ประวัติ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน
|
01/01/1970 07:00 น.
|
891 Views
ชื่อเต็ม : อเล็กซ์ มาร์ค เดวิด อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลนวันเกิด : 15 ส.ค. 1993 (อายุ 20)เกิดที่ : ปอร์ทสมัธสัญชาติ : อังกฤษส่วนสูง : 180 ซม.ตำแหน่ง : ริมเส้น / กลางรุกหมายเลขเสื้อ : 15สโมสร : อาร์เซนอลอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน เข้าสังกัดเซาท์แฮมป์ตัน อเคเดมี่ ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ก่อนจะได้รับสัญญานักตเตะะอาชีพเมื่อปี 2010 หรือตอนอายุ 17 โดยวันที่ 2 มีนาคม เขาได้สัมผัสเกมชุดใหญ่กับ "นักบุญ" เป็นครั้งแรกในวัย 16 ปี กับอีก 199 วัน หลังจากลงสนามในบทบาทตัวสำรอง ในเกมถล่มฮัดเดอร์ฟิลด์ 5-0 ทำสถิตินักฟุตบอลอายุน้อยที่สุดของสโมสรเป็นอันดับที่ 2 ซึ่งได้ลงสนาม รองจากธีโอ วัลค็อตต์ในช่วงต้นซีซั่น 2010-11 แอกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ได้ลงโชว์ฟอร์มตั้งแต่ออกสตาร์ทเป็นครั้งแรกในสีเสื้อ "นักบุญ" เป็นศึกลีก คัพ รอบแรก ซึ่งพบกับบอร์มัธ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ระหว่างเกมดังกล่าว เจ้าตัวยังสามารถเบิกสกอร์ที่ 2 ให้ทีมได้อีกด้วย และผลจบลงที่เซาท์แฮมป์ตัน ชนะ 2-0 โดยประตูดังกล่าว นับเป็นลูกแรกในชีวิตนักฟุตบอลอาชีพของดาวเตะวัยรุ่น ทั้งที่เกือบจะถูกเซาท์แฮมป์ตัน โละออกจากทีมตอนอายุ 15วันที่ 20 สิงหาคม 2010 เมื่อแชมเบอร์เลน อายุ 17 ปีกว่า ก็ได้เซ็นสัญญาค้าแข้งในถิ่นเซนต์ แมรี่ ยาว 3 ปี และได้ลงประเดิมเกมแรกเป็นการพบกับโรชเดล 2-0 ในบ้าน จากนั้น "ดิ อ็อกซ์" ทำประตูให้ทีมในนัดชนะโอลด์แฮม 2-1 ซึ่งนับเป็นประตูแรกในลีกของเจ้าตัวอีกด้วยแชมเบอร์เลน ยังคงโชว์ผลงานได้อย่างร้อนแรง เมื่อบวกประตูเพิ่มให้กับตัวเองอีก 2 ลูก และจ่ายให้เพื่อนทำประตูอีก 2 ลูก ในแมตช์ถล่มดักแน่ม 4-0 เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2010 และเกมดังกล่าว อเล็กซ์ ยังได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำแมตช์ เป็นครั้งแรกแชมเบอร์เลน ยิงได้ 9 ตุง ตลอดซีซั่นดังกล่าว พร้อมกับพาเซาท์แฮมป์ตัน เลื่อนชั้นขึ้นสู่แชมเปี้ยนชิพ แถมเจ้าตัวยังมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมพีเอฟเอ ลีก วัน 2010-11 อีกต่างหาก จากนั้นกองกลางดาวรุ่งก็ย้ายไปร่วมทีมอาร์เซน่อล ตามคำแนะนำของ มาร์ค แชมเบอร์เลน พ่อบังเกลิดเกล้า ที่รีบให้ลูกชายรีบไปอยู่กับ "เดอะ กันเนอร์ส" เป็นการด่วน เพื่อพัฒนาฝีเท้าไปอีกขั้นวันที่ 8 สิงหาคม 2011 อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ย้ายมาอยู่กับอาร์เซน่อล