10 อีสปอร์ตที่มีเงินรางวัลสูงสุดในช่วงครึ่งปีแรก 2020

10 อีสปอร์ตที่มีเงินรางวัลสูงสุดในช่วงครึ่งปีแรก 2020

10. Rocket League

เกมขับรถชนลูกบอลเพื่อทำประตู ไม่ต่างอะไรกับเกมฟุตบอลที่เรารู้จัก เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่น่าสนใจและได้รับความนิยมไม่น้อย จนกลายเป็นลีกทำเงินให้กับเหล่าโปรเพลย์เยอร์

สำหรับร็อคเก็ตลีกนั้น เริ่มต้นครั้งแรกในปี 2016 ด้วยเงินรางวัลรวมสูงสุดเพียงแค่ 55,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ ก่อนจะเติบโตถึงระดับ 350,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ ในปี 2020

เงินรางวัลรวมในปี 2020 : 350,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ
ผู้ชมโดยเฉลี่ย : 25,000 - 30,000 คน
ผู้ชมสูงสุด : 206,000 คน (ในรอบชิง RLCS ซีซั่น 8, ธันวาคม 2019)

9. NBA 2K

เกมกีฬาบาสเกตบอลจากค่าย 2K ที่เพิ่งจะผนึกกำลังกับ NBA และสร้างลีกเป็นครั้งแรกในปี 2018 ซึ่งความยิ่งใหญ่นั้นไม่น้อยไปกว่าการแข่งขัน NBA ในแบบฉบับดั้งเดิมเลย

สำหรับ 2K ลีกนั้น ต้องห้ำหั่นกันยาวนานถึง 15 สัปดาห์และอีก 3 ทัวร์นาเม้นต์ในฤดูกาลปกติ ก่อนจะได้ 7 ทีมเข้าสู่โค้งสุดท้ายเพื่อเฟ้นหาสุดยอดแชมป์ประจำปี ด้วยเงินรางวัลสูงถึง 420,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ

เงินรางวัลรวมในปี 2020 : 1,400,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ
ผู้ชมโดยเฉลี่ย : 5,000 - 10,000 คน
ผู้ชมสูงสุด : 61,800 คน (ในรอบชิง 2K ลีก 2019)

8. Rainbow 6 Siege

เกมเดินหน้ายิงที่แฝงไปด้วยเทคนิคสุดแยบยลจากค่าย Ubisoft ถูกพัฒนาขึ้นในปี 2015 ก่อนจะมีลีกแข่งขันอย่างเป็นทางการในปี 2016 โดยใช้โหมดที่หลากหลายในการตัดสิน ไม่ว่าจะเป็น ช่วยเหลือตัวประกัน, กู้ระเบิด หรือควบคุมวัตถุในห้องต่างๆ

การแข่งขัน โปร ลีก แรกเริ่มขึ้นในปี 2016 โดยมาจากตัวแทน 7 ประเทศทั่วโลก ซึ่งล่าสุดในปี 2020 มีตัวแทนที่ถูกเชิญทั้งหมด 6 ทีม 6 ประเทศ และมีเงินรางวัลรวมมากถึง 3 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว

เงินรางวัลรวมในปี 2020 : 3,000,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ
ผู้ชมโดยเฉลี่ย : 40,000 - 50,000 คน
ผู้ชมสูงสุด : 303,000 คน (ในศึก Six Invitational, กุมภาพันธ์ 2020)

7. Hearthstone

การ์ดเกมสุดแปลกที่พัฒนาขึ้นในปี 2014 โดยยักษ์ใหญ่นาม Blizzard เจ้าของเดียวกับแฟรนไชส์ Diablo และ Warcraft ซึ่งจุดเด่นของเกมนี้คือทุกคนสามารถเล่นได้ฟรี โดยการแข่งขันถูกจัดขึ้นทันทีในปีเดียวกัน และมีเงินรางวัลรวมสูงสุดถึง 250,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ อีกด้วย

เกมนี้ถูกจัดแข่งขึ้นในระดับสากลอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็น เอเชี่ยน เกมส์, ซี เกมส์ หรือระดับ โอลิมปิก ซึ่งนั่นหมายความว่านี่คือการ์ดเกมที่ผู้คนทั่วโลกยอมรับมากสุดในยุคนี้

เงินรางวัลรวมในปี 2020 : 4,000,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ
ผู้ชมโดยเฉลี่ย : 70,000 - 100,000 คน
ผู้ชมสูงสุด : 328,000 คน (ชิงแชมป์โลก 2016)

6. Overwatch

อีกหนึ่งเกมยิงปืนจากค่าย Blizzard ซึ่งดังอย่างหนักจนกลายเป็นกระแสโลกในชั่วพริบตา โดยจุดเด่นของเกมนี้คือฮีโร่แต่ละตัวจะมีสกิลที่แตกต่างกัน และทำให้บทบาทในการเล่นแต่ละคนหรือแต่ละเกมค่อนข้างชัดเจน อันนำไปสู่การเกิดอีสปอร์ตในยุคหลัง

โดย The Overwatch League (OWL) ถูกจัดขึ้นสองปี (2018) ให้หลังจากที่เกมเปิดตัว (2016) และเป็นอีสปอร์ตลีกแรกๆ ที่มีพื้นฐานจากทีมในเมืองต่างๆ ทั้งหมด 20 ทีม เพื่อเฟ้นหาตัวแทนระดับประเทศ บอกเลยว่าความนิยมสุดจัดไม่แพ้กีฬาจริงอีกด้วย

