ประวัติ มาริโอ เกิทเซ่
|
01/01/1970 07:00 น.
|
1162 Views
ชื่อ : มาริโอ เกิทเซวันเกิด : วันที่ 3 มิถุนายน 1992สถานที่เกิด : แมนมินเกน, เยอรมนีสัญชาติ : เยอรมันส่วนสูง : 176 เซนติเมตรตำแหน่ง : กองกลางตัวรุกสโมสรปัจจุบัน : บาเยิร์น มิวนิคมาริโอ เกิทเซ่ เกิดที่เมืองเมมมิงเก้น แคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 3 ขวบ และเข้าสู่ทีมเยาวชนของสโมสรดอร์ทมุนด์ เมื่ออายุ 9 ขวบ ก่อนขึ้นชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในปี 2009 ในตำแหน่งกองกลางตัวรุก จากนั้นก็เริ่มเป็นตัวหลักของสโมสรเรื่อยมาเมื่อเกิทเซ่เริ่มมีบทบาทกับ "เสือเหลือง" ผลงานของดอร์ทมุนด์ก็เริ่มบินสูงทันที ด้วยการยกระดับมาเป็นผู้ท้าชิงแชมป์บุนเดสลีก้า เยอรมนี กับบาเยิร์น มิวนิค สโมสรยักษ์ใหญ่ของประเทศ อย่างเต็มตัว โดยดาวเตะวัยรุ่น ได้ประสานงานในแดนหน้ากับโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ศูนย์หน้าของทีม ช่วยให้ฤดูกาล 2010-11 สามารถคว้าแชมป์บุนเดสลีก้าได้ ขณะที่ฤดูกาลต่อมา ก็ได้สร้างประวัติศาสตร์คว้าดับเบิลแชมป์ โดยกวาดแชมป์บุนเดสลีก้า กับ เดเอฟเบ โพคาลช่วงเดือนมีนาคม 2012 เกิทเซ่ ต่อสัญญากับ "เสือเหลือง" ออกไปจนถึงปี 2016 โดยมีค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 37 ล้านยูโร ก่อนจะให้สัมภาษณ์ว่า "ทุกๆคนรู้ว่าผมรู้สึกดีมากที่เล่นให้ดอร์ทมุนด์ ตอนนี้ต้นสังกัดยังต้องยกระดับอีกเยอะ กว่าจะก้าวขึ้นเป้นทีมระดับโลก ซึ่งผมต้องการเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของทีม"อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นปี 2013 การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับตัวเกิทเซ่ก็เกิดขึ้น เมื่อบาเยิร์น มิวนิคอริตัวเอ้ของดอร์ทมุนด์ ได้ยื่นซื้อตัวโกลเด้น บอย คนใหม่ของวงการลูกหนังเมืองเบียร์ ในราคา 37 ล้านยูโร ซึ่งตรงกับค่าฉีกสัญญาของเจ้าตัวพอดี ทำให้บาเยิร์น สามารถเข้าไปเจรจากับตัวเกิทเซ่ได้ทันที โดยที่ทางสโมสรไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธข้อเสนอ เว้นแต่ว่าตัวเกิทเซ่จะปฏิเสธข้อเสนอเองจากนั้น เกิทเซ่ก็ตัดสินใจย้ายไปร่วมทัพบาเยิร์น หลังจากจบฤดูกาล 2012-13 นับเป็นการย้ายตัวที่สั่นสะเทือนวงการฟุตบอลเยอรมนี โดยเจ้าตัวให้เหตุผลว่า "ผมต้องการเก่งกว่านี้" อีกทั้งต้องการเพิ่มโอกาสในการติดทีมชาติเยอรมนี รวมถึงต้องการร่วมงานกับเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้ฝึกสอนของบาเยิร์น ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นสุดยอดกุนซือยุคใหม่ ซึ่งในเรื่องสุดท้าย ทางเจอร์เก้นส์ คล็อปป์ ผู้ฝึกสอนของดอร์ทมุนด์ ก็ออกมาตัดพ้อผ่านสื่อเช่นกันเกี่ยวกับการตัดสินใจของเกิทเซ่ ส่วนทางแฟนบอลดอร์ทมุนด์เอง ก็มีทั้งขอบคุณในผลงานที่ทำมาโดยตลอด และก่นด่าว่าเป็นผู้ทรยศการย้ายตัวของเกิทเซ่ยังไม่จบ เมื่อในฤดูกาลนั้นเอง ดอร์ทมุนด์ ต้องมาเผชิญหน้ากับบาเยิร์น ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลสโมสรยุโรป ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก โดยที่เกิทเซ่ไม่สามารถลงเกมนั้นได้ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ สุดท้ายก็เป็นบาเยิร์นทีมใหม่ชนะดอร์ทมุนด์ทีมเก่าไปได้ 2-1 ทำให้ฤดูกาลนั้น ดอร์ทมุนด์คว้า 3 รองแชมป์ในฤดูกาลเดียวเกิทเซ่ ย้ายไปร่วมทัพบาเยิร์นในฤดูกาล 2013-14 ทว่าเส้นทางการค้าแข้งกับต้นสังกัดใหม่ กลับไม่สวยหรูอย่างที่หวัง เมื่อเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่เป็นระยะ รวมถึงฟอร์มการเล่นที่ดร็อปลงมา อย่างไรก็ดีเพลย์เมเกอร์ ร่างเล็ก ค้นพบตำแหน่งใหม่ก็คือ "กองหน้าตัวหลอก" หรือ "false9" และเกิทเซ่ ก็ถือว่าทำได้ดีกับบทบาทดังกล่าว ก่อนจะนำพลพรรค "เสือใต้" คว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลเดียว ได้แก่ บุนเดสลีก้า, เดเอฟเบ โพคาล, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกทีมชาติเยอรมนีเกิทเซ่ แจ้งเกิดในนามทีมชาติตั้งแต่รุ่นเยาวชน เริ่มจาก ยู-15, 16, 17 และ 21 ปี ตามลำดับ ซึ่งตอนที่เกิทเซ่ติดทีมชุดต่ำกว่า 17 ปีนั้น ก็สามารถคว้าแชมป์ยูโร ชุดต่ำกว่า 17 ปีได้ด้วยในปี 2009 ขณะที่ทีมชาติชุดใหญ่ เริ่มติดทีมชาติเป็นครั้งแรกในปี 2010 ก่อนจะเปิดตัวทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งแรกในศึกยูโร 2012 ถึงแม้เจ้าตัวจะไม่มีส่วนร่วมมากนัก เนื่องจากมีปัญหาเจ็บช่วงหลังกับต้นสังกัด ทว่าเยอรมัน ก็ผ่านไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศ แต่พ่ายอิตาลีไป 0-3ส่วนในฟุตบอลโลก 2014 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปนั้น นับว่าเป็นรายการที่สร้างชื่อให้เกิทเซ่เลยทีเดียว โดยตอนแรก เกิทเซ่ แทบไม่มีบทบาทกับทีม เอนไปทางต่ำกว่ามาตรฐานด้วยซ้ำ ถึงขั้นหลุดไปเป็นตัวสำรอง ทว่าแนวรุกบาเยิร์น กลายเป็นหมากเด็ดของโยอาคิม เลิฟ ในนัดชิงชนะเลิศ หลังจากเปลี่ยนลงมาเป็นซูเปอร์ซับ ทำประตูชัยให้ทีมช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 113 พาทีมสู่บัลลังก์แชมป์โลกครั้งที่ 4 อย่างยิ่งใหญ่
Previous Post
คอนเนอร์ วิคแฮม
Next Post
เดยัน ลอฟเรน