ประวัติ อเล็กซานเดอร์ ซง
อเล็กซานเดอร์ ซง
ซง มีชื่อเต็มว่า อเล็กซานเดอร์ ซง บิลลง เกิดเมื่อวันที่ 9 กันยายน ปี 1987 ที่ ดูอาล่า ประเทศแคเมอรูน เป็นหลานชายของ ริโกแบร์ ซง เซ็นเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีม "หมอผี" ชุดใหญ่ อดีตผู้เล่นของ ลิเวอร์พูล ปัจจุบัน ซง ค้าแข้งอยู่กับ อาร์เซน่อล ยอดทีมในศึกพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ ในตำแหน่ง กองหลัง
เริ่มต้นชีวิตค้าแข้ง
2003-2006 บาสเตีย
เส้นทางค้าแข้งของ ซง เริ่มต้นในฝรั่งเศส จากการเข้าร่วมเป็นนักเตะเยาวชนของ บาสเตีย เมื่อฤดูกาล 2003-2004 และใช้เวลาเพียงฤดูกาลเดียวในการก้าวขึ้นมายึดตำแหน่งในทีมชุดใหญ่ และรวมแล้วได้ลงเล่นตลอดปีนั้นไปถึง 34 นัดเลยทีเดียว ส่งผลให้ได้รับความสนใจจากหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ ได้แก่ อินเตอร์ มิลาน,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, โอลิมปิก ลียง และ มิดเดิ้ลสโบรช์
แต่ใครเล่าจะช่ำชองวิธีเข้าหาเด็กมากไปกว่า อาร์เซน่อล ของ อาร์แซน เวนเกอร์ โดยกุนซือชาวฝรั่งเศส ได้จัดการเชิญให้ ซง มาร่วมทดสอบฝีเท้ากับสโมสรในช่วงปรีซีซั่นที่ประเทสออสเตรีย และในช่วงเวลาไม่กี่คืน ซง ก็เสียตัว! เอ๊ย หลงคารมปล่อยตัวปล่อยใจให้ "ไอ้ปืนใหญ่" ไปหมดสิ้น เซ็นสัญญาย้ายมาเป็นเด็กในสังกัด "ปืนโต" แบบยืมตัว ในซีซั่น 2005-2006
2006-ปัจจุบัน : อาร์เซน่อล
อาร์เซน่อล ค่อยๆ ฟูมฟัก ปล่อยให้หลาน ซง ได้ลงสัมผัสเกมสร้างกระดูกแบบเบาะๆ ไป 5 นัด จากนั้นก็ปฏิบัติการเซ็นสัญญา 4 ปี คว้าตัวมาจาก บาสเตีย เป็นการถาวร ด้วยค่าตัว 1 ล้านปอนด์ (66 ล้านบาท) แบบแยบยล ในเดือนมิถุนายน ปี 2006 โดยดาวเตะ "หมอผี" ซึ่งเล่นได้ทั้งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟและมิดฟิลด์ตัวรับนั้น ถูกส่งลงเปิดซิงในเกมพรีเมียร์ลีก ที่ อาร์เซน่อล เชือดนิ่ม เอฟเวอร์ตัน 2-0 เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2005 ในฐานะตัวสำรอง และได้ลงเป็นตัวจริงเล็กน้อยในช่วงปลายซีซั่นช่วงที่ เชส ฟาเบรกาส และ จิลแบร์โต้ ซิลวา มีปัญหาบาดเจ็บหรือถูกจับพักการได้สวมชุด "เดอะ กันเนอร์ส" ด้วยวัยเพียง 18 ปี เท่านี้ก็สามารถการันตีความเก่งกาจของ ซง ได้ในระดับหนึ่ง เพราะสายตาของ เวนเกอร์ นั้น ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าแหลมเปี้ยวยิ่งกว่าไอ้นั่นเสียอีก ถูกใจเด็กคนไหน โอกาสที่เด็กมันจะเกิดถือว่ามีมากเหลือเกิน และในปี 2007 ซง ก็สามารถทำประตูแรกให้ อาร์เซน่อล ได้ ในเกมคาร์ลิ่ง คัพ ที่บุกไปถล่ม ลิเวอร์พูล 6-3 เมื่อวันที่ 9 มกราคม