อย่างเป็นทางการ ด้วยค่าตัวประมาณ 12 ล้านปอนด์ (ราว 660 ล้านบาท) และจะเพิ่มไปเป็น 15 ล้านปอนด์ (ราว 825 ล้านบาท) ตามสัญญาที่ระบุ จากนั้นแชมเบอร์เลน ได้ลงเล่นให้ "ไอ้ปืนใหญ่" เป็นครั้งแรกในนัดยกพลพ่ายแมนฯ ยูไนเต็ด 2-8 โดยได้โอกาสโม่แข้งแทน ฟร็องซิส โกเกแล็ง ในนาทีที่ 62ปีกดาวโรจน์กดประตูแรกให้ทีมได้ในเกมแชมปเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งพบกับโอลิมเปียกอส และกลายเป็นนักเตะอังกฤษที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในเกมยูซีแอล หลายเดือนต่อมาในวันที่ 22 มกราคม 2012 ด้าน แชมเบอร์เลน ก็ปลดล็อกเบิกลูกแรกในพรีเมียร์ลีก จนได้ จากการจ่ายของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ระหว่างแมตช์พ่าย ยูไนเต็ด 1-2 ซึ่งเกมดังกล่าว อาร์แซน เวนเกอร์ สร้างความไม่พอใจให้แฟนบอล เมื่อเปลี่ยนตัวแชมเบอร์เลน ออก แล้วส่งอาร์ชาวิน ลงไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2012 แชมเบอร์เลน บวกสกอร์ให้ตัวเองได้ถึง 2 ลูก ในเกมลีกซึ่งไล่ถลุงแบล็คเบิร์น 7-1 จากนั้นหลังเกมกับเอซี มิลาน ในศึกแชมปี้ยนส์ ลีก เลก 2 ด้านจอมทัพวัยกระเตาะได้รับคำชมอย่างมากมายจากสื่อมวลชน โดยเฉพาะมาร์โก ฟาน บาสเท่น ซึ่งออกมากล่าวว่า แชมเบอร์เลน ตือ"เพชรเม็ดงาม" รวมถึงฟาน เพอร์ซี่ ที่บอกว่าอ็อกเลดซ์ จะเป็นอนาคตของอาร์เซน่อล และทีมชาติอังกฤษเมื่อสิ้นสุดสุดฤดูกาล 2011-12 แชมเบอร์เลน มีชื่อติดโผรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม ละกลายเป็นนักเตะอายุที่สุดที่ได้อยู่ในลิสต์ ถึงแม้ท้ายที่สุด ไคล์ วอลเกอร์ แบ็กจากสเปอร์ส จะคว้ารางวัลดังกล่าวไปได้ก็ตาม ช่วงต้นซีซั่น 2012-13 ดาวโรจน์ทีมชาติอังกฤษ ทำประตูให้ทีมได้ในเกมลีก คัพ ซึ่งถล่มโคเวนทรี 6-1 ในเอมิเรตส์ ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมส่งผลให้แชมเบอร์เลน ได้รับการขยายสัญญายาวกับต้นสังกัดออกไป อย่างไรก็ตาม ตลอดฤดูดังกล่าว "ดิ อ็อกซ์" ยิงประตูในลีกได้เพียงลูกเดียวส่วนในซีซั่นปัจจุบัน แชมเบอร์เลน เปิดตัวไม่สวยนัก เมื่อเจอกับอาการบาดเจ็บเล่นงาน ในเกมพ่าย วิลล่า 1-3 ซึ่งต้องพักยาวหลายเดือน และพลาดมีส่วนร่วมในแมตช์ทีมชาติอังกฤษ ทำศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับโปแลนด์ และมอนเตเนโกร ถึงแม้จะเจ็บยาว แต่แชมเบอร์เลน ก็ยังมีชื่อลุ้นรางวัล โกลเด้น บอย 2013 และล่าสุดเใอวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ในเกมพรีเมียร์ลีก ปรากฏว่าปีกอนาคตไกล โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด ด้วยการเหมาคนเดียวสองตุง พาทีมทุบ พาเลซ 2-0 เมื่อ
Previous Post
โธมัส มุลเลอร์