เอลวิส เพรสลีย์ ชายผู้หลงรักในเสียงเพลง
ถ้าได้ยินคำว่า "ร็อคแอนด์โรลล์" เกือบร้อยทั้งร้อยก็ต้องนึกถึงชายที่ชื่อ เอลวิส แอรอน เพรสลีย์ อย่างไม่ต้องสงสัยรวมถึงตัวผู้เขียนเองเนื่องด้วยผลงานเพลงที่ผสมผสานระหว่างป๊อปและเพลงคันทรี่ ทำให้แค่ฟังเพียงหนแรกก็รู้สึกหลงรักขึ้นมาแบบไม่รู้ตัวเลยทีเดียวของผมก็คือเพลง "Can't Help Falling In Love" จนบางครั้งก็มีคนตั้งคำถามว่าใครจะคิดว่าเด็กชายจากเมือง ทูเพโล ที่อาศัยอยู่ในบ้านขนาดเล็กจำนวนสองห้องของรัฐมิสซิสซิปปี้ จะเติบโตขึ้นมาสร้างตำนานให้กับวงการเพลง แม้เวลาบนโลกนี้จะน้อยไปหน่อยก็ตาม
ชีวิตที่พัวพันกับเสียงเพลง
จุดเริ่มต้นของในการหลงใหลในเสียงเพลงของ เอลวิส คงเริ่มมาจากวัยเด็กเพราะเจ้าตัวได้รับอิทธิพลจากการร่วมกิจกรรมในโบสถ์ทำให้เขาเกิดสนใจและเข้าร่วมในการร้องกอสเปล (ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า) ข้ามคืนอยู่บ่อยๆจนกระทั้งตอน 10 ขวบก็มีโอกาสในเข้าร่วมประกวดร้องเพลง หลังจากนั้นได้ 3 ปีครอบครัวก็ได้ตัดสินใจย้ายไปรัฐเทนเนสซีในปี พ.ศ. 2496 โดย เอลวิส ในตอนนั้นได้ทำงานเป็นช่างซ่อมแห่งหนึ่ง แต่ก็ไม่วายทิ้งเรื่องที่สนใจมาตลอดอย่างเสียงเพลงมีอยู่หลายครั้งที่ เอลวิส ใช้เวลาในช่วงพักกลางวันเพื่ออัดเสียง เป็นของขวัญให้กับแม่หรือเร่ขายให้กับคนแถวนั้นเพื่อหารายได้เพิ่ม ประจวบเหมาะกับคนจะมีชื่อเสียงมักอยู่ถูกที่ถูกเวลาเสมอเพราะเมืองที่เจ้าตัวทำงานอยู่เป็นที่ตั้งของ "Sun Studios" ที่มีเจ้าของคือ แซม ฟิลลิปส์ และที่โชคดีไปกว่านั้นก็คือ ฟิลลิปส์ กำลังหานักร้องคนใหม่และแนวเพลงใหม่ที่จะใช้กีตาร์ไฟฟ้าชูโรงบวกกับนักร้องก็ต้องร้องให้ดัง ทำนองก็เร็วกว่าเพลงอื่นๆ เป็นแนวเพลงสนุกสนานชวนให้ผู้คนเต้นตาม ก่อนที่ภายหลังจะกลายมาเป็นแนวเพลงที่เรารู้จักกันอย่าง "ร็อคแอนด์โรลล์" นั่นเอง
ชีวิตในเส้นทางสายดนตรี
ท้ายที่สุด เอลวิส ก็ได้เข้าสังกัด "Sun Studios" เพื่อทำตามความฝันสมัยเด็กที่เคยวาดไว้จนฟอร์มวง "Million Dollar Quartet" ขึ้นมาพร้อมกับฝากผลงานให้กับสตูดิโอ 5 เพลงด้วยกันจนวงนี้เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น จน เอลวิส ได้ผู้จัดการคนใหม่เป็น ทอม ปาร์คเกอร์ ที่มีความรู้ความสามารถในการตลาดเป็นอย่างดีและการโฆษณาของ ปาร์คเกอร์ ก็ได้ผลอย่างรวดเร็วเพราะ เอลวิส ได้เซ็นสัญญากับบริษัท RCA ในปี พ.ศ. 2498 จนมีเพลงและแผ่นเสียงเป็นของตัวเองชิ้นแรกในชีวิตที่มียอดขายเกินกว่า 1 ล้านแผ่น
จนเจ้าตัวได้ก้าวสู่วงการภาพยนตร์ในปี พ.ศ. 2499 และได้แสดงภาพยนตร์เรื่องแรกนั่นก็คือ "Love Me Tender" ยิ่งเป็นการตอกย้ำความโด่งดังเข้าไปอีก
ในขณะที่กำลังมีชื่อเสียงแบบสุดขีดเจ้าตัวก็โดนเกณฑ์ทหารเข้ารับใช้ชาติประจำการในหน่วยยานเกราะที่ประเทศเยอรมนี ระยะเวลา 2 ปี หลังจากปลดประจำการ เอลวิส ก็กลับเข้าสู่วงการอีกครั้งและได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี และเพลงในภาพยนตร์เรื่อง "GI Blues" ที่เจ้าตัวเล่นเป็นพระเอกก็ก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่งของบิลบอร์ดชาร์ตและครองอันดับหนึ่งเป็นเวลานานถึง 10 สัปดาห์ติดต่อกัน จนในปี พ.ศ. 2510 เอลวิส ได้ออกอัลบั้มเพลงกอสเปล ชุดที่สองซึ่งมีชื่อว่า How Great Thou Art และอัลบั้มนี้เองที่ทำให้เขาได้รับรางวัลแกรมมี่เป็นครั้งแรก
ตำนานที่ยังหายใจอยู่
หลังจากนั้นไม่กี่ปี พ.ศ. 2516 เอลวิส ประสบปัญหาเรื่องสุขภาพ เคยถูกนำส่งโรงพยาบาลด้วยโรคปอดบวม, โรคเยื้อหุ้มปอดอักเสบ และ โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ นอกจากต้องต่อสู้กับโรคที่สะสมมาเป็นระยะเวลานานแล้ว เขายังต่อสู้กับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยความเป็นศิลปินเจ้าตัวก็ยังตระเวนเปิดการแสดงตามคำเรียกร้องของแฟนเพลงตามเมืองต่างๆอยู่เสมอ จนในวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2520 หลังจากที่เอลวิส ไปหาทันตแพทย์ในตอนเช้า หลังเที่ยงคืนที่คฤหาสน์เกรสแลนด์ แฟนสาวของเอลวิสก็พบว่าเขาล้มในห้องน้ำ และเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ด้วยวัยเพียง 42 ปีเท่านั้น นับว่าเป็นการสูญเสียที่ต่อวงการเพลงและหนังโดยเฉพาะแฟนเพลงที่ช็อคทั่วโลก
แม้ตัวจะจากไปแต่ผลงานของเจ้าตัวยังมีมาถึงทุกวันนี้เห็นได้จากการที่นักร้องหลายๆคนเลือกหยิบบทเพลงมาร้องโคเวอร์ให้เห็นอยู่บ่อยครั้งและผมก็เชื่อว่าในอนาคตผลงานอมตะเหล่าจะยังโลดแล่นในวงการเพลงต่อไป สุขสันต์วันเกิด เอลวิส เพรสลีย์ "คิงส์ ออฟ ร็อค&โรล"