ประวัติ มิเชล วี

| 01/01/1970 07:00 น. | 1042 Views

 

มิเชล วี


            มิเชล ซุง วี (เกิดวันที่ 11 ตุลาคม 1989 ใน โฮโนลูลู มลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา) ถือได้ว่าเป็นนักกอล์ฟดาวรุ่งชาวอเมริกันที่ได้รับการจับตามองเป็นอันมาก นับตั้งแต่สาวน้อยเชื้อสายเกาหลีสร้างความฮือฮาจากการลงเล่นในรายการโซนี่ อินเตอร์เนชั่นแนล โอเพ่น ด้วยวัยเพียง 14 ปีและเป็นผู้หญิงคนเดียวในรายการดังกล่าว

            ในปี 2006 วี ถูกเสนอชื่อลงใน "ไทม์ แม็กกาซีน" นิตยสารข่าวรายสัปดาห์ชั้นแนวหน้าของเมืองลุงแซม ภายใต้หัวข้อ "1 ใน 100 บุคคลที่มีอิทธิพลต่อโลกของเรา"

            ถึงแม้ว่าบนเส้นทางสายก้านเหล็กของ วี กำลังสวยงามราวโปรยด้วยกลีบกุหลาย แถมสถานะทางสังคมก็เป็นที่ยอมรับ แต่เธอก็ยังไม่ละทิ้งการเรียนโดยล่าสุด วี ตอบตกลงที่จะเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย สแตนฟอร์ด และเตรียมจะลงทะเบียนเข้าเป็นนักศึกษาใหม่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ปี 2007 ซึ่ง ไทเกอร์ วู้ดส์ ยอดโปรเบอร์ 1 ของโลก ก็เคยเรียนที่สถาบันแห่งนี้ด้วย


ก่อนเข้าวงการ


            วี เริ่มต้นจับไม้กอล์ฟหัดเหวี่ยงวงสวิงตั้งแต่อายุ 4 ขวบและเมื่อตอนที่อายุล่วงเลยเข้าสู่ปีที่ 11 ความมหัศจรรย์ก้าวแรกของเธอก็เปล่งประกายขึ้นจากการหวด 64 ช็อตในการเล่น 18 หลุม ซึ่งมีระยะรวมกว่า 5,400 หลา ที่ โอโลมาน่า กอล์ฟ ลิงค์ หนึ่งในสนามกอล์ฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุดบนเกาะฮาวายและในปีเดียวกัน วี ก็กลายเป็นนักกอล์ฟหญิงที่อายุน้อยที่สุดซึ่งผ่านการคัดตัวเข้าไปเล่นในศึก ยูเอสจีเอ อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ รวมถึงทะลุเข้าสู่รอบแมตช์ เพลย์ ในการแข่งขัน วีเมนส์ ยู เอส อเมเจอร์ พับลิค ลิงค์ส แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งเป็น 1 ใน 10 รายการกอล์ฟสมัครเล่นที่ถูกจัดขึ้นโดย สมาคมกอล์ฟสหรัฐอเมริกา เออร์นี่ เอลส์ ยอดโปรกอล์ฟชาวแอฟริกาใต้เคยออกปากชมว่าวงสวิงของ วี นั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าโปรกอล์ฟชายเลย

 

2002-2004 : มือสมัครเล่น


            ในปี 2002 วี ชนะเลิศรายการ "ฮาวาย โอเพ่น วีเมนส์ ดิวิชั่น" จากการตีเกิน ซินดี้ ราริค นักกอล์ฟดีกรีโปรสาวของ แอลพีจีเอ เพียง 13 ช็อตเท่านั้น นอกจากนั้น วี ยังกลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ผ่านรอบคัดเลือกเข้าร่วมการแข่งขัน แอลพีจีเอ รายการ ทาเคฟูจิ คลาสสิก ได้ด้วย แม้จะไม่ผ่านรอบตัดตัวก็ตาม

