ประวัติ เดอะ ร็อค

| 01/01/1970 07:00 น. | 1156 Views

นักมวยปลํ้า,เดอะร็อค,the rock

 

 

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ    ดเวย์น  ดักลาส  จอห์นสัน

ฉายา   เฟล็กซ์ คานาวา , ร็อคกี้ ไมเวีย , เดอะร็อค 

ความสูง  193 ซม.

นํ้าหนัก 120 กก.

วันเกิด 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1972

สถานที่เกิด   รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

 

 

ประวัติ 

จอห์นสันเป็นนักฟุตบอลประจำวิทยาลัย และในปี ค.ศ. 1991 เขาได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมฟุตบอลเนชั่นแนล แชมเปียนชิป ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในไมอามีทีมไมอามีเฮอร์ริเคน หลังจากนั้นเขาก็เล่นในทีมแคลการี่ สแตมป์พีเดอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน แคนนาเดียน ฟุตบอล ลีก แต่ก็เล่นได้เพียง 2 เดือนในฤดูกาลนั้น เขาก็ได้ถูกชักจูงให้มาเป็นนักมวยปล้ำเหมือนกับ ปีเตอร์ มายเวีย ปู่ของเขา และ ร็อคกี้ จอห์นสัน พ่อของเขา

 

 

ในสังเวียนมวยปล้ำ

นักมวยปลํ้า,เดอะร็อค,the rock

จอห์นสันได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดีและมีชื่อเสียงโด่งดังมากเมื่อเขาได้มาเป็นนักมวยปล้ำในสมาคม WWE (หรือ WWF ในสมัยนั้น) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996 - 2004 และเขาเป็นคนแรกที่เป็นนักมวยปล้ำรุ่นที่ 3 ในประวัติศาสตร์วงการมวยปล้ำ เขาได้รับการผลักดันอย่างรวดเร็วใน WWE และเป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ให้กับ WWE ในตอนแรกเขาใช้ชื่อในการปล้ำว่า "ร็อคกี้ ไมเวีย" แล้วก็เปลี่ยนมาเป็น The jabroni beating, lalala pie eating, trail blazing, eye brow raising, the people's champ "เดอะ ร็อค" และเขาเคยได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่ม เนชั่น ออฟ โดมิเนชั่นอีกด้วย อีก 2 ปีต่อมาหลังจากที่เขาปล้ำใน WWE เดอะ ร็อค ก็สามารถคว้าแชมป์โลก WWE มาครองได้สำเร็จ ซึ่งทำให้เขากลายเป็นแชมป์โลกที่อายุน้อยที่สุดในขณะนั้น ด้วยอายุเพียง 26 ปี ทำลายสถิติของ บ็อบ แบคลันด์ (อายุ 27 ปี) โดยต่อมาถูกทำลายสถิติโดย บร็อก เลสเนอร์ (อายุ 25 ปี) และเขาได้กลายเป็นนักมวยปล้ำขวัญใจแฟนๆ นอกจากการปล้ำของเขาแล้ว เดอะ ร็อค มีคำพูดวลีติดปากมากมายที่รวมไปถึงคำด่าเด็ดๆที่เอกลักษณ์ประจำตัวจนกลายเป็นเทรนคำพูด ได้แก่ Finally...The Rock...has come back to (ชื่อเมืองในเวลานั้น),You will go one on one with The Great One!, Who in the blue hell are you?, It doesn't matter what you think, lay the smackdown on your candy ass,Who is this roody-poo?, know your role and shut your mouth, Just Bring It (พร้อมท่ากวักมือ) ปัจจุบันตั้งแต่ 2011 เทรนคำพูดของ เดอะ ร็อค คือ Boots To Asses และ ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือคำพูดปิดท้ายประจำตัวตลอดกาลอย่าง If you smell what The Rock is cooking!