กระนั้น โอกาสที่ ซง จะเบียดรุ่นพี่ระดับพระกาฬขึ้นมายึดตำแหน่งตัวจริงได้นั้น ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร เพราะพี่ๆ ที่ยืนขวางทางมาตลอดนั้นมีนามหนาวๆ ทั้งนั้น อาทิ โซล แคมป์เบลล์, โคโล ตูเร่, วิลเลี่ยม กัลลาส หรือแม้แต่ ฟิลิปป์ เซนเดรอส ยังงี้ เวนเกอร์ ก็เลยเลือกที่จะปล่อยให้เจ้าตัวไปหาประสบการณ์กับ ชาร์ลตัน แอธเลติก แบบยืมตัวตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม ถึงสิ้นสุดซีซั่น 2006-2007 ดีกว่า
ผลงานของ ซง นั้น โดดเด่นเหลือหลาย นั่นคือการนำ "ดาบอัศวิน" ตกชั้น ก่อนเผ่นแน่บกลับมาอยู่กับ อาร์เซน่อล อย่างสบายใจเฉิบตามเดิม แต่อย่าเข้าใจผิดไป เพราะความจริงแล้ว ซง ทำหน้าที่สกัดกั้นอย่างสุดความสามารถจนได้รับคำชมนับไม่ถ้วน
เข้าถึงฤดูกาล 2007-2008 ซง กลายเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักของ อาร์เซน่อล ยามลงเล่นในคาร์ลิ่ง คัพ และก็ทำผลงานเด่นพาทีมไปถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนแพ้ให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แบบเละเทะ แต่เจ้าตัวก็ยังยืดได้ เพราะเกมที่แพ้นั้น เขาบินไปรับใช้ชาติบ้านเกิดในศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ
วันที่ 30 มกราคม 2007 ซง ได้ถูกยืมตัวไปเล่นเป็นตัวจริง ให้กับทีม ชาร์ลตัน และทำประตูแรกได้ ในแมทช์ถล่มวีแกนไป 4-1
ทีมชาติแคเมอรูน
ซง มีชื่อติดทีมชาติครั้งแรกก็ในเนชั่นส์ คัพ 2008 โดยสาเหตุที่ อ็อตโต้ ฟิสเตอร์ กุนซือ "หมอผี" ยอมเสี่ยงหนีบ ซง ซึ่งไม่เคยมีชื่อติดทีมชาติเลยไปด้วยนั้น ก็เพราะเขาประทับใจกับฟอร์มแกร่งเกินพิกัดในคาร์ลิ่ง คัพ โดย ซง ได้ประเดิมประสบการณ์เปิดซิงทีมชาติชุดใหญ่ เมื่อถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน สเตฟาน เอ็มเบีย ในช่วงพักครึ่งของเกมแบ่งกลุ่ม นัดแรก ที่แพ้ยับต่อ อียิปต์ แชมป์เก่าและแชมป์ 2 สมัยซ้อนในบั้นปลาย 2-4 แต่เจ้าตัวก็มีสิ่งที่น่าจดจำอยู่บ้าง เมื่อได้ลงเล่นเคียงข้างคุณลุง ริโกแบร์ ด้วย
จากนั้น ซง ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาเป็นกำลังสำคัญของ แคเมอรูน และกลายเป็นนักเตะที่มีแนวโน้มว่าจะขาดไม่ได้ในอนาคต หลังคว้าตำแหน่ง "แมน ออฟ เดอะ แม็ตช์" ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะโชคร้ายได้รับบาดเจ็บในรอบชิงชนะเลิศ และจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวออก หมดสิทธิ์ล้างอาย อียิปต์ อย่างน่าเสียดาย แต่ถึงไงก็ถือว่าเจ้าตัวสอบได้เกรดเอแล้ว โดยมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมแห่งทัวร์นาเมนต์เป็นประกัน
เกียรติประวัติที่เคยได้รับ
ทีมชาติแคเมอรูน
แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ : รองแชมป์ 2008ระดับส่วนตัว
ติด 11 นักเตะยอดเยี่ยม แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 2008