ประวัติ แมนนี่ ปาเกียว
แฟนตัวยง เบ็คส์ ขอเชียร์ ปาเกียว ขอบเวที
เดวิด เบ็คแฮม อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ เปิดเผยว่าตนเป็นแฟนมวยตัวยงของ แมนนี ปาเกียว ยอดกำปั้นชาวตากาล็อกแบบเหนียวแน่น พร้อมให้คำมั่นจะตามไปเชียร์ถึงเจ้าตัวถึงขอบเวทีที่เขตปกครองพิเศษมาเก๊าอย่างแน่นอน ในศึกชิงแชมป์โลกรุ่นเวลเตอร์เวต ขององค์กรมวยโลก หรือดับเบิลยูบีโอ ในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.ปาเกียว วัย 34 ปี เตรียมขึ้นชกไฟต์ที่ 62 ในชีวิตเจอกับ แบรนดอน ริออส กำปั้นชาวมะกันเพื่อชิงเข็มขัดรุ่น เวลเตอร์เวท ของสภามวยโลก โดยงวดนี้ไปชกกันที่ มาเก๊า เพื่อกู้ศักดิ์ศรีกลับมาหลังจากแพ้ ทิโมธี แบรดลีย์ และโดน ฮวน มานูเอล มาร์เกวซ น็อกหลับสนิทมวยไฟต์สำคัญแบบนี้แน่นอนว่าต้องมีเหล่าเซเล็บ, ดาราคนดังมาชมเพียบ รวมถึง เดวิด เบ็คแฮม ที่บินมาเป็นแขกรับเชิญในไฟต์นี้ เนื่องจากเจ้าตัวต้องมาเจรจาเรื่องธุรกิจกับ เชลดอน อเดลสัน เจ้าของคาสิโน เดอะ เวเนเทียน ที่เป็นสังเวียนชกครั้งนี้แบบพอดิบพอดี"เบ็คแฮม" ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นแฟนมวยของ "แพ็คแมน" และจะคอยเชียร์เจ้าตัวอยู่ข้างสนามแน่ "นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมผมอยู่ที่นี่และอยากบอกว่าตื่นเต้นเพียงใด ผมเป็นแฟนตัวยงของ แมนนี เราเคยเจอกันบ้างที่ ฟิลิปปินส์ ตอนไปทัวร์กับ แอลเอ กาแล็กซี เขาคือแรงบันดาลใจของทุกคนอย่างแท้จริง""ผมไม่ได้มีโอกาสคุยกับเขาบ่อยนัก แต่รู้ดีว่าไฟต์นี้ต้องมีความหมายกับเขามากเพราะเหตุภัยพิบัติที่ฟิลิปปินส์ ทุกคนให้การติดตามอยู่ตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และแน่นอนว่าเขาจะทำให้ผู้คนที่ ฟิลิปปินส์ มีรอยยิ้มบนใบหน้าอีกครั้ง" อดีตแข้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวby [De-Sign] 2013 - 11 - 24
แมนนี่ ปาเกียว
ชื่อเต็ม : เอ็มมานูเอล ดาพิดราน
ฉายา : แพ็ค-แมน
จอมทำลายล้าง
นักปราบนักมวยเม็กซิกัน
แชมป์มหาชน
รุ่นที่ดีที่สุด : ไลท์ เวลเตอร์เวท (140ปอนด์)
สูง : 5 ฟุต 7นิ้ว (170ซ.ม)
สัญชาติ : ฟิลิปินส์
วันเกิด : 17 ธันวาคม 1978
สถานที่เกิด : กิบาวี, บูกิดนอน, ฟิลิปปินส์
มือข้างถนัด : ซ้าย
สถิติการชกการชกทั้งหมด 54 ครั้ง
ชนะ 49 ครั้ง