เงินรางวัลรวมในปี 2020 : 5,000,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ
ผู้ชมโดยเฉลี่ย : 30,000 คน
ผู้ชมสูงสุด : 1,100,000 คน (OWL รอบแกรนไฟน่อล 2018)

5. Call of Duty

เกมยิงปืนบุคคลที่หนึ่ง ซึ่งถูกพัฒนาโดย Activision ค่ายเกมลูกของ Blizzard อีกทีหนึ่ง ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่เกมเมอร์และมีแฟรนไชส์หลายภาค โดยเกมนี้ถูกวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในปี 2003

หลังจากนั้นในปี 2010 ก็เริ่มมีการแข่งขันจริงจัง จนกระทั่งมีการจัดชิงแชมป์โลกขึ้นกันในปี 2013 โดยมีเงินรางวัลรวมสูงสุดกว่า 1 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว

เงินรางวัลรวมในปี 2020 : 6,000,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ
ผู้ชมโดยเฉลี่ย : 50,000 คน
ผู้ชมสูงสุด : 189,000 คน (ศึกชิงแชมป์ 2019)

4. Fortnite

เกมแบตเทิ่ลรอยัล หรือแนวเอาตัวรอดจากสมรภูมิเดือด ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย Epic Games กลายเป็นกระแสดังอย่างรวดเร็วในปี 2017 และต่อเนื่องถึงขึ้นติดเบอร์หนึ่งเกมที่ร้อนแรงที่สุดในโลกปี 2018 เลยทีเดียว

แน่นอนว่าการแข่งขันก็เริ่มตามมา และถูกจัดขึ้นในปีเดียวกัน โดยแบ่งเป็นทัวร์นาเม้นต์หน้าร้อน และทัวร์นาเม้นต์หน้าหนาว สำหรับเงินรางวัลกับความนิยมนั้น บอกเลยว่าโคตรมหาศาลสำหรับรายบุคคล และคนดูพร้อมกันทั่วโลกสูงสุดถึง 2.3 ล้านคนอีกด้วย

เงินรางวัลรวมในปี 2020 : 7,000,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ
ผู้ชมโดยเฉลี่ย : 150,000 - 200,000 คน
ผู้ชมสูงสุด : 2,300,000 คน (ศึกชิงแชมป์โลก 2019)

3. League of legends

เกม MOBA หรือที่รู้จักกันในเกมตีป้อม ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นโดย Riot Games ในปี 2009 เพื่อจะตีตลาด DOTA 2 อย่างเต็มตัว ด้วยความหลากหลายในการเล่น ประกอบกับการใช้สกิลเพลย์ค่อนข้างเยอะ ทำให้เกมนี้ดึงดูดโปรเพลย์เยอร์กับเหล่าคนดังให้เข้ามาฝากฝังผลงาน โดยลีกถูกจัดขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลกในทุกปี และมีผู้เล่นแอคทีฟสูงสุดถึง 100 ล้านคนในปี 2020

ด้วยเหตุผลความนิยมดังกล่าว ทำให้เกมนี้ถูกจัดเข้าสู่ระบบการแข่งขันของโอลิมปิกสากลทันที และลามทุ่งไปถึงกีฬาระดับชาติในอาเซียนบ้านเราด้วย

เงินรางวัลรวมในปี 2020 : 9,000,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ
ผู้ชมโดยเฉลี่ย : 170,000 - 250,000 คน
ผู้ชมสูงสุด : 3,900,000 คน (ศึกชิงแชมป์โลก 2019)

2. Counter-Strike: Global Offensive

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเกมระดับตำนานอย่าง Counter-Strike ซึ่งพัฒนาต่อยอดจนกลายมาเป็น Counter-Strike: Global Offensive (CSGO) ถูกปล่อยออกมาให้เล่นในปี 2012 ในระบบ 5v5 โดยแบ่งเป็นฝ่ายต่อต้านและฝ่ายก่อการร้าย แม้เกมนี้จะมีพื้นฐานยาวนานจากรุ่นเก่าเก็บในปี 2000 แต่ก็ยังได้รับความนิยมอย่างไม่ขาดสาย และทำให้การแข่งขันถูกจัดขึ้นเรื่้อยๆ ในหลากหลายรูปแบบ หลากหลายสไตล์ ทุกๆ ปี

เงินรางวัลรวมในปี 2020 : 20,000,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ
ผู้ชมโดยเฉลี่ย : 200,000 คน
ผู้ชมสูงสุด : 1,200,000 คน (IEM Katowice 2019)

1. DOTA 2

สุดยอดเกมตีป้อมที่อยู่คู่ลูกคู่หลานกันมายาวนานกว่าหลายสิบปี ตั้งแต่ 2003 และต่อยอดจนกลายมาเป็น DOTA 2 ในปี 2013 ด้วยความนิยมยาวนาน ประกอบกับผู้เล่นรุ่นใหม่ก็มากขึ้น ทำให้การแข่งขันถูกจัดขึ้นและมีเงินรางวัลรวมมากสุดในประวัติศาสตร์อีสปอร์ตด้วยจำนวน 34 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ ในปี 2019 แน่นอนว่าเกมนี้ยังถูกยกให้เป็นอันดับหนึ่งในวงการอีสปอร์ตอีกด้วย

เงินรางวัลรวมในปี 2020 : 35,000,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ
ผู้ชมโดยเฉลี่ย : 120,000 คน
ผู้ชมสูงสุด : 1,080,000 คน (ชิงแชมป์โลก 2019)