ประวัติ เดวิด เลทเบทเทอร์

เดวิด เลทเบทเทอร์ 

เป็นอาจารย์กอล์ฟที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของโลก กลายเป็นผู้มีชื่อเสียงในช่วงทศววรรษ 1980 ในการช่วย “ นิค ฟัลโด้ “ สร้างวงสวิงของเขาจากที่ไม่มีอะไรเลย และต่อมา ฟัลโด้ ก็ได้คว้าชัยชนะ 6 รายการเมเจอร์แชมป์เปี้ยนชิพ เขาทำงานร่วมกับโปรรายการทัวร์ของ พีจีเอ และ ยูโรเปี้ยน คนอื่นอีกหลายคน รวมถึง เออร์นี่ เอลส์, นิค ไพร์ซ, ชาเล่ย์ โฮเวล,อารอน แบดเดลี่ย์ และ จัสติน โรส
 
เดวิด เติบโตขึ้นในเมืองเล็กๆห่างไกลในเมือง ซิมบับเว ของ เซาท์เทริ์น อัฟริกา เช่นเดียวกับ นิค ไพร์ซ , มาร์ก แม็คนัลตี้ และ เดนิส วัตสัน เมื่อพวกมาถึงทางแยก พวกเขาทุกคนได้สวมบทบาทอันยิ่งใหญ่ในอาชีพการงานของพวกเขา กอล์ฟเป็นการเล่นฆ่าเวลาในช่วงวัยเด็ก ระหว่างวันหยุดภาคฤดูร้อนที่ไม่ต้องไปโรงเรียน พ่อของเขาเป็นคนที่ทำให้เขารู้จักกอล์ฟเป็นครั้งแรก และได้พบว่าเกมส์ชนิดนี้จำเป็นจะต้องมีการวางแผนนับตั้งแต่เริ่มต้น เดวิดได้เป็นผู้เล่นเยาวชนฝีมือปานกลาง ซึ่งเส้นทางของเขาแตกต่างจากผู้เล่นในรุ่นเดียวกันนิดหน่อย
 
เมื่อเขาได้กลายเป็นโปรกอล์ฟผู้ช่วยที่สมาคมซึ่งเขาเป็นสมาชิกระดับเยาวชน ซึ่งมีแฮนด์ดิแคป 3 และเทอร์นโปรตอนอายุ 18 ปี หลังจากเข้าเรียนในวิทยาลัย 1 ปี การศึกษาอาจใช้เวลาอีก 2 ปีหรือ 3 ปีเพื่อไปถึงจุดที่เขาคิดว่ามีโอกาสที่จะทำเกรดในฐานะผู้เล่นรายการทัวร์ เดวิด กล่าวว่าสิ่งที่เขาทำทุกขณะ ก็เพื่อเป็นส่วนเสริมให้กับตัวเขาเอง และสิ่งที่เขาได้รับเพิ่มเข้ามาคือ เขากำลังสนุก และเรียนรู้ศิลปะการสอนเกมส์ให้กับสมาชิกสโมสร
 
เดวิด เลทเบทเทอร์ ลงเล่นบนการแข่งขันกอล์ฟ เซาท์ อัฟริกา ทัวร์ ระหว่างช่วงฤดูร้อนเป็นเวลา 4 ปี จากนั้นกลับไปที่ประเทศอังกฤษ ประเทศที่เขาเกิด และและลงเล่นการแข่งขัน 2-3 รายการ บนการแข่งขันกอล์ฟ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ เดวิด กล่าวว่า เขาอยู่ในฐานะลำบากมาตลอด เพราะไม่สามารถหาเงินได้มากนักจาก ซิมบับเว ในช่วงเวลานั้น มีปัญหากับการแลกเปลี่ยนเงินตรา เนื่องจากความยุ่งเหยิงทางการเมืองที่เกิดขึ้นภายในประเทศในตอนนั้น และเลิกพูดถึงเงินรางวัลรายการ ทัวร์ ในกลางทศวรรษ 1970 ได้เลย เพราะเทียบไม่ได้กับเงินรางวัลในปัจจุบันนี้ โดยสรุป ถ้าไม่มีสปอนเซอร์ก็เป็นเรื่องยากสำหรับผู้เล่นที่จะมีสถานะทางการเงินคล่องตัว

