ประวัติ ทิม เคฮิลล์
ทิม เคฮิลล์
มิดฟิลด์ตัวรุกจอมถล่มประตูที่มีอานุภาพในการกะซวกตาข่ายด้วยลูกเฮดบัดที่รุนแรงที่สุดของ ออสเตรเลีย ยามนี้ ทั้งที่ไม่ได้มีรูปร่างสูงใหญ่แต่อย่างใด เซนส์ในการหาตำแหน่งเข้าเจาะทวารคู่แข่งของ เคฮิลล์ ได้รับการยกย่องอย่างสูงในพรีเมียร์ชิพ ชื่อของดาวเตะวัย25 ปีเริ่มเป็นที่คุ้นหูมากขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากซัดประตูชัยช่วยให้ "สิงโตลอนดอน" มิลล์วอลล์ สโมสรในระดับแชมเปี้ยนชิพ ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาล 2003-2004 และคว้าตั๋วเข้าไปเล่นในศึกยูฟ่า คัพ ซีซั่นถัดไปได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะเป็นฝ่ายแพ้ในรอบชิงแบบเละเป็นโจ๊ก 0-3 ก็ตาม
เอฟเวอร์ตัน ไม่รอช้า จัดการคว้าตัวเด็กหนุ่มจากซิดนีย์รายนี้มาร่วมทัพทันทีในช่วงซัมเมอร์หลังจากนั้น และ เคฮิลล์ ก็ไม่ทำให้ เดวิด มอยส์ กุนซือเลือดสกอต ต้องผิดหวัง เมื่อกดเปรี้ยงทั้งจากหัวและเท้ารวมกันไปถึง 12 ประตู ช่วยให้ "ทอฟฟี่" จบซีซั่นในอันดับ 4 ได้สิทธิ์ผ่านไปเล่นศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ และได้รับเลือกจากแฟนๆ ให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรไปตามระเบียบ
มาถึงฤดูกาลนี้ แม้ฟอร์มของขุนพล "ทอฟฟี่เมน" จะไม่ไฉไลเท่าเก่า แต่สาวก "เอฟเวอร์โตเนี่ยน" ยังพอมีรอยยิ้มที่มุมปากอยู่บ้าง เมื่อไม่ว่าอะไรจะเกิด เคฮิลล์ ก็ยังคงรักษาความคงเส้นคงวาในการทะลวงตาข่ายฝั่งตรงข้ามได้เหมือนเดิม และเจ้าตัวก็ถูกวางชื่อให้เป็นหนึ่งในสตาร์ที่น่าจับตามองของศึก "เยอรมัน 2006" ไปแล้ว
ในฟุตบอลโลก 2006 เคฮิลล์ ประเดิมสนามอย่างสวยหรู เมื่อเป็นคนยิงตีเสมอญี่ปุ่น 1-1 ก่อนที่จะยิงอีกลูก และจอห์น อลอยซี่ เพิ่มสกอร์ให้ทีมชนะ 3-1 ผ่านรอบแบ่งกลุ่มในฐานะรองแชมป์ ก่อนจะตกรอบ ด้วยน้ำมือของฟรานเชสโก ต๊อดติขุนผล "อัสซูรี่" ที่ยิงจุดโทษชนะตอนต่อเวลา ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
ปีต่อมา เคฮิลล์ติดทีมชาติชุดทำศึกอาเซียนคัพ ทำผลงานสำคัญ เป็นผู้ตีเสมอโอมานจนรอดตัวเสมอกัน 1-1 เข้ารอบไปในฐานะที่สองของกลุ่ม เฉือนไทยไปด้วยผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่า ก่อนทีมออสเตรเลียจะตกรอบตัดเชือกเพราะยิงจุดโทษแพ้ญี่ปุ่น 4-3 หลังเสมอกัน 1-1