ประวัติ อารอน เเรมซี่ย์
อารอน แรมซีย์ กองกลางจอมพลังชาวอังกฤษของ อาร์เซน่อล ออกมาเผยว่าเขาและเพื่อนๆ มีความสุขมากหลังเอาชนะ กาลาตาซาราย ไปอย่างท่วมท้นถึง 4-1 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
แมตช์นี้ แรมซีย์ เหมาคนเดียวสองประตู ซึ่งเขาได้ชื่นชมเพื่อนๆ ที่ลืมความพ่ายแพ้จากเกมลีกนัดที่แล้ว และเปลี่ยนเป็นพลังในการเอาชนะทีมดังจากตุรกี"เรามาที่นี่ก็เพื่อต้องการจะชนะ และเราก็ทำมันได้ในที่สุด เรามีความสุขที่เราเก็บชัยในนัดนี้ เราจบในรอบนี้ด้วยอันดับหัวตารางของกลุ่ม และตอนนี้เราตั้งหน้ารอคอยว่าจะพบทีมไหนในรอบต่อไป"
"เรายิงประตูได้เยอะมากในเกมนี้ และทำให้เราใช้โอกาสได้อย่างคุ้มค่าเต็มที่"
ชื่อ : อารอน เเรมซี่ย์
เชื้อชาติ : เวลส์
วันเกิด : 26 ธันวาคม 1990
อายุ : 22 ปี
สถานที่เกิด : เมืองคาเออร์ฟิลลี่ ประเทศเวลส์
ส่วนสูง : 182 ซม.
ต้นสังกัด : อาร์เซน่อล
ตำแหน่ง : กองกลาง
อารอน เเรมซี่ เกิดที่เมืองคาเออร์ฟิลลี่ ประเทศเวลส์ ในตอนที่เขาเป็นนักเรียน แรมซี่ เป็นนักกีฬารักบี้ของโรงเรียน และถูกทาบทามจากแมวมองจากทีมรักบี้ ลีก ให้เซ็นสัญญามาร่วมทีม แต่ในตอนนั้น เขาได้เซ็นสัญญากับอะคาเดมี่เยาวชนของ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ไปก่อนหน้านั้นเรียบร้อยแล้ว
หลังจากนั้น เเรมซี่ ก็ได้บ่มเพาะฝีมือขึ้นมาจนเก่งกาจในระบบเยาวชนของสโมสร จนกระทั่งในฤดูกาล 2006-07 เขาก็ได้โอกาสลงสนามให้กับทีมเป็นครั้งแรกในศึกแชมเปี้ยนชิพ นัดที่เปิดบ้าน แพ้ ฮัลล์ 0-1 เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2007 ทำให้ เเรมซี่ย์ กลายเป็นนักเตะที่อายุุน้อยที่สุดที่ลงเล่นให้กับ คาร์ดิฟฟ์ ด้วยวัยเพียง 16 ปี กับอีก 124 วัน
เเรมซี่ เซ็นสัญญาอาชีพครั้งแรก ในเดือนธันวาคม 2007 และลงเล่นในฐานะนักเตะอาชีพแบบเต็มตัวครั้งแรกให้กับต้นสังกัดในศึกเอฟเอ คัพ ที่เอาชนะ เชสทาวน์ ไป 3-1 เมื่อวันที่ 5 มกราคม แรมซี่ ยิงประตูแรกในลีกให้กับ คาร์ดิฟฟ์ ในนัดที่เสมอกับ เบิร์นลี่ย์ 3-3 เมื่อวันที่ 26 เมษายน ซึ่งในฤดูกาล 2007-08 นี้ เขาลงสนามให้กับทีมไปทั้งหมด 21 นัดในทุกรายการ ทำได้ 2 ประตู
ในวันที่ 13 มิถุนายน 2008 แรมซี่ ได้ตกลงย้ายมาร่วมทีม อาร์เซน่อล ด้วยค่าตัว 4.8 ล้านปอนด์ (ราว 240 ล้านบาท) เขาลงสนามอย่างเป็นทางการนัดแรกให้กับ "ไอ้ปืนใหญ่" ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก รอบสาม นัดที่พบกับ ทเว้นเต้ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2008 และลงสนามในเกมลีกเป็นครั้งแรกให้กับต้นสังกัด ในนัดที่พบกับ แบล็คเบิร์น เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2008
ในวันที่ 22 สิงหาคม 2009 แรมซี่ ยิงประตูแรกในเกมลีกให้กับตัวเองได้ในนัดที่เปิดบ้านถล่ม ปอร์ทสมัธ 4-1 ต่อมา ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2010 แรมซี่ ก็ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงถึงขั้นขาหัก จากการเข้าสกัดของ ไรอัน ชอว์ครอสส์ กองหลังของ สโต๊ค ในนัดที่ อาร์เซน่อล บุกไปเยือน บริทานเนีย สเตเดี้ยม เขากลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกครั้ง ในนัดที่ทีมสำรองของ อาร์เซน่อล พบกับ
