ประวัติ ไรอัน บาเบิล
ไรอัน บาเบิล
ไรอัน กูโน่ บาเบล คือชื่อจริงของดาวรุ่งผิวสีทีม “อัศวินสีส้ม” ฮอลแลนด์ ที่เกิดในวันที่ 19 ธันวาคม ปี 1986 ในเมืองอัมสเตอร์ดัม หนึ่งในผู้ชอกช้ำจากศึกยูโร 2008 ที่ผ่านมา เพราะเกือบจะติดเป็นหนึ่งใน 23 ขุนพลของกุนซือ “เพชฌฆาตพรายกระซิบ” มาร์โก แวน บาสเท่น ไปลุยเมืองดานูบ & นาฬิกาอยู่แล้ว แต่มีอันต้องถอนตัว เพราะเกิดบาดเจ็บจนต้องเข้ารับการผ่าตัด และพักฟื้นเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม ก่อนกลับมาทวงตำแหน่งตัวหลักของทีมในชุดลุยศึกฟุตบอลโอลิมปิก 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ที่กำลังจะเริ่มขึ้นในเดือนหน้านี้
ปัจจุบัน บาเบล สังกัดอยู่กับทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจากย้ายมาร่วมถิ่น แอนฟิลด์ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาด้วยค่าตัว 11.5 ล้านปอนด์ (759 ล้านบาท) โดยดึงมาจากทีมยักษ์ใหญ่แห่งลีกแดนกังหัน อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ซึ่งในขณะนั้น บาเบล มีอายุเพียง 21 ปี แต่กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่น่าจับตามองที่สุดคนหนึ่งของยอดทีมเมืองดัตช์ไปแล้ว เพราะมีความสามารถอันเอกอุ และสร้างสรรค์เกมได้อย่างตื่นตาตื่นใจตลอดเวลาที่ลงรับใช้ทีมใหญ่จากเมืองอัมสเตอร์ดัมทีมนี้
แม้จะมีอายุเพียง 21 ปีในตอนนั้นแต่ บาเบล ถูกยกให้เป็นหนึ่งในดาวรุ่งแห่งวงการลูกหนังโลกประจำยุคนี้ พ.ศ.นี้ แม้ว่าจะยังพิสูจน์ตัวเองในถิ่น แอนฟิลด์ ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากนัก เพราะมักถูกอาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้ง แต่ บาเบล ก็เคยทำให้ทั้ง แวน บาสเท่น และ “เอล ราฟา” ราฟาเอล เบนิเตซ เทรนเนอร์ของ “หงส์แดง” รวมถึงแฟนบอลชาวดัตช์ สามารถคาดหวังถึงอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้าได้ ว่าจะต้องสดใสซู่ซ่าแน่นอน
ทั้งนี้ แวน บาสเท่น ให้สัมภาษณ์ถึง บาเบล ในช่วงนั้น โดยกล่าวว่า “บาเบล มีความสามารถมากพอที่กลายเป็น เธียร์รี่ อองรี คนใหม่ได้เลย” นั่นจึงเป็นคำตอบที่ว่าทำไม ลิเวอร์พูล ถึงยอมจ่ายเงินตั้ง 11.5 ล้านปอนด์ เพื่อกระชากตัวดัตช์ผิวหมึกรายนี้มาร่วมทีม และผลงานของ บาเบล ในฤดูกาลแรกก็ไม่ขี้เหร่เหมือนดาวรุ่งหลายๆ คน เพราะ 49 นัดในพรีเมียร์ลีก เขายิงไปถึง 10 ประตู
