ประวัติ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่

| 01/01/1970 07:00 น. | 1242 Views
มาสเครับลูกบล็อกร็อบเบนสำคัญสุดในชีวิต



ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ มิดฟิลด์จอมขยันทีมชาติอาร์เจนติน่า หนึ่งในตัวแทนรอบชิงเวิลด์ คัพ 2014 ออกมายอมรับโชคดีที่สกัดลูกยิงชี้ชะตาของ อาร์เยน ร็อบเบน ปีกความเร็วสูงทีมชาติฮอลแลนด์ ในช่วงวินาทีสุดท้ายของการแข่งขัน ก่อนที่ "ฟ้าขาว" จะชนะจากการดวลจุดโทษ ในศึกฟุตบอลโลก รอบตัดเชือก

  "มันน่ากลัวมาก ผมคิดว่าผมลื่น ผมคิดว่าผมคงบล็อกไม่ได้ ผมคิดว่าคงตามเขาไม่ทัน ผมคิดอะไรฟุ้งซ่านไปหมด แต่ผมก็ตามไปบล็อกจนได้ และเราไม่เสียประตู" ห้องเครื่องบาร์เซโลน่า กล่าวผ่าน ดิ อินดีเพนเดนท์ สื่อยักษ์ใหญ่แห่งประเทศอังกฤษ 
 
  มาสเคราโน่ เสริมต่อว่าสิ่งที่ทำให้เขาตามร็อบเบนทัน เพราะแนวรุกดัตช์แมน เลือกยิงช้าไปหนึ่งจังหวะ "เขาเล่นกับ สไนเดอร์ ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่เพราะเขาเล่นต่ออีกหนึ่งจังหวะ เขาไม่ยิงตั้งแต่แรก ผมเลยมีโอกาสอีกเสี้ยววินาที จากการยิงช้าของเขานั่นแหละ ผลที่ออกมามันไม่ได้ทำให้ผมแปลกใจนัก ผมแค่ทุ่มสกัดสุดตัว ถ้าผมเล่นผิดจังหวะ มันก็คงจะเป็นจุดโทษ ทุกคนสามารถทำแบบนั้นได้ ผมโชคดีตามทัน ทีมเราโชคดีที่ ร็อบเบน เล่นต่ออีกหนึ่งจังหวะ การเข้าไปในรอบชิงชนะเลิศ คุณต้องพึ่งโชคเล็กน้อย"

 

ฮาเวียร์ มาสเคราโน่

ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ นักฟุตบอลชื่อดังชาวอาร์เจนไตน์ หรือที่มีชื่อเล่นว่า "มาสเค" และ "เจเฟซิโต้" เกิดเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 1984 ที่เมือง ซาน โลเรนโซ่ ประเทศอาร์เจนติน่า ปัจจุบัน ค้าแข้งอยู่กับ สโมสร ลิเวอร์พูล ยอดทีมในลีกพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ โดยตอนนี้ เขาถือสัญชาติ อิตาลี ในการลงเล่นให้กับต้นสังกัด

เริ่มต้นชีวิตค้าแข้ง

2003-2005 : ริเวอร์เพลท

นักเตะเจ้าของความสูง 1.75 เมตร เริ่มเส้นทางการค้าแข้งสายอาชีพกับยักษ์ใหญ่ของลีก “ฟ้า-ขาว” ริเวอร์เพลท และนับว่าเป็นเรื่องแปลกแต่จริง เมื่อ มาสเคราโน่ มีชื่อติดทีมชาติอาร์เจนตินา ชุดเยาวชน ตั้งแต่ยังไม่ได้ลงประเดิมสนามให้กับทีมต้นสังกัดเลยซักนัด

ในฤดูกาล 2003-2004 "มาสเค" คว้าแชมป์ลีกได้กับต้นสังกัด และเป็นหนึ่งดาวรุ่งที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่น จนทำให้ทีมเศรษฐีตลอดกาลอย่าง เรอัล มาดริด แสดงความสนใจที่จะคว้าตัวไปร่วมทีม แต่ทว่าการเจรจาต้องยุติลง เพราะ ริเวอร์เพลท ไม่ต้องการปล่อยตัวออกไป
 
ฤดูกาล 2004-2005 เป็นซีซั่นสุดท้ายที่ “มาสเค” ลงเล่นให้ทีม ริเวอร์เพลท และมันก็เป็นปีที่ไม่น่าจดจำเท่าไหร่นัก เพราะเจ้าตัวไม่สามารถช่วยให้ต้นสังกัดทำผลงานได้ดีไปกว่า การจบฤดูกาลเพียงแค่อันดับที่ 3 ของลีก จนในที่สุด โครินเธียนส์ ทีมดังแดนกาแฟ ก็มาคว้าตัวไปร่วมทีมด้วยราคา 15 ล้านดอลลาร์ หรือสมัยนั้น คิดเป็นเงินไทยสมัยได้ 480 ล้านบาท