จนทำให้ เดอะ ร็อค ได้รับสมญานามว่า "The People's Champ" มีเอกลักษณ์คือการเลิกคิ้วข้างขวาข้างเดียว "The People's Eyebrow" และในปี 2001 จอห์นสัน ก็เริ่มไปแสดงภาพยนตร์และกลับมาปล้ำใน WWE เป็นครั้งคราวจนถึง แมตซ์สุดท้ายใน Pay Per View ศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 20 ในปี 2004 หลังจากนั้นบทบาทในวงการมวยปล้ำหมดไป แต่ก็ยังมีเทปสัมภาษณ์โพล่มาเซอร์ไพรซ์แฟนๆเป็นครั้งคราวใน รายการของ WWE ปัจจุบัน ดเวย์น จอห์นสัน หันมาเอาดีด้านการเป็นนักแสดงใน ฮอลลีวูด

ในอาชีพมวยปล้ำของ จอห์นสัน เขาเคยเป็นแชมป์โลกถึง 10 สมัย ซึ่งเขาคว้าแชมป์โลกของ WWE มาได้ 8 สมัย (สมัยที่ 7 เป็นแชมป์โลกอันดิสพิวเด็ด) และคว้า แชมป์โลก WCW มาได้ 2 สมัย รวมไปถึงแชมป์อื่นๆ ได้แก่ แชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัล 2 สมัย, แชมป์โลกแทคทีม ของ WWE 5 สมัย นอกจากนี้เขาได้เป็นแชมป์ทริปเปิล คราวน์ WWE คนที่ 6 และเป็นผู้ชนะในรอยัลรัมเบิล ปี 2000 อีกด้วย

และเมื่อ จอห์นสัน ได้มาแสดงภาพยนตร์ จอห์นสัน ก็ได้รับบทบาทสำคัญในปี 2001 ในเรื่อง The Mummy Returns โดยรับบทเป็น ราชาแมงป่อง และในบทบาทเดียวกัน ในเรื่อง The Scorpion King ในปี 2002 ซึ่งเขาได้รับรายได้สูงสุดสำหรับนักแสดงที่ได้รับบทตัวเอกของเรื่องเป็นครั้งแรก เป็นเงิน 5.5 ล้านดอลลาร์ ต่อมา จอห์นสัน ก็มีผลงานแสดงอื่นๆในปีต่อๆไป ได้แก่ The Rundown, Doom, Be Cool, Walking Tall, Gridiron Gang, The Game Plan, Get Smart, Race to Witch Mountain, พากย์เสียงแอนิเมชัน Planet 51, Tooth Fairy, Why Did I Get Married Too?, The Other Guys, Faster, Fast Five, Journey 2: The Mysterious Island, G.I. Joe: Retaliation และ Fast & Furious 6.

 
ผลงาน

 

 

ปี 2011

นักมวยปลํ้า,เดอะร็อค,the rock

ในศึกรอว์ ในตอนของวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011 เดอะ ร็อค ได้กลับมาที่ WWE อีกครั้ง เพื่อเป็น พิธีกรรับเชิญ ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 พร้อมกับเพลงเปิดตัวใหม่ แล้วได้บอกกับแฟนๆ ว่าทำไมเขาถึงกลับมายืนอยู่บนเวทีนี้ เขากลับมา ไม่ได้มาเพราะว่าต้องการเงิน ไม่ได้มาเพื่อโปรโมทหนัง แต่กลับในสังเวียนนี้ มาเพื่อแฟน ๆ หลังจากที่ วินซ์ แมคแมน ได้ประกาศว่าจะมีพิธีกรรับเชิญมาเปิดตัวในสัปดาห์ถัดไป (ตอนของวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011) และในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 เดอะ ร็อค ได้มาก่อกวนการปล้ำของ จอห์น ซีนา ในแมตช์การชิงแชมป์ WWE กับ เดอะ มิซ โดย เดอะ ร็อค ได้เล่นงาน จอห์น ซีนา ด้วยท่า Rock Bottom ทำให้ จอห์น ซีนา เป็นฝ่ายแพ้ให้กับ เดอะ มิซ ไปในที่สุด แต่ว่าหลังจากจบแมตช์ เดอะ ร็อค ได้เล่นงาน เดอะ มิซ ด้วยท่า People's Elbow เป็นการปิดท้ายรายการอีกด้วย ในศึกรอว์ (4 เมษายน ค.ศ. 2011) หลังจบ เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 จอห์น ซีนา เรียก เดอะ ร็อค ออกมาที่เวที และท้า เดอะ ร็อค ว่าจะเจอกัน ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 โดย เดอะ ร็อค ก็รับข้อเสนอของ จอห์น ซีนา โดยที่ ขวัญใจทั้ง 2 ยุคมาเจอกัน โดยทั้งคู่ก็จับมือรับข้อเสนอไปด้วยดี

