ประวัติ โรมัน พาฟลิวเชนโก้

| 01/01/1970 07:00 น. | 552 Views

http://img.thesun.co.uk/multimedia/archive/00637/Roman_Pavlyuchenko__637248a.jpg

นอกจากแฟนท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์แล้ว สาวกลิเวอร์พูลยังรู้จักดาวยิงนาม โรมัน พาฟลิวเชนโก้เป็นอย่างดี เพราะเจอหงส์ 2 นัดในซีซั่นนี้ยิงไปแล้ว 3 ประตู

สืบเนื่องจากรัสเซียทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในยูโร 2008 ทำให้นักเตะในทีมเนื้อหอมโดนทีมดังๆ ในยุโรปดึงไปค้าแข้งหลายราย แน่นอนว่า หัวหอกที่ชื่อโรมัน อนาโตเลวิช พาฟลิวเชนโก้ คือหนึ่งในนั้น

พาฟเกิดที่มอสตอฟคอย ในรัสเซีย เขาเริ่มต้นชีวิตค้าแข้งกับ ดินาโม สตาฟโรพอลในปี1999 ก่อนจะย้ายไปโรเตอร์ โวลโกกราด ในปี2000

พาฟลิวเชนโก้อยู่กับโรเตอร์ โวลโกกราด 3 ปี และทำผลงานเตะตาจนสปาร์ตัก มอสโก ทีมยักษ์ใหญ่ในถิ่นเกิดดึงไปร่วมทีม

pavlyuchenko



และที่นี่เอง หัวหอกดาวรุ่งก็ได้แจ้งเกิด จากผลงานยิง 77 ประตูจากการลงสนาม 147 นัด ทำให้เขาเป็นขวัญใจแฟนๆ และได้รับก้าวเป็นตัวหลักให้ทีมชาติชุดใหญ่เต็มตัว หลังจากที่เคยเล่นให้ทีมชุดยู-19 และ ยู-21มาแล้ว

พาฟลิวเชนโก้ถูกเรียกตัวติดทีมหมีขาวชุดใหญ่ในปี 2005 และนับจากนั้นเขาก็ได้รับโอกาสอย่างต่อเนื่อง

กราฟเส้นทางค้าแข้งของเขาพุ่งสูงขึ้น เมื่อกุนซือกุส ฮิดดิงก์ เรียกเขาเป็น 1 ใน 23 ขุนพลทีมชาติรัสเซียชุดลุยยูโร 2008 โดยเขายิงประตูแรกในทัวร์นาเม้นท์ได้ในเกมนัดแรกที่พ่ายต่อสเปนไปขาดลอย 1-4 และเกมที่ 3 ในรอบแรกที่ชนะสวีเดน 2-0

พาฟได้รับเลือกเป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ในเกมที่รัสเซียชนะกรีซ 1-0 แม้ว่าเขาจะยิงประตูไม่ได้ก็ตาม และยังโชว์ฟอร์มไฉไล ยิงประตูแรกให้รัสเซีย ก่อนจะไล่ถล่มฮอลแลนด์ในรอบสอง 3-1 ช่วยให้ทะลุเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้

การมาถึงรอบรองชนะเลิศของทัพหมีขาว ถือเป็นผลงานที่ทะลุเป้าหมาย เพราะไม่มีใครยกให้พวกเขาเป็นตัวเต็งมาก่อน

หลังจบทัวร์นาเม้นท์ดังกล่าว ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของพาฟ ทำให้เขาได้รับเลือกติด 1 ใน 23 ผู้เล่นในทีมยอดเยี่ยมประจำยูโร 2008 ด้วย

อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้น ผลงานที่น่าประทับใจ ทำให้พาฟลิวเชนโก้ตกเป็นเป้าหมายของหลายสโมสรดังทั่วยุโรป

สุดท้าย กลายเป็นท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ทีมดังจากอังกฤษที่ทุ่มทุนถึง 14 ล้านปอนด์ ขอซื้อเขาจากสปาร์ตักมาเสริมทัพในซัมเมอร์ที่ผ่านมา

เขาได้สวมเสื้อแข่งหมายเลข 9 แทนที่ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ หัวหอกบัลแกเรียที่ย้ายไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

