 ติดต่อกัน หลังจากนั้น เพอร์รี่ก็ได้แก้ตัวจากฟอร์มการเล่นอันต่ำกว่ามาตรฐานเมื่อปี 1997 โดยเข้าแข่ง 25 ทัวร์นาเม้นต์ และคว้าตำแหน่งท็อปเท็นได้ 5 ครั้ง
มาในปี 2000 เป็นปีที่ เพอร์รี่ ทำผลงานได้สม่ำเสมอ เขาผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 2 วันได้ถึง 18 จาก 20 ครั้ง และคว้าที่ 3 ได้ 3 ครั้ง ช่วง 9 รายการแรกเขาสามารถเอาตัวรอดจากการถูกตัดตัวทิ้งได้หมด มาพลาดเอาในรายการ MCI Classic จากนั้นก็ทะลุเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายได้ในรายการที่เหลือของปี จนกระทั่งพลาดอีกครั้งในรายการ National Car Rental Golf Classic ได้ตำแหน่งที่ 3 ร่วมในรายการ Bell South Classic ซึ่งถูกฝนกระหน่ำจนทำให้ต้องจบการแข่งขันเร็วกว่าปกติ
ตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา โชคเริ่มเข้าข้างเพอร์รี่ เมื่อเขาจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 24 ในมันนี่ ลิสต์ ด้วยจำนวนเงิน 1,786,066 เหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เพอร์รี่สามารถทำเงินได้มากกว่า 1 ล้านเหรียญต่อ 1 ฤดูกาล ติด 1 ใน 30 อันดับแรกทำให้ได้เล่นในรายการ The Tour Championship เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1996 ,ได้ตำแหน่งท็อปเท็น 6 ครั้ง ในปีนี้ ซึ่งมากเป็นอันดับ 2 ของที่เขาเคยทำได้ใน 1 ฤดูกาล , คว้าแชมป์รายการที่ 4 อย่างสวยงามด้วยชัยชนะ 2 ช็อตเหนือคู่แข่งในรายการ Buick Open โดยรอบที่ 2 ทำสกอร์ 64 ในช่วง 9 หลุมแรกที่สนามวอร์วิค ฮิลส์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับและนั่นทำให้เพอร์รี่นำผู้แข่งขันคนอื่นไป 3 สโตรก ในวันครบรอบวันเกิด 41 ปี ของเขา ตามมาด้วยสกอร์เดียวกันแต่เแป็นในช่วง 9 หลุม หลังของรอบถัดไป และขยายระยะห่างเป็น 5 สโตรค หลังจบ 54 เขาปิดสกอร์วันสุดท้ายที่ 69 พร้อมกับซิวเงินรางวัล 558,000 เหรียญ กลับบ้าน และในปีถัดไป เพอร์รี่จบฤดูกาลใน 30 อันดับแรกของมันนี่ ลิสต์ เป็นครั้งที่ 5 ด้วยจำนวนเงินที่มากที่สุดในชีวิตการเล่นคือ $ 1,928,598 มาถึงปัจจุบัน ฟอร์มของเขาก็ร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อคว้าแชมป์รายการใหญ่ติดกัน ถึง 2 รายการ