ประวัติ จานลุยจิ บุฟฟ่อน
จานลุยจิ บุฟฟอน ผู้รักษาประตูจอมเก๋าของสโมสร ยูเวนตุส ยอมรับว่าถึงตอนนี้ยังรู้สึกแปลกใจไม่หายว่าทำไม เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถึงปล่อยตัว พอล ป็อกบา ออกจากทีม ทั้งที่เป็นนักเตะที่ฝีเท้าดีมากๆ
ป็อกบา ย้ายจาก แมนฯยูไนเต็ด มาอยู่กับ ยูเวนตุส แบบไร้ค่าตัวเมื่อปี 2012 และกลายเป็นกำลังสำคัญของไอ้ม้าลายมาตลอด นอกจากนี้ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่เก่งที่สุดในโลกเวลานี้ ซึ่งบุฟฟอนชี้ว่าเขายังไม่เข้าใจว่าทำไมปีศาจแดงถึงปล่อยตัวนักเตะมากพรสวรรค์รายนี้ออกจากทีม
"ผมอยู่ในวงการฟุตบอลมาหลายปี แต่การที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ส่ง พอล ป็อกบา ลงสนามแถมยังปล่อยตัวเขาออกจากทีม เป็นการตัดสินใจที่แปลกที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น" บุฟฟอน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว
"แค่เขามาซ้อมกับเราได้ไม่นาน เราก็เห็นแล้วว่าเขามีดีเพียงใด มันไม่น่าเชื่อว่านี่คือนักเตะคนเดียวกับที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มองเห็น เราคิดว่าพวกเขาคงต้องตัดแว่นใส่แล้วล่ะ"
"ผมไม่เคยเห็นนักเตะอายุเท่านี้ที่เก่งขนาดนี้มาก่อน เขาแข็งแกร่ง มีเทคนิคที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ เป็นนักเตะที่โดดเด่นในทุกด้าน ป็อกบา สามารถทำสิ่งที่เขาเท่านั้นที่ทำได้ เช่นเดียวกับ ลิโอเนล เมสซี และ คริสเตียโน โรนัลโด้"
"ยูไนเต็ด ปล่อยหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลกออกจากทีม แต่มันก็เป็นข่าวดีสำหรับเรา"
จานลุยจิ บุฟฟ่อน
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ : จานลุยจิ บุฟฟ่อน
วันเกิด : 28 มกราคม 1978
เกิดที่ : คาร์ราร่า, อิตาลี
ตำแหน่ง : ผู้รักษาประตู
ส่วนสูง : 191 ซม.
นิคเนม : จีจี้
สโมสรปัจจุบัน : ยูเวนตุส
หมายเลขเสื้อ : 1จานลุยจิ บุฟฟ่อน หรือ "จีจี้" ที่คุ้นเคยกันดีในแดนมะกะโรนี คือกุญแจสำคัญที่ทำให้ อิตาลี ผงาดคว้าแชมป์โลก 2006 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ และนั่นก็ทำให้เขาก็ได้รับการยกย่องให้เป็นนายทวารหมายเลข 1 ของโลกในเวลานี้อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
หลายคนอาจจะยังไม่รู้มาก่อนว่า บุฟฟ่อน เคยเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ จนกระทั่งมีจุดเปลี่ยนตอนอายุ 14 ปี หลังจากที่ต้องสวมบทนายทวารจำเป็นเมื่อเจ้าของตำแหน่งทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บ และในอีก 2 สัปดาห์ถัดมา จีจี้ ก็กลายเป็นผู้รักษาประตูตัวหลักของทีมไปโดยปริยาย
ในปี 1995 บุฟฟ่อน ในวัย 17 ปี ได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับ ปาร์ม่า และแมตช์แรกในเซเรีย อา ของเขาก็คือการเผชิญหน้ากับทีมยักษ์ใหญ่อย่าง เอซี มิลาน ในปีถัดมาเขาก็ได้ลงเล่นให้ทีมชาติในศึกโอลิมปิก เกมส์ 1996 ที่นครแอตแลนต้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วย
หลังจากที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับต้นสังกัด บุฟฟ่อน ก็ได้ลงเล่นทีมชาติอิตาลีชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในวัย 19 ปี แทนที่ จานลูก้า ปายูก้า ที่ได้รับบาดเจ็บในเกมเพลย์ออฟเพื่อชิงตั๋วฟุตบอลโลก 1998 กับ รัสเซีย ที่กรุงมอสโก
จีจี้ ได้รับการตอบแทนด้วยการมีชื่อในทีมอัซซูรี่ชุดลุยศึกเวิลด์ คัพ 1998 ทว่า ก็ทำได้แค่นั่งดูอยู่บนม้านั่งสำรองเท่านั้น เนื่องจาก ปายูก้า ยึดตัวจริงเอาไว้ได้หลังจากที่หายจากอาการบาดเจ็บ จากนั้น เขาก็ได้ช่วยให้อิตาลี ผ่านรอบคัดเลือกฟุตบอลยูโร 2000 ได้แบบไม่มีพลิกโผ