            หนึ่งปีให้หลัง ลูกครึ่งสาวแดนกิมจิ-อเมริกัน ก็สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ได้รับการจารึกชื่อให้เป็นนักกอล์ฟอายุน้อยที่สุดที่สามารถผ่านรอบตัดตัวของการแข่งขันกอล์ฟแอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ "เดอะ คราฟท์ นาบิสโก้ แชมเปี้ยนชิพ ที่ รัฐแคลิฟอร์เนียและโชว์วงสวิงล้ำอายุหวด 66 ช็อตในการแข่งขันรอบสาม ซึ่งกลายเป็นสถิติหน้าใหม่ของนักกอล์ฟระดับมือสมัครเล่นสำหรับการลงเล่นระดับ วีเมนส์ เมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ พร้อมคว้าสิทธิ์ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายร่วมกับ แอนนิก้า โซเรนสตัม นักกอล์ฟสาวชาวสวีดิช (ปัจจุบันครองอันดับ 1 ของโลก, 2007) และ ปาทริเซีย มูนิเย่ร์-เลอบูก์ สาวฝรั่งเศสที่เป็นแชมป์รายการดังกล่าว

            ราว 2-3 เดือนต่อมา วี ลงเล่นในรายการ "วีเมนส์ อเมเจอร์ พับลิก ลิงค์" และเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการกอล์ฟกลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดตลอดกาล (รวมทั้งชายและหญิง) ที่คว้าแชมป์ยูเอสจีเอระดับผู้ใหญ่ไปครองได้สำเร็จ

            ในปี 2004 วี กลายเป็นนักกอล์ฟหญิงรายที่ 4 และอายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมาที่ได้ลงดวลวงสวิงในการแข่งขัน พีจีเอ ทัวร์ "โซนี่ โอเพ่น" บนเกาะฮาวาย โดยสาวน้อยร่างโย่งตีไป 72-68 ช็อต จบการแข่งขันที่ อีเวน พาร์ แต่พลาดการตัดตัวเพราะตีเกินไปเพียงสโตรคเดียว

เท่านั้นยังไม่พอในปีเดียวกัน วี ถูกเรียกติดทีมสหรัฐฯ เพื่อลงโชว์วงสวิงในศึก "เคอร์ติส คัพ 2004" และกลายเป็นผู้หญิงที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับการคัดเลือกให้ลงเล่นกับทีมกอล์ฟมะกัน นอกจากนั้น วี ลงเล่นในศึก "คราฟต์ นาบิสโก้" และคว้าอันดับ 4 ไปครอง ว่ากันว่าถ้าสาวเชื้อสายอารีดังรายนี้ลงเล่นในปี 2004 ในฐานะนักกอล์ฟอาชีพแล้วล่ะก็ เธอจะทำรายได้กว่า 2.5 แสนเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 10 ล้านบาท) เลยทีเดียว

 

2005: เทิร์นโปร


            จุดเด่นของ วี ไม่ได้มีแค่เพียงความสูง 6 ฟุต 1 นิ้วเท่านั้น เธอสามารถใช้ช่วงแขนที่ได้เปรียบคนอื่นได้อย่างคุ้มค่าทำให้ วี ตีได้เต็มวงสวิงและทำระยะได้ตามต้องการ ตอนที่ วี อายุ 14 นักกอล์ฟชั้นแนวหน้าของโลกอย่าง เออร์นี่ เอลส์ เคยออกมาสวมบทเกจิให้ความเห็นไว้ว่า "ถ้าให้เวลาเธอได้สั่งสมความแข็งแกร่งอีกสักสองปี ผมมั่นใจว่าเธอสามารถที่จะเล่นในระดับพีจีเอ ทัวร์ ได้เลย" โดย วี มีค่าเฉลี่ยของระยะการตีราว 280 หลา

            ด้าน เฟร็ด คูเปิ้ลส์ นักกอล์ฟอาชีพระดับพีจีเอ ทัวร์ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการตีไกล กล่าวถึง วี ว่า "เวลาที่คุณเห็นเธอตีกอล์ฟ...คุณไม่อาจที่จะหาถ้อยคำใด ๆ มาบรรยายความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้ มันเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจสุด ๆ เท่าที่คุณเคยประสบพบเห็นมา"

            อาร์โนลด์ พาลเมอร์ อดีตนักกอล์ฟแถวหน้าของเมืองลุงแซม วัย 77 ปี ซึ่งคว้าแชมป์มามากมายทั้งในระดับ พีจีเอ ทัวร์ และ แชมเปี้ยนส์ ทัวร์ เคยระบุไว้ในปี 2003 ว่า "เธอกำลังกลายเป็นผู้มีอิทธิพลต่อวงการกอล์ฟเหมือนหรือยิ่งกว่า ไทเกอร์ วู้ดส์ เธอจะดึงดูดคนรอบข้างให้มาสนใจในแบบที่ ไทเกอร์ ทำไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นบรรดาเยาวชนทั้งชายและหญิง รวมไปถึงครอบครัวด้วย