น็อกต์เอาท์ 37 ครั้ง
แพ้ 3 ครั้ง
เสมอ 2 ครั้ง
เอ็มมานูเอล ดาพิดราน ปาเกียว หรือที่รู้จักกันในนาม แมนนี่ “แพ็ค-แมน” ปาเกียว เป็นยอดมวยชาวฟิลิปปินส์ มีอาชีพเสริมคือ นัดแสดง และ นักร้อง เขาเป็นอดีตแชมป์ WBC ไลท์เวท(135ปอนด์) WBC ซุปเปอร์ เฟเธอร์เวท(130ปอนด์) IBF ซุปเปอร์ แบนตั้มเวท(118ปอนด์) และ WBC ฟลายเวท (112ปอนด์)
เขาเคยได้รับตำแหน่ง เดอะริงก์ แม็กกาซีน(แชมป์มหาชน) ในรุ่น ไลท์เวท(135ปอนด์) ซุปเปอร์ เฟเธอร์เวท(130ปอนด์) และ เฟเธอร์เวท(126ปอนด์) ปาเกียวถือเป็นนักมวยชาวฟิลิปปินส์ และเอเชียคนแรกที่เป็นแชมป์ถึงห้ารุ่นชีวิตส่วนตัว
ปาเกียวเกิดใน กิบาวี บูกิดอน มินดาเนา เขาแต่งงานกับ จินกี้ ปาเกียว และมีลูกด้วยกัน4คน
ชีวิตในวัยรุ่น
ปาเกียวเริ่มชกมวยอาชีพตั้งแต่อายุ16ปี ในรุ่น106ปอนด์(light flyweight) เขาร่วมชกมวยในรายการเล็กๆอย่าง วินเทก สปอร์ต มีกำหนดชก4ยก คู่ต่อสู้คนแรกของเขาคือ เอ็ดมานด์ “เอนติ้ง” อิกนาซิโอ เมื่อวันที่22 มกราคม 2537 ซึ่งปาเกียวสามารถเอาชนะคะแนนไปได้
ก่อนปาเกียวจะข้ามรุ่นจากรุ่น106ปอนด์ ไปเป็น113ปอนด์ เขาก็ได้แพ้น็อกต์เป็นครั้งแรกในการชก12ยก ต่อ รัสติโก ตอร์เรแคมโป ซึ่งปาเกียวทำน้ำหนักไม่ได้ และลดน้ำหนักเยอะก่อนขึ้นชก ทำให้เสียเปรียบคู่ต่อสู้ค่อนข้างมาก จากนั้นปาเกียวขึ้นไปชกในรุ่น 112 ปอนด์อย่างเต็มตัว และก็สามารถพิชิตแชมป์โลก
WBC ฟลายเวท ชาวไทย ฉัตรชัย สาสกุลหลับในยกที่8 แย่งแชมป์มาครองอย่างพลิกความคาดหมาย แต่เพียงแค่ป้องกันตำแหน่งเป็นครั้งที่สองเท่านั้น ปาเกียวก็ไม่อาจทำน้ำหนักในรุ่นนี้ต่อไปได้ ตกตาชั่งก่อนที่จะแพ้น็อกต์ให้กับนักมวยไทยอีกคนอย่าง เม็ดเงิน 3เค แบตเตอรรี่ ไปอย่างหมดสภาพในยกที่3 ที่จังหวัดนครศีรธรรมราช ประเทศไทย
หลังจากนั้นปากียวก็กระโดดข้ามทีเดียวถึง3รุ่น ไปเป็น122ปอนด์
(จูเนียร์ เฟเธอร์เวท 55ก.ก) ก่อนที่จะคว้าแชมป์ WBC อินเตอร์ และป้องกันตำแหน่งได้5ครั้ง จึงได้โอกาสขึ้นชิงแชมป์โลก IBF 23 มิถุนายน 2001 กับ โลโล่ เล็ดวาบา และปาเกียวก็ทำสำเร็จ ด้วยการเอาชนะน็อกต์ไปได้อย่างสวยงาม และป้องกันตำแหน่งไว้ได้5ครั้ง ก่อนที่จะมาเสมอแบบไม่ครบยก หลังปาเกียวถูกหัวโขกจนแตก
ยุคทองของ แมนนี่ ปาเกียว
ปาเกียว vs บาร์เรร่า ภาค1