นักมวยปลํ้า,เดอะร็อค,the rock
เดอะ ร็อค และ จอห์น ซีนา ได้จับมือกันและพร้อมเจอกันในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28

ในศึกรอว์ (24 ตุลาคม 2011) ในตอนแรก จอห์น ซีนา จะต้องจับคู่กับ แซค ไรเดอร์ เจอกับ เดอะ มิซ และ อาร์-ทรูธระหว่างสัมภาษณ์ แซค ไรเดอร์ ก็ถูก เดอะ มิซ และ อาร์-ทรูธ มาลอบทำร้ายจนบาดเจ็บ ทำให้เป็นแมตช์การปล้ำ 2 รุม 1 ผลปรากฏว่า จอห์น ซีนา ชนะฟาล์ว หลังแมตช์ เดอะ มิซ และ อาร์-ทรูธ ได้รุมทำร้ายต่อจนผู้จัดการทั่วไปชั่วคราว จอห์น โลรีนายติส ได้ออกมาห้าม และสั่งให้ จอห์น ซีนา เลือกนักมวยปล้ำ 1 คน เพื่อจะจับคู่เจอกับ เดอะ มิซ และ อาร์-ทรูธ โดย จอห์น ซีนา ได้เลือก เดอะ ร็อค มาเป็นคู่แทคทีม ต่อมา ในศึก เซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2011) เดอะ ร็อค ได้กลับมาปล้ำใน WWE อีกครั้ง ในรอบ 7 ปี โดยคู่กับ จอห์น ซีนา เจอกับ ออซัม ทรูธ (เดอะ มิซ และ อาร์-ทรูธ) สุดท้าย เดอะ ร็อค และ จอห์น ซีนา ก็เอาชนะไปได้สำเร็จ แต่ว่าหลังจากจบแมตช์ เดอะ ร็อค ได้เล่นงาน จอห์น ซีนา ด้วยท่า Rock Bottom เป็นการปิดท้ายรายการอีกด้วย

 

 