2005-2006 : โครินเธียนส์

 “มาสเค” ย้ายมาร่วมทีมโครินเธียนส์ในเดือน เมษายน 2005 แต่เขาก็ ไม่ค่อยได้มีโอกาสลงเล่นให้ต้นสังกัดในลีกแดนกาแฟมากนัก เนื่องจากประสบปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน แต่อย่างน้อยที่สุดก็ยังเป็นส่วนหนึ่งในชุดที่คว้าแชมป์ลีกบราซิล มาครองได้ในปี 2005 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่สองของเขาที่ โครินเธียนส์

อย่างไรก็ตาม ในปี 2006 มาสเคราโน่ ก็ไม่ได้มีบทบาทให้กับโครินเธียนส์มากนัก และต้องประสบความล้มเหลวกับทีมทั้งในเกมลีกซึ่งทีมเกือบจะตกชั้น และ ศึก โคปา ลิเบอร์ตาโดเลส คัพ ที่ต้องตกรอบไปอย่างไม่ได้ลุ้น หลังพ่าย ริเวอร์ เพลท ไปในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

ทว่าเส้นทางในการค้าแข้งที่บราซิล มันก็ต้องจบลง หลังจากที่ในช่วงซัมเมอร์ ปี 2006 เขาได้ย้ายไปร่วมทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมดังในลีกพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ แบบไม่เปิดเผยค่าตัว เคียงข้างกับเพื่อนร่วมทีมชาติอาร์เจนติน่าอย่าง คาร์ลอส เตเบซ

2006-มกราคม 2007 : เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

เป็นเรื่องเซอร์ไพรซ์ไม่น้อย เมื่ออยู่ดีๆ ยอดมิดฟิลด์ตัวรับเลือด “ฟ้า-ขาว”  เลือกที่จะย้ายไปร่วมทีมระดับกลางอย่าง “ขุนค้อน” มากกว่าที่จะเป็นสโมสรยักษ์ใหญ่ของยุโรป ทั้งๆ ที่ ก่อนหน้านี้ เขาตกเป็นข่าวหนาหูว่า มีหลายทีมยักษ์ชื่อดังกำลังให้ความสนใจคว้าตัวเขาไปร่วมทีมอยู่ก็ตาม

ก่อนหน้าที่ "มาสเค่" จะมาเล่นในถิ่น อัพตัน ปาร์ก เวสต์แฮม ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ แต่หลังจากที่ เขามาร่วมทีม ก็ดูเหมือนว่า เวสต์แฮม ก็ยังคงทำผลงานได้ไม่ดีเช่นเดิม ส่งผลให้ ในวันที่ 16 มกราคม 2007 ลิเวอร์พูล จัดการขอยืมตัว มาสเคราโน่ ไปใช้งาน จนเกิดเป็นประเด็นข้อถกเถียงเกี่ยวกับการย้ายทีมที่เกิดขึ้น เนื่องจาก กฎของฟีฟ่า ระบุึว่า ห้ามนักเตะเล่นให้กับสองสโมสรในระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม จนถึง วันที่ 30 มิุถุนายนปีถัดไป ซึ่งกรณีของ "มาสเค" อยู่ในข่ายดังกล่าว โดยเขาเล่นให้กับทั้ง โครินเธียนส์ และ เวสต์แฮม มาแล้วก่อนหน้านี้

แต่ทุกอย่างก็ลงเอยด้วยดี ไม่มีปัญหา ซึ่งลิเวอร์พูลก็ได้สิทธิ์ใช้งาน "มาสเค" เป็นครั้งแรกด้วยสัญญายืมตัว 18 เดือน โดยชื่อของเขาถูกบรรจุอยู่ในทีม "หงส์แดง" อย่างเป็นทางการจาก พรีเมียร์ลีก เกิดขึ้นใน วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2007

ในระหว่างที่ลงเล่นภายใต้ชุดแข่งของลิเวอร์พูล เจ้าตัวกลับมาโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมอีกครั้ง สไตล์การเล่นอันดุดัน วิ่งไล่เบียดแย่งบอลแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำให้แฟนๆ “หงส์แดง” หลงรักมิดฟิลด์รายนี้แบบหมดหัวใจ จนในที่สุด “เอล ราฟา” ก็ตัดสินใจทุ่มเงินถึง 18 ล้านปอนด์ ด้วยสัญญา 4 ปี เพื่อถือสิทธิ์ในการครอบครองแต่เพียงผู้เดียว