ปาเกียวมีเทรนเนอร์ชื่อดัง เฟรดดี้ โร้ช และซ้อมในโรงยิม “ไวล์ การ์ด ยิม” ก่อนที่จะขึ้นฟาดปากกับ ยอดมวยหมายเลข1ของโลกเมื่อเทียกันปอนด์ต่อปอนด์ ชาวเม็กซิกัน มาร์โค อันโตนิโอ บาร์เรร่า เมื่อปี 2003 ในพิกัด126ปอนด์ ซึ่งเป็นครั้งแรกของปากียวที่ชกในพิกัดนี้ ก่อนขึ้นชก ปาเกียวเป็นรองเยอะ แต่เขาก็ไม่ทำให้แฟนๆชาวฟิลิปปินส์ผิดหวัง ด้วยการถลุงบาร์เรร่าไปอย่างหมดสภาพในยกที่11 ณเวทีมวย อลาโมโดม ซานโตนิโอ เท็กซัส ถึงแม้ว่าไฟต์นี้จะไม่มีการเดิมพันแชมป์สถาบันหลักกันแต่อย่างใด แต่ปาเกียวก็ได้เข็มขัด เดอะ ริง ไปครอง และปาเกียวก็รักษาเข็มขัดเส้นนี้ไว้ได้นานถึง 5 เดือน จนกระทั่ง..........
ปาเกียว vs มาร์เกซ ภาค1
หลังจาก6เดือนที่ปราบบาร์เรร่ามาอย่างยิ่งใหญ่ ปาเกียว ก็ได้โอกาสขึ้นชิงแชมป์โลก2สถาบัน(WBA , IBF) กับเจ้าของตำแหน่งอย่าง ฮวน มานูเอล มาร์เกซ บนสังเวียน เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ เนวาดา โดยในยกแรก ปาเกียวส่งแชมป์โลกเม็กซิกัน ลงไปนอนวัดพื้นได้ถึง3ครั้ง จนเกือบจะเอาชนะน็อกต์ได้อยู่แล้ว แต่หมดยกซะก่อน หลังจากนั้น มาร์เกซ ก็หลอกต่อยปาเกียวทำคะแนนคืน ครบ12ยก เสมอกันไปอย่างสุดมัน
ปาเกียว vs โมราเลส ภาค1
มาในไฟต์นี้ปาเกียวทำน้ำหนักขึ้นมาจาก126 เป็น 130ปอนด์ เพื่อตะบันหน้ากับโคตรมวยชาวเม็กซิกันอีกคนหนึ่งอย่าง
“เอล เทรบเบิ้ล” อีริก โมราเลส เมื่อวันที่19 มีนาคม 2548 ที่ลาสเวกัส และปาเกียวก็สู้ความเก๋าไม่ไหวโดนไล่ต่อยอย่างบอบช้ำ ก่อนแพ้คะแนนไปอย่างหวุดหวิด
ปาเกียว vs อีริก โมราเลส ภาค2
เป็นไฟต์รีแมตซ์ที่ปาเกียวชกได้อย่างยอดเยี่ยม ไล่ต่อยจนอีริก โมราเรส แกว่งไปแกว่งมา จนในที่สุดกรรมการก็จับแพ้ในยกที่10 นับเป็นการแพ้น็อกต์ครั้งแรกของโมราเรสด้วย
ปาเกียว vs ลาริออส
ไฟตืนี้ปาเกียวส่งลาริออส ลงไปนอนวัดพื้นได้2ครั้งในยกที่12 แต่ในที่สุดปาเกียวก็ไม่สามารถเก็บลาริออสได้ ครบ12ยกปาเกียวชนะคะแนน
ปาเกียว vs โมราเลส ภาคสุดท้าย
สงครามภาคที่3ระหว่างปาเกียวกับอีริกโ มราเลส อุบัติขึ้นในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2006 โดยมีผู้ชมเป็นสถิติถึง 18,276 คน และก็เป็น “แพ็คแมน” เอาชนะน็อกต์ไปได้อย่างเด็ดขาดในยกที่3
ปาเกียว vs ฮอร์เก้ โซลิส
หลังจากที่พลาดการขึ้นชกกับ บาร์เรร่าภาค2 บ็อบ อารัม โปรโมเตอร์ของ แมนนี่ ปาเกียว ก็เบนเข็มไปเลือกเอา ฮอร์เก้ โซลิส อีกหนึ่งนักมวยเม็กซิกันมาเป็นคู่ชกแทน