ปี 2012

ในศึกรอว์ (20 กุมภาพันธ์ 2012) จอห์น ซีนา ออกมา และพูดถึง เดอะ ร็อค ว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ในวันนี้ แต่สัปดาห์หน้าเขาจะมา เพื่อมาคุยกับชั้น เมื่อก่อนชั้นก็เคยชอบเค้านะ แต่ตอนนี้น่ะเอียนแล้ว ก็ยินดีกับมันด้วยละกันกับการที่แสดงหนังอันดับหนึ่งของบ๊อกซ์ออฟฟิซ สัปดาห์หน้ามันก็คงมารอว์ ทำท่ายักคิ้วให้คนดูดีใจ จากนั้นก็กลับไปฮอลลีวู้ดเหมือนเดิม สิ่งที่ชั้นภาคภูมิใจก็คือ ชั้นอยู่กับ WWE มาตลอด 7 ปีที่ผ่านมา และไม่เคยจากไปไหน แล้วที่ เดอะ ร็อค มันกลับมาคราวก่อนน่ะนะ มันก็แค่มาโปรโมต Fast Five กับ ทวิตเตอร์ ของมันเท่านั้น ชั้นคนนี้คือคนที่อยู่กับ WWE ตลอด ชั้นขึ้นปล้ำในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 อย่างภาคภูมิใจในฐานะนักมวยปล้ำ พาดหัวข่าวหลังจากคืนนั้นจะต้องเป็น จอห์น ซีนา เอาชนะ เดอะ ร็อค ในบ้านเกิดของเขา ไมอามี ฟลอริดา เอาไว้เจอกันในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 ก็แล้วกัน ต่อมา ในศึกรอว์ (27 กุมภาพันธ์ 2012) เดอะ ร็อค ออกมาทักทายแฟนๆ ในสนาม และพูดถึง จอห์น ซีนา ว่า ชั้นไม่คิดว่านายเป็นคนเลวหรอกนะ แต่นายแค่เป็นคนกระจอกๆ เท่านั้นเอง จอห์น ซีนา สัปดาห์ก่อนนายพูดจาพาดพิงถึงชั้น นายบอกว่านายจะต่อสู้ในฐานะตัวแทนนักมวยปล้ำทุกคน แต่ชั้นจะสู้เพื่อแฟนๆ ทุกคน แฟนๆ ที่เบื่อหน่ายแกที่ทำอะไรซ้ำๆ ซากๆ ทุกค่ำคืน จอห์น ซีนา ออกมาตอบโต้ และบอกว่าเขาไม่ชอบ ดเวย์น จอห์นสัน จะจัดการกับมันในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 ก่อนจะเดินจากไป เดอะ ร็อค ก็บอกว่าถึงแกจะปากเสียแล้วรีบเดินหนีไป แต่ว่าความจริงแล้ว เดอะ ร็อค กับ ดเวย์น จอห์นสัน มันก็คนเดียวกัน และมันก็ไม่สำคัญหรอก เพราะว่าในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 ชั้นจะเตะก้นแก If You Smell What the Rock is Cooking? ต่อมา ในศึกรอว์ (12 มีนาคม 2012) จอห์น ซีนา ออกมาในมาดของ Dr.Thugonomic ใส่หมวกกลับหัว, โซ่ห้อยคอ, เสื้อบาสเก็ตบอล และใช้เพลงเปิดตัวแบบเก่าของตัวเองด้วย จอห์น ซีนา เริ่มพูดด้วยสำเนียงเด็กแร็ปด่า เดอะ ร็อค ว่าเป็นพวกทรยศเหมือนกับ ลีบอร์น เจมส์ (นักบาสเก็ตบอลที่ย้ายหนีไปจากคลีฟแลนด์) สัปดาห์ก่อน เดอะ ร็อค หรือไอ้ ดเวย์น จอห์นสัน มันโกรธว่ะ มันบอกให้ชั้นหุบปาก แต่หลังจากวันที่ 1 เมษายน มันจะต้องไปศัลยกรรมใบหน้าเหมือนกับที่มันเคยทำศัลยกรรมนมมาแล้ว Team Bring It เหรอ พวกมันไม่น่ากลัวหรอก เพราะ เดอะ ร็อค มันเป็น Tooth Fairy ชั้นจะกระทืบก้นแกในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 และเอาถั่วยัดใส่หน้าแก ในคืนเดียวกัน เดอะ ร็อค ออกมาพร้อมกับกีตาร์โปร่งเพื่อจัด Rock Concert ทักทายแฟนๆ ชาวคลีฟแลนด์แล้ว เดอะ ร็อค ก็เริ่มเล่นกีตาร์และร้องเพลงที่แต่งเอง เป็นเพลงด่า จอห์น ซีนา หลังร้องเสร็จแล้ว เดอะ ร็อค ก็ประกาศจะกระทืบ จอห์น ซีนา ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 ต่อด้วยเปิดเพลง We Will Rock You ฉบับดัดแปลงด่า จอห์น ซีนา มาร้องกับแฟนๆ ในสนามเป็นการปิดรายการ ต่อมา ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 เดอะ ร็อค จะต้องเจอกับ จอห์น ซีนา เป็นแมตช์ที่ ขวัญใจทั้ง 2 ยุคมาเจอกัน สุดท้าย เดอะ ร็อค ก็เป็นฝ่ายเอาชนะ จอห์น ซีนา มาได้สำเร็จ  ในศึกรอว์ (2 เมษายน ค.ศ. 2012) หลังจบ เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 เดอะ ร็อค ได้ออกมาพูดถึงชัยชนะของเขาเมื่อคืน และยังขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่เชียร์

ADS