บาเบล เป็นกองหน้ากึ่งปีกที่สามารถเล่นได้ทั้งสองฝั่ง ถูกเรียกตัวติดทีมชาติครั้งแรกในการพบกับทีม “ผีดิบ” โรมาเนีย ในฟุตบอลยูโร 2008 รอบคัดเลือก เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2006 พร้อมกับประเดิมยิงประตูให้กับทีม “อัศวินสีส้ม” ได้ในแมตช์นั้น เพราะทีมดัตช์ฝังโรมาเนียจมดินในบ้านของตัวเองไป 2-0
สำหรับในพรีเมียร์ลีก บาเบล โชว์ฟอร์มพอใช้ได้ โดยผลงานระดับ “มาสเตอร์พีซ” เป็นเกมกับทีม “แกะเขาเหล็ก” ดาร์บี้ เพราะแมตช์นั้น บาเบล วิ่งเข้าหาบอลบนเส้นเขตโทษ ล็อกหลบแนวรับ ดาร์บี้ หลังหักไปถึง 2 ราย ก่อนจะบรรจงอัดบอลเข้าประตูอย่างสวยงามและเฉียบคม เป็นประตู 2-0 ก่อนจะจบเกมด้วยชัยชนะ 6-0 ทำให้ บาเบล ตกเป็นเป้าสายตาของสื่อต่างประเทศตั้งแต่นั้นมา ว่าจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงถิ่น แอนฟิลด์ ในอนาคตข้างหน้า
เส้นทางฟุตบอลของเขา เริ่มจากการติดทีมเยาวชนของสโมสรที่ปั้นนักเตะชื่อดังมาแล้วมากมายอย่าง อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ยอดทีมแดนกังหันลม ในปี 1997 ตั้งแต่เขายังอายุเพียง 11 เท่านั้น แต่ฤดูกาลแรกยังไม่มีผลงานที่เด่นชัดอะไรมากมายนัก อาจเป็นเพราะกระดูกยังบอบบางอยู่ อย่างไรก็ตามอีก 7 ปีต่อมา เมื่ออายุ 18 ปีเขาก็ได้รับสัญญาอยู่โยงในทีม ในฐานะนักฟุตบอลอาชีพได้อย่างเต็มภาคภูมิ หลังจากผ่านการฝึกสอนในระดับต่างๆ มาอย่างโชกโชน
2 เดือนหลังจากเซ็นสัญญา โรนัลด์ คูมัน เทรนเนอร์ของ อาแจ็กซ์ ในตอนนั้น จับเขาลงเล่นในทีมชุดใหญ่ในเกมที่พบกับทีม เอดีโอ เดน ฮากก์ ที่นัดนั้น อาแจ็กซ์ ถล่มยับไปถึง 4-0 และทำประตูแรกกับทีมอาแจ็กซ์ ได้ในอีก 9 เดือนต่อจากนั้น ในเกมที่ถล่ม เดอ กราฟสคัป ไปถึง 5-0 จากนั้นเมื่อมาถึงปี 2005 บาเบล ก็สร้างชื่ออีกครั้งด้วยการยิงประตูชัยให้ต้นสังกัดเก่าเอาชนะทีม พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น อริร่วมลีก ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลดัตช์ ซูเปอร์ คัพ ไป 2-1 ตั้งแต่นั้นมาเขาก็กลายเป็นตัวหลักของทีมมาโดยตลอดก่อนโดนเรียกติดทีมชาติในปี 2006
และในโอลิมปิก 2008 ที่แดนมังกรคราวนี้ แม้ต้นสังกัดอย่าง “หงส์แดง” จะค่อนข้างกีดกันที่จะให้เขาเข้าร่วมกับทีม “อัศวินสีส้ม” ในการชิงชัยแชมป์โอลิมปิก แต่เชื่อว่าคงไม่มีใครที่จะมาหยุดความมุ่งมั่นของดาวรุ่งดัตช์รายนี้ได้อีกแล้ว เพราะแม้แต่เจ้าตัวเองก็ออกอาการอยากเล่นจนตัวสั่น เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ให้กับตนเอง และหากสรุปรวมความสามารถทั้งหมดของเขา ทั้ง ความเร็ว, ทักษะ, ความคิดสร้างสรรค์, การจบสกอร์ ด้วยวัยเพียงย่าง 22 กะรัตแบบนี้ คงไม่เกินเลยนักถ้าจะบอกว่า “น่าเหลือเชื่อ” สำหรับดาวรุ่งดวงนี้ในโอลิมปิก 2008