หลังจากเกมการชกผ่านมาถึงยก6 เกิดอุบัติเหตุหัวชนกัน ปาเกียวแตกทำให้มองเห็นใถนัด แต่แล้วการชกก็มาจบลงที่ยกแปดเมื่อโซลิส ถูกหมัดปากียวลงไปกองถึงสองครั้ง ก่อนจะถูกกรรมการจับแพ้ไป ทำให้สถิติของปากียวเพิ่มเป็น ชนะ44 แพ้3 เสมอ2
ปาเกียว vs บาร์เรร่า ภาค2
ในที่สุดไฟต์นี้ก็มาถึง หลังจากก่อนหน้านี้ตกลงเรื่องค่าตัวกันไม่ได้ จึงต้องเลื่อนออกไป 4ปีที่บาร์เรร่าสรอคอยที่จะล้างตา แต่ก็ทำไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตาม บาร์เรร่าทำได้ดีกว่าที่ใครหลายคนคาดไว้ โดยการแพ้แค่คะแนนหลังครบ12ยก แบบขาดลอยอย่างเป็นเอกฉันท์
เหตุการณ์อื่นๆ
จากการเปิดเผยของนิตยาสารเดอะริงก แมนนี่ ปาเกียวถูกยกให้เป็นอันดับ2ของนักมวยที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์รองจาก “พริตติ้ บอย” ฟลอยด์ เมย์เวเทอร์ จูเนียร์ โคตรมวยในรุ่นเวลเตอร์เวท ชาวอเมริกัน
ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2007 โฮเซ่ นูเยซ ผู้จัดการของ ฮวน กู๊ซแมนแชมป์โลกWBOซุปเปอร์เฟเธอร์เวท ชาวโดมินิกันพยายามท้าปาเกียวให้มาเป็นคู่ชกคนต่อไป แต่บ็อบ อารัม ก็ตอกกลับไปว่ากูซแมนยังห่างชั้นเกินไปที่จะมาชกกับยอดมวยชาวฟิลิปปินส์
ปาเกียว vs มาร์เกซ ภาค2
ไฟต์นี้ถูกตั้งฉายาว่า “ธุระที่รอวันสะสาง” หลังจากที่ไฟต์แรกเสมอกันมาอย่างดุเดือดในแบบที่ต่างฝ่ายต่างคิดว่าตนเองชนะ คราวนี้การชกยังสูสีเหมือนเดิม ปาเกียวส่งมาร์เกซลงไปนับ8ในยกที่3 แต่เก็บไม่ลง ทำให้มาร์เกซมีฮึดขึ้นมา ครบ12ยก ปาเกียวชนะคะแนนไปอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ ทำให้ปาเกียวกลายเป็นนักมวยฟิลิปปินส์คนแรกที่ครองแชมป์โลก3รุ่น
หลังการชกไฟต์นี้ ทางฝั่งของมาร็เกซไม่พอใจผลการตัดสิน และเรียกร้องให้มีการล้างตากันเป็นครั้งที่3 แต่ปาเกียวปาฏิเสธข้อเรียกร้อง โดยให้เหตุผลว่า มันมากเกินไปแล้ว
WBC ไลท์เวท
ปาเกียว VS ดาวิด ดิแอซ
หลังจากที่ทรมานทำน้ำหนักในรุ่น ซุปเปอร์เฟเธอร์เวทอยู่นาน
(130ปอนด์) ในที่สุดปาเกียวก็ประกาศปล่อยน้ำหนักขึ้นมาในรุ่น ไลท์เวท(135ปอนด์)
วันที่ 28 มิถุนายน 2008 ที่ มันดาเลย์ เบย์ รีสอร์ท ปาเกียวก็ขึ้นชกชิงแชมป์WBCรุ่นไลท์เวทกับ ดาวิด ดิแอซ เจ้าของแชมป์โลก และปาเกียวก็ไม่ทำให้แฟนๆต้องผิดหวัง ไล่ทุบแชมป์โลกไปอย่างหมดสภาพในยกที่9 แย่งเข็มขัดสภามวยโลก(WBC) มาครอง
