ประวัติ อังเคล ดิ มาเรีย
ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตกองหลังระดับตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อว่า อังเคล ดิ มาเรีย ตัดสินใจย้ายออกจากทีมเร็วเกินไป ทั้งที่ควรอยู่พิสูจน์ตัวเองให้มากกว่านี้ก่อน และจะเสียใจภายหลังแน่ที่เลือกทางเดินแบบนี้
ปีกทีมชาติอาร์เจนตินา ไม่ยอมมาเข้าแคมป์ฝึกซ้อมกับปีศาจแดงเลยตลอดช่วงปรีซีซั่น โดยล่าสุดมีภาพของเขาที่เดินทางไปตรวจร่างกายที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เพื่อเตรียมโยกไปอยู่กับปารีส แซงต์ แชร์กแมง
"ตอนนี้ในประวัติการค้าแข้งของเขาก็ถูกบันทึกไว้แล้วว่าเป็นนักเตะที่ล้มเหลวกับการเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด และเขาอาจจะเสียใจภายหลังได้ที่ตัดสินใจแบบนี้" อดีตเซ็นเตอร์ฮาล์ฟวัย 36 กะรัต กล่าวกับ BT Sport
"ในฐานะนักฟุตบอลอาชีพคนหนึ่ง ผมไม่มีวันยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวผมแน่นอน เพราะผมจะรีบเข้ามาฝึกซ้อมกับทีมให้เร็วที่สุด และพยายามพิสูจน์ตัวเองเพื่อคว้าโอกาสลงสนามให้ได้ และหากพูดในฐานะแฟนยูไนเต็ดคนหนึ่งผมเชื่อว่าเขาจะกลับมาเป็นนักเตะที่ดีในสีเสื้อยูไนเต็ดได้แน่ แต่สุดท้ายเรื่องนี้ก็ไม่เกิดขึ้น"
ชื่อเต็ม : อังเคล ฟาเบียง ดิ มาเรีย เอร์นานเดซวันเกิด : โรซาริโอ , ประเทศอาร์เจนตินาสัญชาติ : อาร์เจนตินาส่วนสูง : 180 เซนติเมตรตำแหน่ง : ปีก/มิดฟิลด์ตัวรุกสโมสรปัจจุบัน : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดประวัติการค้าแข้งโรซาริโอ เซนทรัลดิ มาเรีย เริ่มอาชีพค้าแข้งนัดแรก เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2005 ในเกมลีกที่เสมอ 2-2 กับ อินดีเพนเดียนเต้ โดยลงมาแทน เอมิเลียโน่ เว็คคิโอ เขามายิงลูกแรกเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2006 ในเกมเปิดบ้านชนะ กิเมส 4-2เบนฟิก้าดิ มาเรีย ได้เลือกย้ายไปร่วมทีม เบนฟิก้า ในลีก โปรตุเกส เมื่อเดือนกรกฎาคม 2007 โดยเล่นในตำแหน่งปีก ซึ่งเข้าแทนที่ ซิเมา ปีกกัปตันทีมที่ย้ายไปร่วมทีม แอตเลติโก มาดริดในช่วงซัมเมอร์ พร้อมรับคำชมจาก ดีเอโก้ มาราโดน่า ว่าจะเป็นซูเปอร์สตาร์อาร์เจนติน่าคนต่อไปวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2010 ดิมาเรีย ทำแฮตทริคได้ในเกมชนะ ไลซอส 4-0 จนได้ฉายาว่า แมจิก ไตร มาเรียเรอัล มาดริดฤดูกาล2010-11วันที่ 28 มิถุนายน 2010 เรอัล มาดริด ได้ประกาศทางเว็บไซต์ว่า ได้เซ็นสัญญา 5 ปี มูลค่า 25 ล้านปอนด์ คว้าตัว ดิ มาเรีย เขาได้เริ่มเกมแรกในทีมชุดขาววันที่ 4 สิงหาคม 2010 ในเกมอุ่นเครื่องกับ คลับ อเมริกา ซึ่งชนะไป 3-2เขาประเดิมเกมลีกนัดแรกวันที่ 29 สิงหาคม ในนัดเสมอ เรอัล มายอร์ก้า 0-0 จากนั้นทำประตูแรกให้ทีม ในชัยชนะเหนือ เรอัล โซเซียดัด 2-1 ต่อเนื่องด้วยประตูแรกในแชมเปี้ยนส์ ลีกในเกมเชือด โอแซร์ 1-0ฤดูกาล 2011-12เป็นซีซั่นที่ปรับตัวได้ยากลำบาก เขามีส่วนทำผิดพลาดในเกมแพ้ เลบานเต้ 1-0 หลังจากไปทำฟาลว์ใส่ ฆวนฟราน จนเกิดการทะเลาะกัน ส่งผลให้ทีมของเขาเหลือ 10 คน แต่กระนั้นก้ยังทำแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมทำสกอร์อยู่เป็นระยะๆฤดูกาล 2012-13เขามาทำประตูแรกในซีซั่นนี้ในนัดเจอ บาร์เซโลน่า ในถ้วยซูเปอร์โคปา เลกแรก จากความผิดพลาดของ บิคตอร์ บัลเดสซีซั่นนี้ผลงานของเขาไม่ค่อยมี ที่พอจดจำได้คือการครอสบอลให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงประตู แมน ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ จบซีซั่นนี้เขาทำไป 8 ประตู จาก 46 นัดฤดูกาล 2013-14วันที่ 2 ตุลาคม 2013 เขาเหมาสองลูก ในเกมถล่ม เอฟซี โคเปนเฮเก้น 4-0 ในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก พร้อมรับบทเป็นกองกลางตัวทำเกม ภายใต้การคุมทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ ฤดูกาลนี้เขาทำแอสซิสต์สูงสุดของลีก พร้อมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รวมทั้งมีชื่ออยู่ทีมยอดเยี่ยม ยูฟ่า และรับรางวัลจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันฤดูกาล 2014-15ดิ มาเรีย ถูกจับเป็นสำรองในเกม ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ นัดเจอเซบีย่า วันที่ 12 สิงหาคมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดวันที่ 26 สิงหาคม 2014 ดิ มาเรีย เซ็นสัญญา 5 ปี กับ แมน ยูไนเต็ด ด้วยราคาค่าตัว 59.7 ล้านปอนด์ เปนสถิติผู้เล่นแพงที่สุดของพรีเมียร์ ลีกทีมชาติฟุตบอลโลก 2010วันที่ 19 พฤษภาคม 2010 เขาถูกเลือกจากดีเอโก้ มาราโดน่า ผู้จัดการทีมชาติอาร์เจนตินา ให้ติด 23 ผู้เล่นชุดลุยบอลโลกที่แอฟริกาใต้โดยในทัวร์นาเม้นท์นี้ เขาทำประตูได้ในเกมกระชับมิตรกับ ไอร์แลนด์ พาทีมชนะ 1-0ฟุตบอลโลก 2014ดิมาเรีย ได้ลงเล่นใรฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 2014 ไป 12 นัด และติด 23 คนสุดท้ายชุดลุยบอลโลก ที่บราซิล เขาทำประตูได้ในเกมพบ สวิตเซอร์แลนด์ ในนาที 118 จากนั้นเกมพบ เบลเยี่ยม เขามาบาดเจ็บต้นขา จนต้องถอนตัวจากรายการนี้วันที่ 11 กรกฎาคม ดิ มาเรีย มีชื่อติดใน 10 คนสุดท้ายรางวัล บอลทองคำ ในรายการนี้ด้วย