            วี เริ่มต้นฤดูกาล 2005 ด้วยการตอบตกลงเข้าร่วมศึกพีจีเอ ทัวร์ รายการ "โซนี่ โอเพ่น" ที่บ้านเกิด แต่ก็ไม่ผ่านการตัดตัวเช่นเคย จากนั้น วี ได้เบนเข็มเข้าสู่วงการ เอพีจีเอ ทัวร์ อย่างเต็มตัวและประเดิมซีซั่นด้วยการคว้าอันดับ 2 ของ "เอสบีเอส โอเพ่น" ที่ เทอร์เทิ่ล เบย์

            เข้าสู่เดือน มิ.ย.ปีเดียวกัน วี ทะยานขึ้นมารั้งอันดับ 2 ของอันดับนักกอล์ฟหญิงใน แอลพีจีเอ แชมเปี้ยนส์ชิพและกลายเป็นนักเตะกอล์ฟหญิงคนแรกที่ได้ลงคัดตัวเข้าร่วมการแข่งขัน ยูเอสจีเอ ร่วมกับฝ่ายชายและจบด้วยอันดับที่ 23 จากนั้น วี ลงเล่นใน "จอห์น เดียร์ คลาสสิก ซึ่งเป็นครั้งที่สามสำหรับการลุ้นตัดตัวเข้าสู่การแข่งขันระดับพีจีเอ ทัวร์ แต่ท้ายที่สุดเธอก็ต้องผิดหวังอีกครั้งเพราะไม่ผ่านโดยตีเกินไป 2 สโตรคเท่านั้น

            จากนั้น วี เข้าร่วมศึก "อีเวียง มาสเตอร์ส" รายการเมเจอร์ของ "เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์" และเข้าป้ายเป็นอันดับ 2 ของรายการ หนึ่งสัปดาห์ให้หลัง วี คว้าอันดับ 3 ในรายการ "วีเมนส์ บริติช โอเพ่น" รายการเมเจอร์ที่ 4 และรายการสุดท้ายของปี

            ขณะที่อายุกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 16 วี ตัดสินใจประกาศต่อหน้าสาธารณชนบนเกาะฮาวายว่า เธอกำลังจะเทิร์นโปร โดยมีรายงานว่า ไนกี้และ โซนี่ ได้เซ็นสัญญาเป็นสปอนเซอร์ให้กับ วี พร้อมมอบเงินสนับสนุนมหาศาลกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 400 ล้านบาท) ต่อปีและในเวลาเดียวกัน วี ได้แถลงข่าวมอบเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุเฮอร์ริเคน แคทริน่า จำนวน 5 แสนเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 20 ล้านบาท)


บนเส้นทางของการเป็นมืออาชีพ


            วี ยังไม่สามารถเลื่อนชั้นขึ้นเป็นสมาชิกของ แอลพีจีเอ ทัวร์ ได้อย่างเป็นทางการจนกระทั่งอายุครบ 18 ปีเต็ม เว้นแต่ว่าเธอจะยื่นคำร้องขอสิทธิ์ยกเว้นกฏดังกล่าวเหมือนที่ มอร์แกน เพรสเซล กับ อารี ซอง เคยทำมาก่อน อย่างไรก็ตาม วี เลือกที่จะไม่ยื่นคำร้อง นับแต่นั้นมา วี ได้รับอนุญาตให้ลงแข่งขันรายการแอลพีจีเอ ทัวร์ได้ไม่เกิน 6 รายการต่อปีและต้องได้รับอนุญาตจากสปอนเซอร์ของการแข่งขันแต่ละรายการด้วย

            วี ลงประเดิมวงสวิงในฐานะมืออาชีพในรายการ "ซัมซุง เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ" ซึ่งเป็นการแข่งขันแอลพีจีเอที่เปิดกว้างให้เฉพาะนักกอล์ฟอาชีพหญิง 20 อันดับแรกของโลก แต่ วี ได้รับเชิญจากสปอนเซอร์ประจำการแข่งขันและได้อันดับ 4 ไปครอง พร้อมรับเงินรางวัล 53,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2.12 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม วี ถูกฝ่ายจัดการแข่งขันปรับแพ้ฟาวล์เนื่องจากทำผิดกฏแอบวางลูกใกล้กว่าจุดมาตรฐานที่กำหนดและลงคะแนนไม่ถูกต้อง