จนกระทั่งวันนี้ “มาสเค” กลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญ และกำลังหลักของทีมชุดใหญ่ ลิเวอร์พูล ไปเรียบร้อยแล้ว ตราบใดที่เจ้าตัวไม่มีอาการบาดเจ็บ ไม่ติดโทษแบน ก็คงไม่มีทางที่จะพลาดการลงสนามอย่างแน่นอน เอาง่ายๆ ว่าถ้า “หงส์แดง” ไม่ใช้การเล่นระบบ 4-5-1 ชาบี อลอนโซ่ หนึ่งในมิดฟิลด์ตัวเก่ง ก็คงทำได้ดีที่สุดเพียงแค่เป็นตัวสำรองของ มาสเคราโน่ เท่านั้น

ทีมชาติอาร์เจนติน่า

ในเดือนกันยายน 2001 มาสเคราโน่ เป็นหนึ่งในทีมชาติอาร์เจนติน่า ชุดคว้าอันดับ 4 ในรายการฟุตบอลชิงแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี และเขาก็ได้เลื่้อนขึ้นไปเล่นทีมชุดใหญ่ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2003 ในเกมอุ่นเครื่องที่พบกับ อุรุกวัย ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่เขาจะได้ลงเล่นให้กับทีมต้นสังกัดอย่าง ริเวอร์ เพลท เสียอีก

ในช่วงระหว่างการแข่งขันฟุตบอล อเพอร์ตูร่า แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2003-2004 มาสเคราโน่ ถูกเรียกตกทีมชาติฟ้า-ขาว ชุดลุยศึกฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลก 2003 ซึ่งแม้เขาจะช่วยให้ทีม คว้าได้เพียงอันดับ 4 แต่ทว่า เขาก็เป็นนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในทัวร์นาเม้นต์ดังกล่าว แม้ว่า ในรอบชิงที่ 3 เขาจะโดนแบนห้ามลงแข่งก็ตาม

ในเดือนมกราคม 2004 "มาสเค" ร่วมทีมอาร์เจนติน่า รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เดินทางไปเล่นฟุตบอล ปรี-โอลิมปิก ที่ประเทศ ชิลี และเขาก็มีส่วนสำคัญที่ในการพาทีมคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ และหลังจบฤดูกาลแข่งขันฟุตบอลลีก 2003-2004 มาสเคราโน่ ก็ยังถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่ไปลุยศึกฟุตบอลโคปา อเมริกา 2004 แต่ก็ทำได้แค่รองแชมป์ หลังพ่ายให้กับ บราซิล ไปในรองชิงชนะเลิศ แต่เขาก็ยังโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจพอที่จะได้รับการโหวตจากเพื่อนร่วมทีมให้้เป็นนักเตะฟ้า-ขาวที่ดีที่สุดของทัวร์นาเม้นต์ นอกจากนั้นแล้ว ในปีเดียวกันนี้เอง เขาก็สามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิก ที่เอเธนส์ ร่วมกับทีมชาติอาร์เจนติน่า ได้สำเร็จ

และนับตั้งแต่นั้น เป็นต้นมา มาสเคราโน่ ก็เป็นแกนหลักให้กับทีมชาติมาโดนตลอด โดยผ่านการแข่งขันทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ๆ มาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรายการ คอนเฟเดอเรชั่นคัพ ปี 2005, ฟุตบอลโลก 2006 รอบสุดท้าย ที่ประเทศ เยอรมัน และฟุตบอลโคปา อเมริกา 2007 ที่ ประเทศ เวเนซุเอล่า  แต่ว่าก็ไม่สมหวังคว้าแชมป์ใดๆ ได้เลย

ล่าสุด มาสเคราโน่ ก็ถูกเลือกติดทีมชุดลุย โอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่ปักกิ่ง ประเทศจีน ในฐานะโควตาผู้เล่นอายุเกิน 23 ปี

 

 

เกียรติประวัติที่เคยได้รับ

ระดับสโมสร

ริเวอร์เพลท
แชมป์ Primera División Argentina : 2003/2004
แชมป์ Copa Sudamericana : 2003
โครินเธียนส์
แชมป์ Campeonato Brasileiro: 2005
ลิเวอร์พูล
รองแชมป์ UEFA Champions League : 2006/2007

ระดับทีมชาติ

เหรียญทอง โอลิมปิก : 2004
รองแชมป์ โคปา อเมริกา : 2004
รองแชมป์ ฟีฟ่า คอนเฟเดอเรชั่น คัพ : 2005
รองแชมป์ โคปา อเมริกา : 2007

ADS