ทีมสำรองของ วูล์ฟ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2010
แรมซี่ ถูกปล่อยให้ ฟอเรสต์ ยืมตัว ในช่วงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2010 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2011 ซึ่งเขาลงสนามให้กับ ฟอเรสต์ ไปทั้งสิ้น 5 นัด แต่ทำประตูไม่ได้เลย ต่อมา เขาถูกยืมตัวไปที่ คาร์ดิฟฟ์ เป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยลงเล่นไปทั้งหมด 6 นัด ยิงได้ 1 ประตู เขากลับมาลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของ อาร์เซน่อล ได้อีกครั้ง โดยลงเล่นเป็นตัวสำรองในศึกเอฟเอ คัพ นัดที่พ่ายแพ้ให้กับ แมนฯ ยู ไป 0-2 ซึ่งในฤดูกาล 2010-11 นี้ แรมซี่ ลงสนามให้กับต้นสังกัดไปทั้งหมด 8 นัด รวมทุกรายการ ยิงได้ 1 ประตูในฤดูกาล 2011-12 แรมซี่ กลับมาเป็นกำลังหลักให้กับทีมแบบเต็มตัวอีกครั้ง หลังจากที่รักษาอาการขาหักจนหายดีแล้ว โดยลงสนามให้กับ "ไอ้ปืนใหญ่" ไปทั้งสิ้น 44 นัดในทุกรายการ ยิงได้ 3 ประตู แต่ก็ไม่สามารถช่วยต้นสังกัดคว้าแชมป์รายการใดได้เลย ต่อมาในฤดูกาล 2012-13 แรมซี่ ก็ยังคงเป็นมิดฟิลด์ตัวหลักของทีม อาร์เซน่อล เหมือนเดิม โดยทำสถิติลงสนามทั้งสิ้น 47 นัด ยิง 2 ประตู รวมในทุกรายการ แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะช่วยให้ "ไอ้ปืนใหญ่" คว้าแชมป์ใดมาประดับสโมสร อีกเช่นเคย
และล่าสุดในฤดูกาล 2013-14 นี้ แรมซี่ โชว์ฟอร์มในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยม โดยทำประตูให้กับ อาร์เซน่อล ไปแล้วถึง 9 ประตู จากการลงเล่น 12 นัด รวมทุกรายการ ช่วยให้ต้นสังกัดนำเป็นจ่าฝูงของพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ อยู่ในเวลานี้
สำหรับในนามทีมชาติเวลส์ แรมซี่ เริ่มติดทีมชาติในระดับเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ในปี 2005 ต่อมา เขาก็ก้าวขึ้นไปติดทีมเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ในปี 2007 ส่วนในทีมชาติเวลส์ชุดใหญ่นั้น แรมซี่ ลงเล่นในนามทีมชาติครั้งแรก ในนัดอุ่นเครื่อง ที่พบกับ เดนมาร์ก เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2008 ด้วยวัยเพียง 17 ปี ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นให้กับทีมชาติเวลส์ชุดใหญ่
และในกีฬาโอลิมปิค 2012 แรมซี่ ถูกเรียกตัวไปเล่นให้กับทีมสหราชอาณาจักร ซึ่งเขาก็ช่วยให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ก่อนที่จะตกรอบด้วยการแพ้จุดโทษให้กับทีมชาติเกาหลีใต้ 4-5 หลังจากที่เสมอกันใน 120 นาที 1-1 ปัจจุบัน แรมซี่ ลงสนามในนามทีมชาติเวลส์ไปแล้วทั้งหมด 30 นัด ยิงได้ 8 ประตู
อนาคตในวงการลูกหนังของ แรมซี่ ยังคงมีอีกยาวไกลเพราะตอนนี้เขาก็เพิ่งอายุแค่ 22 ปี เท่านั้น แต่กับความสามารถที่เขาแสดงออกมา ทุกคนคงได้ประจักษ์ถึงความเก่งกาจของเขากันไปแล้ว แฟนๆ ของ "ไอ้ปืนใหญ่" คงต้องคอยส่งแรงใจเชียร์ให้เขาโชว์ฟอร์มเทพแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
เพื่อที่วันหนึ่งอาจจะเป็นเขาที่พา อาร์เซน่อล กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งก็เป็นได้Updated by [G]