นอกจากจะเทคโอเวอร์เบอร์เสื้อแล้ว พาฟยังต้องแบกรับความกดดันของแฟนๆ ไก่เดือยทอง และสโมสรแห่งนี้ที่หวังจะเห็นเขาเป็นตัวแทนของเบอร์บาตอฟ

อย่างไรก็ดี การเริ่มต้นชีวิตค้าแข้งในถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน ยังไม่สวยหรูนัก พาฟลิวเชนโก้ได้ลงเล่นนัดแรกให้ต้นสังกัดในเกมกับแอสตัน วิลล่า เมื่อวันที่15 ก.ย.ที่ผ่านมา

แต่กว่าจะยิงประตูแรกได้ก็ต้องรอจนถึงวันที่ 24 ก.ย.2551 ในเกมลีก คัพ รอบ 3 ที่ชนะนิวคาสเซิ่ล 2-1

สำหรับประตูแรกในพรีเมียร์ลีกมาถึงเอาวันที่ 26 ต.ค. 2551 ในเกมที่ไก่เดือยทองพิชิตโบลตัน 2-0 ซึ่งเป็นเกมส์แรกที่แฮรี่ เรดแนป ยอดกุนซือชาวอังกฤษเข้ามาคุมทีมฮวนเด รามอสที่คุมทีมจนอยู่ท้ายตาราง

หลังการมาของเรดแนป พาฟก็ปล็ดล็อกตัวเองได้ เขาก็เริ่มกลับคืนความสุดยอดเหมือนที่เคยเป็น เขายิงประตูชัยให้ทีมตราไก่ซึ่งเป็นบ๊วยของตาราง เอาชนะจ่าฝูงขณะนั้นอย่างลิเวอร์พูลได้ 2-1 เมื่อวันที่1 พ.ย.51 และที่เจ็บแสบก็คือดาวยิงรัสเซียยิงประตูชัยได้ในช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้ายด้วย

เท่านั้นไม่พอ พาฟยังชอบพังตาข่ายหงส์แดงมิใช่น้อย เพราะถัดมาในเกมคาร์ลิ่ง คัพเมื่อวันที่ 12 พ.ย. เขาก็ยิงได้อีก 2 ประตู ในเกมที่ชนะหงส์ 4-2 เขี่ยเดอะ ค็อปดาวรุ่งตกรอบ 4 รายการนี้ไป
เท่ากับว่าในรอบสองสัปดาห์ เขายิงประตูลิเวอร์พูลคนเดียว 3 ลูก (น้อยกว่ากองหน้าคู่ขาในทีมชาติของเขา อาร์ชาวิน แค่ลูกเดียว)ทำให้พาฟลิวเชนโก้เป็นขวัญใจแฟนๆ ตราไก่อย่างรวดเร็ว และเป็นที่ครั่นคร้ามของแฟนหงส์ไปโดยปริยาย

อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับเบอร์บาตอฟ เห็นทีพาฟลิวเชนโก้จะต้องใช้เวลาในการปรับตัวให้เข้ากับพรีเมียร์ลีก และหมั่นฝึกฝนพัฒนาตัวเองอีกพอสมควร

แต่เชื่อเหลือเกินว่า ด้วยทักษะในการครองบอล ผ่านบอล และยิงประตูที่ดีอยู่แล้ว (ฤดูกาลที่ผ่านมาลงสนาม 32 นัด ยิงได้ 14ลูก)น่าจะทำให้แฟนๆ ไก่เดือยทองลืมอดีตขวัญใจที่ชื่อเบิร์บ และรับพาฟ เข้าไปไว้ในใจแทนในไม่ช้า

pavlyuchenko


ทำเนียบความสำเร็จ

สปาร์ตัก มอสโก

2003: แชมป์รัสเซียน คัพ
2006: แชมป์รัสเซียน พรีเมียร์ลีก, ดาวซัลโวลีกจากผลงานการยิง 18 ประตู
2007: แชมป์รัสเซียน พรีเมียร์ลีก, ดาวซัลโวลีกจากผลงานการยิง 14 ประตู

ทีมชาติรัสเซีย
ติดทีมออลสตาร์ประจำทัวร์นาเม้นฟุตบอลยูโร 2008 

ADS