ในปี 2001 บุฟฟ่อน ก็ได้ย้ายจาก ปาร์ม่า ไปร่วมทีมระดับบิ๊กอย่าง ยูเวนตุส ด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติโลกสำหรับผู้รักษาประตู 52.29 ล้านยูโร (ประมาณ 2,614 ล้านบาท) แม้เจ้าตัวจะเคยเอ่ยปากยอมรับว่ามันเป็นค่าตัวที่ออกจะมากเกินไปสำหรับนักเตะคนหนึ่ง ทว่า มันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกกดดันกับความคาดหวังแต่อย่างใด
นายทวารจอมหนึบ ช่วยให้ อิตาลี ได้ผ่านเข้าถึงฟุตบอลโลก 2002 รอบสุดท้ายได้สำเร็จ และในปีถัดมา เขาก็คว้ารางวัล "นักเตะทรงคุณค่า" และ "ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม" ของยูฟ่า นอกจากนั้น ยังได้รับยกย่องจาก เปเล่ ตำนานนักเตะทีมชาติบราซิล ว่าเป็น 1 ใน 125 นักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อเดือนมีนาคม 2004
ฤดูกาล 2004-05 บุฟฟ่อน ก็ช่วยให้ ยูเวนตุส คว้าสคูเด็ตโต้ไปครองเป็นสมัยที่ 3 ในรอบ 4 ฤดูกาลได้สำเร็จ แม้ว่าจะโชคร้ายได้รับบาดเจ็บระหว่างชนกับ กาก้า เพลย์เมกเกอร์ของ มิลาน จนต้องผ่าตัดหัวไหล่ในช่วงซัมเมอร์ปี 2005 แต่กลับมาลงสนามได้เพียงเกมเดียวในเดือนพฤศจิกายนก็ต้องพักยาวอีกครั้งเนื่องจากอาการบาดเจ็บกำเริบก่อนจะฟิตกลับมาเฝ้าเสาได้ในเดือนมกราคม
ไม่เพียงแต่จะต้องขึ้นเขียงด้านสภาพร่างกายเท่านั้น แต่ จีจี้ ยังต้องเผชิญหน้ากับข่าวร้ายครั้งใหญ่ เมื่อมีการเปิดเผยเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ยูเวนตุส มีส่วนพัวพันในคดีจ้างวานล้มบอล และ บุฟฟ่อน รวมถึง อันโตนิโอ คิเมนติ อดีตนายทวารทีมม้าลาย กับเพื่อนนักเตะอีกหลายคน ก็พลอยติดร่างแหไปด้วยฐานแอบแทงพนันอย่างผิดกฎระหว่างที่ยังค้าแข้งกับปาร์ม่า
วันถัดมา เขาก็ต้องเข้าไปให้ปากคำกับผู้พิพากษาของเมืองตูรินเพื่อที่จะลบล้างมลทินของตัวเอง ในขณะที่ยอมรับว่าเคยเล่นพนันกีฬาประเภทอื่นจริง แต่เจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่เคยพนันฟุตบอลอิตาลีเลย
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องดังกล่าว บุฟฟ่อน ก็ยังติดทีมชาติอิตาลีไปลงชิงชัยในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ประเทศเยอรมัน ซึ่งเขาก็โชว์ฟอร์มซูเปอร์เซฟหลายครั้งหลายคราจนพาอัซซูรี่ ทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ ก่อนจะคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 4 ไปครองด้วยการฉือนชนะ ฝรั่งเศส ในการดวลจุดโทษ
ตลอดทัวร์นาเมนต์ บุฟฟ่อน เสียประตูให้คู่แข่งแค่ 2 ลูกเท่านั้น โดยลูกหนึ่งมาจากการทำเข้าประตูตัวเองของ คริสเตียน ซัคคาร์โด้ เพื่อนร่วมทีม และอีกลูกมาจากการยิงจุดโทษของ ซีเนดีน ซีดาน ในรอบชิงชนะเลิศ และนั่นทำให้ฟีฟ่า ประกาศให้เขาเป็นผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมประจำฟุตบอลโลก 2006
หลังประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวดกับทีมอัซซูรี่ได้ไม่กี่วัน บุฟฟ่อน ก็ต้องกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง เมื่อพบว่า ยูเว่ ต้องถูกปรับตกชั้นไปเล่นในเซเรีย บี เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม จากความผิดฐานจ้างวานล้มบอล ซึ่งทำให้สตาร์หลายคนของทีมหนีเอาตัวรอดไปอยู่ทีมอื่นกันหมด ทว่า นายทวารวัย 28 ปี ก็แสดงสปิริตด้วยการรับใช้ทีมต่อไป แม้ว่าจะต้องออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ด้วยการติดลบถึง 30 แต้ม ก่อนจะยื่นอุทธรณ์และลดลงมาเหลือ -17 และ -9 ในการตัดสินครั้งล่าสุด
ด้วยปฏิกิริยาอันยอดเยี่ยมในการรับบอล ออกมาตัดบอล และเซฟลูกยากๆ ของ บุฟฟ่อน ที่มีให้เห็นบ่อยครั้ง เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ ยูเวนตุส เลื่อนชั้นกลับมาเล่นในลีกสูงสุดของแดนมะกะโรนี อีกครั้งหนึ่ง
ปัจจุบัน บุฟฟ่อนยังคงอยู่กับทีมม้าลาย และรักษาฟอร์มเป็นมือหนึ่งของทีมได้ต่อไป