บ็อบ อารัม ได้รายงานว่าไฟต์นี้ ทำรายได้ถึง12.5ล้านเหรียญสหรัฐ
(แบ่งเป็นลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด250000เหรียญ)
ปาเกียว vs เดอ ลา โฮย่า
และแล้วไฟต์หยุดโลกที่คนทั่วโลกรอคอยก็มาถึง วันที่6 ธันวาคม 2008 สองสุดยอดนักมวยของโลกก็มาเจอะเจอกันใน
“ไฟต์แห่งความฝัน”
ปาเกียวซึ่งอาศัยความหนุ่ม และสดกว่า หลอกต่อย “เดอะ โกลเด้น บอย” จนโอนไปเอนมาหลังจากหมดยกที่8 ออสการ์ไม่ออกจากมุมมาชกต่อในยกที่9 ทำให้ แมนนี่ ปาเกียว กลายเป็นราชามวยโลกเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์
มีรายงานว่าไฟต์นี้ปาเกียวรับเงินไปประมาณ15-30ล้านเหรียญสหรัฐ และเก็บบัตรค่าผ่านประตูได้เกือบ17ล้านเหรียญสหรัฐ มากเป็นอันดับสองตลอดกาลในประวัติศาสตร์วงการมวยโลก
ปาเกียว vs ฮัตตัน
วันที่ 2 พฤษภาคม 2009 เป็นไฟต์ล่าสุดที่ปากียวขึ้นชก เจอกับ “เดอะฮิตแมน” ริกกี้ ฮัตตัน แชมป์ ไอบีโอ ยอดมวยจากเกาะอังกฤษ ซึ่งยังไม่เคยแพ้ใครในรุ่นเวลเตอร์เวท(140ปอนด์)เลย
ปาเกียวเริ่มต้นได้อย่างดุดัน ส่งฮัตตันลงไปนอนวัดพื้นถึง2ครั้งในยกแรก แต่โชคดีที่ระฆังหมดยกช่วยเอาไว้ อย่างไรก็ตามในช่วงปลายยกที่2ช่วงก่อนหมดยกไม่กี่วินาที ปาเกียวส่งฮุกซ้ายเข้าเต็มกรามของฮัตตัน จนหลับกลางอากาศ นับเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของ “แพ็คแมน” อีกครั้ง
ปาเกียว vs ค็อตโต้
ในความเป็นไปได้มากที่สุดที่คุ่ชกคนต่อไปของปาเกียว ก็คือมิเกล ค็อตโต้ แชมป์องค์กรมวยโลก(WBO) เวลเทอร์เวทชาวเปอร์โตริกัน ที่ล่าสุดเอาชนะคะแนน โจชัว คล็อตเต้ย์ ผู้ท้าชิงชาวกาน่ามาได้อย่างหืดจับ
กำหนดการชกระหว่าง ปาเกียว-ค็อตโต้ จะมีขึ้นในวันที่14 พฤศจิกายน 2009 ที่โรงแรมMGM Grand Las Vegas รายละเอียดของการชก ตกลงกันที่น้ำหนักตัวพิกัด145ปอนด์ โดยการยินยอมของทั้ง2ฝ่าย
ก่อนหน่านี้ เชน มอสลี่ย์ เจ้าของแชมป์เวลเตอร์เวทสมาคมมวยโลก(WBA)ได้ส่งคำท้าฟาดปากกับปาเกียว แต่บ็อบ อารัมโปรโมเตอร์คู่ใจไม่สนใจข้อเสนอของ “ชูการ์เชนส์” แต่ประการใด
การตกลงระหว่าง ปาเกียว และ เมย์เว็ทเธอร์
