ประวัติ เดยัน ลอฟเรน
ปราการหลังหงส์แดงตัดสินใจปิดหน้าบัญชีอินสตาแกรมของตัวเองหลังจากที่ถูกแฟนบอลจำนวนหนึ่งเข้าไปรุมตำหนิอย่างหนัก
เดยัน ลอฟเรน กองหลังลิเวอร์พูล ตัดสินใจปิดหน้าอินสตาแกรมของตัวเอง (dejanlovren06) หลังจากที่ทำผิดพลาดในเกมพ่ายเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-0 จนทำให้แฟนบอลจำนวนหนึ่งไม่พอใจและเข้าไปตำหนิเขาอย่างหนัก
แนวรับวัย 26 ปี เล่นผิดพลาดอย่างร้ายแรงในจังหวะที่ปล่อยให้ มานูเอล ลานซินี ฉกบอลจากบริเวณริมเส้น ก่อนที่จะนำไปสู่ประตูที่สองของการแข่งขัน จากผลงานของมาร์ค โนเบิล
ทั้งนี้ ลอฟเรนตัดสินใจเปิดหน้าบัญชีอินสตาแกรมของตัวเอง หลังจากที่ย้ายมาเล่นให้แอนฟิลด์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และมีอายุครบ 1 ปี กับอีก 10 วันพอดิบพอดี
ประวัติส่วนตัว
เดยัน ลอฟเรน (เกิดวันที่ 5 กรกฎาคม 1989) เซ็นเตอร์แบ็คทีมชาติโครเอเชีย เกิดในเมือง เซนิก้า ประเทศ ยูโกสลาเวีย ซึ่งปัจจุบันคือประเทศ บอสเนีย และ เฮอร์เซโกวิน่า อดีตนักเตะเยาวชนดาวรุ่งของ ดินาโม ซาเกร็บ
ประวัติการค้าแข้ง
ดินาโม ซาเกร็บ ปี 2006-2010
ลอฟเรน เริ่มต้นอาชีพการค้าแข้งด้วยการเป็นนักเตะเยาวชนของ เอ็นเค คาร์โลวัค และหลังจากนั้นเขาก็ได้เข้าร่วมกับทีมยักษ์ใหญ่อย่าง ดินาโม ซาเกร็บ ในปี 2004 ด้วยวัย 15 ปี ในวันที่ 10 มิถุนายน 2006 เขาลงสนามเปิดตัวเป็นครั้งแรกกับทีมชุดใหญ่ พบกับทีม อินเตอร์ ซาเปรซิซ และในเวลาต่อมา วันที่ 17 กรกฎาคม 2007 เขาถูกปล่อยยืมให้กับสโมสร อินเตอร์ ซาเปรซิซ สองฤดูกาล ซึ่งเขาได้รับโอกาสลงสนามถึง 50 เกม และยิงประตูในเกมที่พบกับ เอ็นเค โอซิยัค เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2008
หลังจากที่เขากลับมายังสโมสร ดินาโม ซาเกร็บ อีกครั้ง เขาได้ขึ้นเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริง โดยลงสนามทั้ง 38 เกม ตลอดทั้งฤดูกาล 2008-09 และยิงได้ 3 ประตู ซึ่งในฤดูกาล 2009-10 ลอฟเรน ได้โอกาสลงสนามในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือกทั้งสี่เกมที่พบกับ พยูนิค เยเรวาน และ เร้ด บูลล์ ซัลซ์บวร์ก ตามลำดับ แถมยังยิงประตูจากการโหม่งจ่อ ๆ ในเกมที่พบกับ พยูนิค ได้อีกด้วย
โอลิมปิก ลียง ปี 2010-2013
ในเดือน มกราคม ปี 2010 ลอฟเรน เซ็นสัญญาเข้าร่วมทัพ โอลิมปิก ลียง ยอดทีมจากลีก เอิง ฝรั่งเศส ด้วยค่าตัว 8 ล้านยูโร (ประมาณ 342 ล้านบาท) บวกกับ 1.5 ล้านยูโร (ประมาณ 64 ล้านบาท) เพื่อเป็นค่าสัญญาระยะยาวกว่า 4 ปีครึ่ง ซึ่งเขาลงสนามเป็นเกมแรกในวันที่ 24 มกราคม 2010 ในเกมที่พวกเขาเอาชนะ โมนาโก 2-1 ในศึก คูป เดอ ฟรองซ์ โดยการลงสนามเต็มเกมอย่างเป็นทางการในลีก เอิง ของเขาเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 มกราคม ในเกมที่เปิดบ้านเอาชนะ เปแอสเช 2-1 ซึ่งเขาได้โอกาสลงสนามในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังเพียงแค่ 10 เกมเท่านั้น โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นตัวสำรอง เขาไม่มีสิทธิ์ลงเล่นในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้กับ ลียง เพราะว่าเขาเคยลงเล่นให้กับ ดินาโม ซาเกร็บ มาก่อนแล้วในฤดูกาลนี้
