ประวัติ เซบาสเตียน โจวินโก้

| 01/01/1970 07:00 น. | 1497 Views

โจวินโก้ : บาร์เซโลนาอยากได้ตัวผมไปร่วมทีมจริง

     แนวรุกร่างเล็กชาวอิตาเลียน เผยว่าเคยได้รับข้อเสนอจากทีมดังแห่งลาลีกาสเปนจริง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า รวมทั้งตนเองยังสุขดีกับการค้าแข้งใน MLS ด้วย

     เซบาสเตียน โจวินโก้ ตัวรุกสารพัดประโยชน์ของโตรอนโต้ เอฟซี ออกมาเปิดเผยว่า เคยถูกบาร์เซโลนาทาบทาบให้ไปร่วมทัพมาแล้ว แต่ดีลนี้ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า รวมถึงตัวเขาเองก็ยังไม่อยากทีมด้วย

     กองกลางร่างจิ๋วทีมชาติอิตาลีทำผลงานได้อย่างสุดยอดในลีกแดนลุงแซม หลังคว้าตำแหน่งดาวซัลโวด้วยผลงาน 22 ประตู พร้อมทำอีก 16 แอสซิสต์ ทำให้เขากลายผู้เล่นประวัติศาสตร์ของเอ็มแอลเอส หลังทำประตูรวมกับแอสซิสต์สูงสุดตลอดกาล

     "เรื่องที่บาร์เซโลนาแสดงความสนใจในตัวผมนั้นเป็นความจริง แต่ก็เป็นการคุยกันช่วงสั้นๆเท่านั้น และมันก็ไม่มีอะไรคืบหน้าไปมากกว่านี้" อดีตแข้งยูเวนตุส กล่าวกับ SportItalia

     "ผมยังมีความสุขมากที่โตรอนโต้ ผมสนุกับชีวิตที่นี่มากแม้จะได้มาอยู่เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น ผมต้องการที่จะเล่นให้โตรอนโต้ไปอีกนาน และหวังจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยพัฒนา MLS ด้วย"

 

เซบาสเตียน โจวินโก้  

ประวัติความเป็นมา

เซบาสเตียน โจวินโก้ แฟนตาซิสต้าคนใหม่แห่งวงการฟุตบอลอิตาลี เกิดเมื่อวันที่ 26 มกราคม 1987 ที่เมือง ตูริน ประเทศอิตาลี ปัจจุบัน ค้าแข้งอยู่กับสโมสร "ม้าลาย" ยูเวนตุส ทีมดังในศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี โดยเล่นในตำแหน่ง มิดฟิลด์ตัวรุก กล่าวได้ว่า "เซบา" เป็นชาวเมืองตูริน โดยกำเนิด คุณแม่เป็นคนคาตันซาโร่ ขณะที่คุณพ่อมาจากซิซิลี่

ด้วยรูปร่างขนาดย่อมเยาที่มีส่วนสูงเพียง 164 ซม. บวกกับลีลาการเล่น รวมถึงเส้นทางการก้าวขึ้นมาที่อยู่ภายใต้การปกครองของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ เทรนเนอร์จอมคิดมาก เช่นกัน ทำให้ โจวินโก้ ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ จานฟรานโก้ โซล่า อดีตกองหน้าพรสวรรค์คนหนึ่งของทีมชาติอิตาลี ที่สูงไม่ต่างกันคือ 166 ซม. อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เริ่มต้นอาชีพค้าแข้ง

e

โจวินโก้  เติบโตขึ้นมาด้วยความรักในฟุตบอล และเตะตาแมวมองของ "เจ้าม้าลาย" อย่างจัง จนถูกดึงตัวมาปลุกปั้น เมื่อปี 2001 ขณะอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น และเริ่มเป็นที่รู้จักในวงแคบ หลังนำ ยูเว่ คว้าแชมป์ "พริมาเวร่า" (เยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี) ในซีซั่น 2005-2006

ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2007 โจวินโก้ ได้โอกาสลงเล่นในทีมชุดใหญ่ให้กับยูเวนตุสเป็นครั้งแรก ในเกมเซเรีย บี ที่พบกับ โบโลญญ่า โดยเขาลงเล่นเป็นตัวสำรองแทน ราฟฟาเอเล่ ปาลลาดิโน่ อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังไม่ค่อยได้ลงเล่นให้กับ ยูเวนตุส มากนัก ทำให้ หลังฤดูกาลดังกล่าว โจวินโก้ ถูกปล่อยตัวให้ เอ็มโปลี ยืมตัวไปใช้งาน และทำผลงานเด่นทั้งลากเลื้อย, จ่าย และยิง 6 ประตู จากการลงเล่น 35 นัด (ตัวจริง 20 นัด)

ด้วยผลงานอันโดดเด่น ทำให้ ยูเว่ อดใจไม่ไหวต้องตัดสินใจดึงตัว โจวินโก้ กลับมาเล่นที่ถิ่น สตาดิโอ โอลิมปิโก โดยปฏิเสธ ปาแลร์โม่ ที่เคยอยากได้ตัวสตาร์ร่างจิ๋วรายนี้เป็นส่วนหนึ่งในสัญญาซื้อขายตัว อเมารี ด้วยความหวังว่าจะดันเจ้าตัวขึ้นมาเป็นสตาร์ดวงใหม่แทนที่ พาเวล เนดเวด และ อเลสซานโร เดล ปิเอโร่ ที่โรยราลงทุกที และในวันที่ 25 มิถุนายน 2007 เขาก็กลับมาสู่อ้อมอกของ ยูเวนตุส อีกครั้งเพื่อสำหรับเตรียมทีมในฤดูกาล 2008/2009

ทีมชาติอิตาลี

โจวินโก้ ผ่านการเล่นให้กับทีมชาติอิตาลีระดับเยาวชนมาแล้วทุกรุ่นมาแล้วทุกระดับ ตั้งแต่ยู-16, 17, 18, 19, 20 และปัจจุบัน "เซบา" ก็เล่นให้ทีมชาติอิตาลี รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ภายใต้การนำของ ปิแอร์ลุยจิ กาซิรากี้ ที่เวลานี้ติดรวมแล้ว 14 นัด

เกมแรกของ โจวินโก้ เกิดขึ้นในวันที่ 1 มิถุนายน 2007 ซึ่งเป็นเกมที่พบกับ แอลเบเนีย โดยเขาสามารถจ่ายบอลให้กับ อควาเฟสก้า เพื่อนร่วมทีม ยิงประตูเฉือนชนะ 1-0 ได้อีกด้วย นอกจากนี้ โจวินโก้ ยังอยู่ในชุดคว้าแชมป์ตูลง คัพ ทัวร์นาเมนต์ 2008 ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา และได้รับเสียงโหวตให้ครองตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมของรายการด้วย

ล่าสุด โจวินโก้ เป็นหนึ่งในสมาชิกทีมฟุตบอลทีมชาติอิตาลีชุดลุยศึกโอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่ปักกิ่ง ประเทศจีน และเขาก็มีส่วนในการยิงประตูเบิกร่องในเกมที่ช่วยให้ อิตาลี ชนะ ฮอนดูรัส ไปอย่างสวยงาม 3-0 ในแมตช์แรกของรอบแบ่งกลุ่ม

เกียรติยศที่เคยได้รับ

ระดับสโมสร

ยูเวนตุส
2005-2006 แชมป์ Torneo di Viareggio
2006-2007 แชมป์ เซเรีย บี

ทีมชาติอิตาลี
2008 แชมป์ตูลง คัพ ทัวร์นาเมนต์

ADS