            วี ลงทำการแข่งขันระดับมืออาชีพหนที่ 2 ในเดือน พฤศจิกายน ที่ศึก "เจแปน กอล์ฟ ทัวร์" รายการ "คาสิโอ เวิลด์ โอเพ่น" แต่ก็ไม่ผ่านตัดตัวเพราะตีเกิน 4 สโตรค ส่วนการเล่นอาชีพครั้งที่ 3 เกิดขึ้นในเดือน มกราคม 2006 โดย วี กลับมาลงเล่นในกอล์ฟพีจีเอ ทัวร์ รายการ "โซนี่ โอเพ่น" บนเกาะฮาวาย บ้านเกิดของตนเอง แต่ท้ายที่สุดตีเกินไป 7 สโตรค ไม่ผ่านการตัดตัวเหมือนเดิม

            ช่วงท้ายปี 2006 ซึ่งเป็นปีแรกที่ วี เล่นในฐานะมืออาชีพอย่างเต็มตัว เธอไม่ผ่านการตัดตัว 11 จาก 12 ครั้งที่ลงดวลวงสวิงกับนักกอล์ฟชายและยังคงเสาะหาชัยชนะไม่เจอตลอด 33 ทัวร์นาเมนต์อาชีพของฝ่ายหญิง


ปี 2007


            ปี 2007 วี ทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนัก จนตกเป็นเป้าโจมตีของเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายว่ามีนักกอล์ฟหญิงอีกหลายรายที่สมควรได้สิทธิ์ลงดวลวงสวิงกับนักกอล์ฟฝ่ายชายมากกว่าเธอ โดย ดั๊ก เฟอร์กูสัน ผู้สันทัดกรณีกีฬากอล์ฟของสำนักข่าวเอพี ระบุว่า สมญานาม "บิ๊ก วีซี่" ที่ถูกยกไปเปรียบเทียบกับ "บิ๊ก อีซี่" ของนักกอล์ฟชั้นนำของโลกอย่าง เออร์นี่ เอลส์ น่าจะเปลี่ยนเป็น "บิ๊ก ควีซี่" (น่าวิงเวียน) แทน

            วี เปลี่ยนแคดดี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 ราย นับตั้งแต่พ่อของเธอหยุดรับหน้าที่นี้ไปตั้งแต่ในปี 2004 แคดดี้คนล่าสุดของ วี คือ จิมมี่ จอห์นสัน ที่ลงทำหน้าที่เคียงข้าง วี ครั้งสุดท้ายใน "คาสิโอ เวิลด์ โอเพ่น ในเดือน พฤศจิกายน 2006 โดยตอนที่ วี ลงเล่นในรายการ "โซนี่ โอเพ่น 2007" ที่ ฮาวาย พ่อของเธอก็หวนกลับมาสวมบทบาทแคดดี้ส่วนตัวให้บุตรสาวของตนเองอีกครั้ง

            บ่อเกิดที่มาแห่งกระแสวิจารณ์ต่อการเล่นของ วี ก็คือ เธอยังไม่อาจพิสูจน์ให้ทุกฝ่ายได้เห็นว่าเธอดีเพียงพอต่อการลงแข่งขันในรายการพีจีเอ ทัวร์ เพราะตลอดการลงเล่นกว่า 30 รายการที่ผ่านมา วี ยังเก็บชัยชนะไม่ได้เลยแม้แต่หนเดียว

            หากนับจนถึงวันที่ 11 มกราคม 2007 วี ลงทำการแข่งขันระดับอาชีพมาแล้วรวม 46 รายการ โดยเป็นศึกแอลพีจีเอ ทัวร์ ปะทะผู้หญิง 33 รายการและลงดวลวงสวิงกับฝ่ายชาย 13 รายการ ซึ่งแบ่งออกเป็นพีจีเอ ทัวร์ 7 รายการ, เนชั่นไวด์ ทัวร์ 1 รายการ, แคนาเดียน ทัวร์ 1 รายการ, เจแปน กอล์ฟ ทัวร์ 2 รายการ, เอเชี่ยน ทัวร์ 1 รายการและ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ 1 รายการ

 

ADS