นอกจากจะได้เป็นผู้เล่นระดับแนวหน้าในเวลาอันสั้น เดวิด ทำเงินได้เพียงเล็กน้อยในการเล่นรายการ โปร-แอม และจากการสอนบ้าง เขาได้ตัดสินใจไป European Tour Qualifying School ที่สนามชื่อ ฟ็อกฮิลส์ ห่างจากกรุงลอนดอนไม่มาก ในครั้งนั้น เขาพลาดไปนิดเดียวในการเล่นรอบคัดเลือก 72 หลุม เพื่อเข้าร่วมรายการ ทัวร์ ไปเพียง 1 ช็อท

อย่างไรก็ตาม การทำ 2 ออนบนหลุมพาร์ 4 ช่วงการเล่น 9 หลุมหลังวันสุดท้าย เป็นสิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจได้ตรงนั้นว่าจ ะไม่ทำอาชีพนี้ต่อไปในฐานะโปรรายการ ทัวร์ แต่ถ้าเขาได้รับการ์ดและขณะเดียวกันถ้าเขามีสปอร์นเซอร์ให้การสนับสนุน การสอนกอล์ฟอาจจะไม่อยู่สายตาของเดวิด แต่จนถึงวันหนึ่ง เขารู้สึกว่าโชคดีมากๆ ที่เขาได้เลือกวิถีทางอย่างที่ต้องการ นั่นก็คือการสอนเกมส์ ซึ่งเป็นความต้องการอย่างแท้จริงของเดวิด เลทเบทเทอร์ และเป็นอาชีพหนึ่งที่เขาบอกว่า ไม่มีวันแพ้
 
โปรกอล์ฟคนแรกที่เข้ามามีอิทธิพลอย่างจริงจังกับความคิดในเกมส์ของเดวิด ในช่วงที่เทอร์นโปรคือ ไซมอน ฮ็อบเดย์ เป็นบุคคลที่มีชื่อเสีย และอดีตแชมป์รายการ ยู.เอส.ซีเนียร์ โอเพ่น เดวิด ยกย่องว่า ไซมอน เป็นนักตีผู้ยิ่งใหญ่ กับการสวิงแบบเรียบง่าย ครั้งหนึ่ง ไซมอน ได้เตือนให้เดวิดนึกถึง เบ็น โฮแกน ในการเล่นหลายรูปแบบ และเดวิดรู้สึกสนใจอย่างมากกับหลักการของ เบ็น โฮแกน ในสมัยนั้น
 
การศึกษาหนังสือ Modern Fundamentals ของ เบ็น โฮแกน เป็นต้นแบบที่ดีสำหรับสิ่งต่างๆมากมายที่เดวิด เลทเบทเทอร์ จะนำมาใช้สอน ซึ่งเดวิด ค้นพบว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่าในการนำแนวความคิดของเขามาสาธยายไว้ในหนังสือที่เขียนหลายปีต่อมาซึ่งมีชื่อว่า Fundamentals of Hogan นอกเหนือจาก เบ็น โฮแกน แล้ว เดวิดยังให้ความสนใจนักกอล์ฟคนอื่นอีก โดยเฉพาะ แกรี่ เพลเยอร์ เขากล่าวว่า แกรี่ เป็นบุคคลที่บรรดานักกอล์ฟทัวร์ทุกมุมโลกคลั่งไคล้หลงใหล แกรี่ เป็นคนที่ดูแลร่างกายให้แข็งแกร่งสมบูรณ์เต็มที่อย่างสม่ำเสมอ มีความปรารถนา อย่างแรงกล้า และมีจรรยาบรรณในการทำงานที่น่ายกย่อง ดังนั้นแกรี่ จึงเป็นนักกอล์ฟที่มีอิทธิพลต่อผู้เล่นรุ่นใหม่มากมายในสมัยนั้น
 
การสอนของเดวิดตั้งอยู่บนพื้นฐานความรู้ที่ได้รับการผสมผสานจากสิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากการอ่าน การโต้แย้งหาเทคนิคการสอนกับเพื่อน และเพื่อนร่วมงาน รวมถึงสิ่งที่เขาได้ทดลองกับการซ้อม และข้อผิดพลาด และความกระตือรือร้นอย่างมาก ส่วนด้านที่มีการพัฒนาขึ้นอย่างจริงจังตลอดหลายปีที่ผ่านมาของเขา คือความสามารถ ในการติดต่อสื่อสารกับผู้เล่นหลากหลายได้กว้างขึ้น โดยใช้คำพูดที่เข้าใจง่ายที่สุด