ลอฟเรน ได้รับโอกาสลงเล่นมากขึ้นในระหว่างฤดูกาล 2010-11 ซึ่งเขาเริ่มออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้กับทีมในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คคู่กับ คริส และยังมีบางเกมที่เขาต้องโยกไปเล่นในตำแหน่งฟูลแบ็คซ้าย-ขวา เรียกได้ว่าเป็นกองหลังสารพัดประโยชน์เลยทีเดียว โดยในเดือน พฤศจิกายน ปี 2010 เขาได้ถูกเสนอชื่อไว้ในลิส 100 นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมที่สุดในโลกของ ดอน บาลอน นิตยสารฟุตบอลชื่อดังของประเทศ สเปน ซึ่งเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2012 ปราการหลังโครแอตรายนี้ได้รับการขยายสัญญากับ ลียง ไปอีกสองปียาวไปจนถึงปี 2016 และเขาได้ลงสนามในเกมที่เอาชนะ คูวิลลี่ 1-0 ในรายการ คูป เดอ ฟรองซ์ แต่น่าเสียดายที่เขาถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 18 โดยส่ง บาการี่ โคเน่ ลงมาแทน
เซาท์แฮมป์ตัน ปี 2013-2014
วันที่ 14 มิถุนายน 2013 ลอฟเรน ตกลงเซ็นสัญญาร่วมทัพ "นักบุญแดนใต้" เป็นระยะเวลา 4 ปี โดยไม่ได้เปิดเผยค่าตัว แต่มีการประเมินคร่าว ๆ อยู่ที่ 8.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 460 ล้านบาท) ซึ่งเขาลงสนามเป็นเกมแรกในวันที่ 17 สิงหาคม 2013 ในเกมที่เอาชนะ เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-0 และเขาได้สังหารประตูแรกให้กับ เซาท์แฮมป์ตัน ในเกมที่เอาชนะ ลิเวอร์พูล ที่สนาม แอนฟิลด์ เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2013 ซึ่งเขาเป็นคนซัดประตูชัยในเกมนั้น ต่อมาในวันที่ 19 ตุลาคม เขาแอสซิสให้ อดัม ลัลลานา ยิงประตูตีเสมอในเกมที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
เขายิงประตูที่สองในลีกได้สำเร็จในเกมที่เสมอกับ ซันเดอร์แลนด์ 2-2 เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2014 แต่เขาต้องพบกับข่าวร้ายเมื่อเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บจนต้องหามส่งโรงพยาบาลหลังการแข่งขัน ซึ่งต่อมาในวันที่ 23 มกราคม มีการประกาศออกมาว่าเขาและ กัสตอน รามิเรซ จะต้องพักอย่างน้อย 6-8 สัปดาห์ จากอาการบาดเจ็บที่เอ็นข้อเท้า
ในช่วงท้ายฤดูกาลแรกในศึก พรีเมียร์ลีก ของเขา ลอฟเรน มีชื่ออยู่ในลิส 50 แข้ง บลูมเบิร์ก สปอร์ต พาวเวอร์ ซึ่งจัดอันดับจากการเก็บสถิติความสามารถของผู้เล่นในห้าลีกดังของยุโรป โดยเขาอยู่ในอันดับ 5 ที่ดีที่สุดของนักเตะในพรีเมียร์ลีก และเป็นอันดับที่ 31 ในรายการทั้งหมด
หลังจากที่มีการคาดเดากันมากมายเกี่ยวกับอนาคตของ ลอฟเรน ที่อาจจะต้องเก็บข้าวของตามหลัง อดัม ลัลลานา, ริคกี้ แลมเบิร์ต และ ลุค ชอว์ ออกจากสโมสร ซึ่ง ลิเวอร์พูล เอ็คโค่ รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2014 ทางสโมสร เซาท์แฮมป์ตัน ได้บรรลุข้อตกลงค่าตัวกับ "หงส์แดง" ในการขาย ลอฟเรน เป็นที่เรียบร้อย และกำลังเดินทางมาตรวจร่างกายที่ เมลวู้ด สนามซ้อมของ ลิเวอร์พูล หลังจากที่ต้นสังกัดเก่าได้รับเอกสารซื้อ-ขายแล้ว
ลิเวอร์พูล ปี 2014-ปัจจุบัน
ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2014 ลอฟเรน กลายเป็นนักเตะของ เซาท์แฮมป์ตัน รายที่สามที่ตบเท้าเข้าสู่รั้ว แอนฟิลด์ ตามหลัง ริคกี้ แลมเบิร์ต และ อดัม ลัลลานา โดยเขาเซ็นสัญญาระยะยาว 4 ปี ด้วยค่าตัวราว ๆ 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,082 ล้านบาท)
ความสำเร็จ
ระดับสโมสร
ดินาโม ซาเกร็บ
- แชมป์ ลีก โครเอเชีย : 2005-06, 2008-09
- แชมป์ โครเอเชีย คัพ : 2009อินเตอร์ ซาเปรซิซ
- แชมป์ ลีกรอง โครเอเชีย : 2006-07โอลิมปิก ลียง
- คูป เดอ ฟรองซ์ : 2012