ภายหลังจากชัยชนะเหนือ ค็อตโต้ แล้ว แฟนมวยทั่วโลกต่างต้องการให้ แมนนี่ ปาเกียว แชมป์โลก 7 รุ่น และ ฟลอยด์ เมย์เว็ทเธอร์ จูเนี่ยร์ แชมป์โลก 5 รุ่น ขึ้นชกสังเวียนเดียวกัน โดยทั้งคู่ได้ตกลงปลงใจที่จะขึ้นชก แต่แล้วได้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการตรวจสารกระตุ้นและการตรวจเลือด ซึ่งเรื่องวุ่นวายบานปลายจนทำให้ทั้งสองแชมป์พลาดเผชิญหน้ากัน
ปาเกียว VS คล็อตเตย์
และแล้วก็มาถึงวันที่ คล็อตเตย์ ผู้ท้าชิงชาวกาน่าจะได้ขึ้นชกแย่งแชมป์กับเขา ในวันที่ 13 มีนาคม 2010 ที่สนาม คาวบอยส์ สเตเดี้ยม ในเมืองอาร์ลิงตัน รัฐเท็กซัส ก็ยังเป็นทางด้านของ ปาเกียว ที่เอาชนะไปได้ขาดลอย 120-108, 119-109 และ 119-109 รักษาเข็มขัด WBO เวลเตอร์เวท ได้อีกครั้ง ซึ่งไฟท์นั้น ปาเกียว ทำสถิติออกมัดเยอะที่สุดในการต่อยอาชีพถึง 1,231 หมัด แต่น่าเสียดายที่เข้าเป้าเพียง 246 หมัดเท่านั้น เพราะส่วนใหญ่มักจะติดบล็อคสุดแกร่งของ คล็อตเตย์ ในขณะที่ผู้ท้าชิงออกหมัดทั้งสิ้นแค่ 399 หมัดและเข้าเป้าเพียง 108 หมัด
ปาเกียว VS มาร์การิโต้
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2010 บ็อบ อารัม ได้ประกาศว่า ปาเกียว จะขึ้นชกกับ อันโตนิโอ มาร์การิโต้ นักชกเม็กซิกัน ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2010 เพื่อชิงเข็มขัดเส้นที่ 8 ของเจ้าตัวในรุ่น WBC ไลท์มิดเดิ้ลเวท หรือ "ซูเปอร์ เวลเตอร์เวท" โดยในวันชั่งน้ำหนัก เป็นทางด้านยอดมวยฟิลิปปินส์ที่ต้องแบกน้ำหนักถึง 5.4 ปอนด์ หลังจากขึ้นชั่งด้วยน้ำหนักตัว 144.6 ปอนด์ ในขณะที่แชมป์ มาร์การิโต้ ขึ้นชั่งด้วยน้ำหนัก 150 ปอนด์ตามลิมิตที่ตั้งไว้พอดี
อย่างไรก็ดี ด้วยความสุดยอดของ "แพ็คแมน" ใช้ความเร็วในการออกหมัดขั้นเทพและการเคลื่อนไหวที่เหนือกว่าเอาชนะ มาร์การิโต้ ไปได้ด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ (120-108, 118-110, 119-109) คว้าเข็มขัดเส้นที่ 8 ในอาชีพได้สำเร็จ ซึ่งในยกสุดท้ายกรรมการบนเวทีต้องสั่งหยุดการชกหลายครั้ง หลังจากที่ มาร์การิโต้ มีบาดแผลที่บริเวณตาขวา แต่สุดท้ายกรรมการก็ปล่อยให้การแข่งขันดำเนินต่อไปและในที่สุดหลังประกาศผู้ชนะ ต้องนำตัวนักชกเม็กซิกันส่งโรงพยาบาลในทันที และพบว่ากระดูกเบ้าตาแตก ต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วน
ปาเกียว VS มอสลีย์
ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2011 ทางโปรโมทเตอร์ของ ปาเกียว ได้ออกมาประกาศไฟท์ต่อไปของของ นั่นก็คือการพบกับ เชน มอสลีย์ แชมป์โลก 3 รุ่น โดยในไฟท์นี้ ปาเกียว สามารถทำให้ มอสลีย์ ลงไปนอนนับในยกสาม หลังจากแย็บหมัด 1-2 ก่อนจะตามด้วยซ้ายตรง และเวลาผ่านไปถึงยก 10 มอสลีย์ ทำให้ ปาเกียว ล้มลงไปอยู่ที่พื้นด้วยการกด แต่กรรมการบนเวที เคนนี่ เบย์เลสส์ กลับนับแปด แต่ท้ายที่สุดแล้วภาพช้าแสดงให้เห็นว่า ปาเกียว เสียสมดุลในระหว่างที่ปล่อยออกไปและทำให้เท้าขวาไปเหยียบเท้าซ้ายของ มอสลีย์ ล้มลง ซึ่งนักชกอเมริกันยืนแขนขวาเข้าไปช่วยดึงขึ้นมาด้วยซ้ำ แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมากจนทำให้กรรมการบนเวทีเข้าใจผิด ก่อนที่เจ้าตัวจะออกมาขอโทษ ปาเกียว ภายหลังจบไฟท์ อย่างไรก็ดี "แพ็คแมน" สามารถเอาชนะ มอสลีย์ ไปด้วยคะแนนเอกฉันท์ 119-108, 120-108 และ 120-107
ปาเกียว VS มาร์เกซ ภาค 3
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2011 ปาเกียว ขึ้นชกกับ มาร์เกซ เป็นหนที่สาม และเป็นทางด้านยอดมวยขวัญใจมหาชนเอาชนะไปได้ด้วยคะแนนไม่เอกฉันท์ 2-1 เสียง (114-114, 115,113 และ 116,112)
ปาเกียว VS แบร็ดลีย์
ไฟท์ต่อมาของ ปาเกียว เกิดขึ้นในวันที่ 9 มิถุนายน 2012 ในศึกป้องกันแชมป์ WBO เวลเตอร์เวท หลังจากที่ล้มเหลวในการเจรจาข้อตกลงกับทางด้านของ ฟลอยด์ เมย์เว็ทเธอร์ ซึ่งไฟท์นี้จบลงด้วยชัยชนะของ แบร็ดลีย์ ด้วยสกอร์ไม่เอกฉันท์ 2-1 (115-113, 113-115 และ 113-115)
ปาเกียว VS มาร์เกซ ภาค 4
การต่อสู้หนที่สี่ของ ปาเกียว กับ มาร์เกซ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2012 ในชื่อ "ศึกชิงแชมป์ WBO แห่งทศวรรษ" ซึ่งเกมดำเนินไปแค่เพียง 2 วินาทีในยก 6 มาร์เกซ ก็สามารถน็อค ปาเกียว จากจังหวะโต้หมัดแย็บ ก่อนจะใช้อัพเปอร์คัทขวาเสยปลายคาง ส่ง ปาเกียว ลงไปนอนกับพื้น เสียแชมป์ WBO ในรุ่น เวลเตอร์เวท เข้าจนได้
ปาเกียว VS ริออส
ปาเกียว ร้างสังเวียนยาวนานกว่า 11 เดือนเต็ม และเขาก็กลับมาคืนสู่สังเวียนอีกครั้ง เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2013 พบกับ แบรนดอน ริออส นักชกอเมริกัน ในศึกชิงแชมป์ WBO นานาชาติในรุ่น เวลเตอร์เวท ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาขึ้นชกที่ประเทศจีน ถิ่นปกครองพิเศษมาเก๊า และสามารถเอาชนะ ริออส ไปด้วยคะแนนเอกฉันท์
ปาเกียว VS แบร็ดลีย์ ภาค 2
หลังจากที่ ปาเกียว คว่ำ ริออส ได้สำเร็จ ก็เดินหน้าท้าชิงกับ ทิโมธีย์ แบร็ดลีย์ แชมป์โลก WBO ในรุ่น เวลเตอร์เวท และก็เป็นทางด้านของ ปาเกียว ที่เอาชนะไปได้ขาดลอย 3-0 เสียง (118-110, 116-112 และ 116-112) ทวงเข็มขัดแชมป์มาสู่อ้อมกอดได้อีกครั้ง
ปาเกียว VS คริส อัลกีรี้
แมตช์ป้องกันแชมป์โลก WBO ในรุ่น เวลเตอร์เวท เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2014 พบกับ คริส อัลกีรี้ นักชกจากสหรัญอเมริกา ซึ่งเป็นทางฝั่งของ ปาเกียว ที่เอาชนะไปได้อย่างง่ายดาย จากการจับนับ อัลกีรี้ ถึง 6 ครั้งและชนะไปด้วยคะแนนเอกฉันท์ 3-0 เสียง (119-103, 119-103 และ 120-102)
ปาเกียว VS ฟลอยด์ เมย์เว็ทเธอร์ จูเนียร์
และแล้วไฟท์ที่ทั้งโลกตั้งตาคอย ระหว่าง ปาเกียว กับ ฟลอยด์ เมย์เว็ทเธอร์ จูเนียร์ ที่ เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ อารีน่า เมือง ลาส เวกัส ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2015 โดยไฟท์หยุดโลกครั้งนี้จบลงด้วยชัยชนะของ เมย์เว็ทเธอร์ ชนิดที่ค้างสายตาแฟนมวยทั่วโลก จากคะแนนเอกฉันท์ 3-0 เสียง (118-110, 116-112 และ 116-112) โดยหลังจบศึกครั้งนี้ ฟลอยด์ เมย์เว็ทเธอร์ จูเนียร์ ประกาศแขวนนวมและพร้อมสละเข็มขัดให้กับนักชกคนอื่น ๆ บ้าง ซึ่งจากผลการชกที่ไม่ถูกใจคนทั้งโลก ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการตัดสินของกรรมการผู้ให้คะแนน
การเมือง
ปาเกียวเคยประกาศเอาไว้ว่า เมื่อใดที่เขาหันหลังให้วงการมวยเมื่อไร สิ่งที่เขาปารถนามากที่สุดก็คือถนนสายการเมือง เขาเคยกล่าวเอาไว้ว่า ถ้าหากได้รัยเลือกให้เป็นตัวแทนของคนฟิลิปปินส์ เขาจะทำทุกอย่างให้คนในประเทศมีความสุข เพราะปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่อยู่ในสถานะยากไร้
อย่งไรก็ตามปาเกียวเคยลงสมัคร ส.ส. มาแล้วครั้งหนึ่งในเขตโคตาบโตตอนใต้ แต่ก็พ่ายคะแนนเสียงให้กับ ดาร์ลีน อันโตนิโอ คัสโตดิโอ ตอนนั้นปาเกียวได้คะแนนเสียงไปทั้งสิ้น75,908 คะแนน เป็นรอง คัสโตดิโอที่ได้ 139,061คะแนน
เกียรติประวัติ
Major:
- WBC world flyweight champion
- IBF world super bantamweight champion
- WBC world super featherweight champion
- WBC world lightweight champion
Minor:
