ประวัติ อังเคล ดิ มาเรีย

| 01/01/1970 07:00 น. | 2896 Views

     ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตกองหลังระดับตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อว่า อังเคล ดิ มาเรีย ตัดสินใจย้ายออกจากทีมเร็วเกินไป ทั้งที่ควรอยู่พิสูจน์ตัวเองให้มากกว่านี้ก่อน และจะเสียใจภายหลังแน่ที่เลือกทางเดินแบบนี้

     ปีกทีมชาติอาร์เจนตินา ไม่ยอมมาเข้าแคมป์ฝึกซ้อมกับปีศาจแดงเลยตลอดช่วงปรีซีซั่น โดยล่าสุดมีภาพของเขาที่เดินทางไปตรวจร่างกายที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เพื่อเตรียมโยกไปอยู่กับปารีส แซงต์ แชร์กแมง

     "ตอนนี้ในประวัติการค้าแข้งของเขาก็ถูกบันทึกไว้แล้วว่าเป็นนักเตะที่ล้มเหลวกับการเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด และเขาอาจจะเสียใจภายหลังได้ที่ตัดสินใจแบบนี้" อดีตเซ็นเตอร์ฮาล์ฟวัย 36 กะรัต กล่าวกับ BT Sport

     "ในฐานะนักฟุตบอลอาชีพคนหนึ่ง ผมไม่มีวันยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวผมแน่นอน เพราะผมจะรีบเข้ามาฝึกซ้อมกับทีมให้เร็วที่สุด และพยายามพิสูจน์ตัวเองเพื่อคว้าโอกาสลงสนามให้ได้ และหากพูดในฐานะแฟนยูไนเต็ดคนหนึ่งผมเชื่อว่าเขาจะกลับมาเป็นนักเตะที่ดีในสีเสื้อยูไนเต็ดได้แน่ แต่สุดท้ายเรื่องนี้ก็ไม่เกิดขึ้น"

ชื่อเต็ม : อังเคล ฟาเบียง ดิ มาเรีย เอร์นานเดซ
วันเกิด : โรซาริโอ , ประเทศอาร์เจนตินา
สัญชาติ : อาร์เจนตินา
ส่วนสูง : 180 เซนติเมตร
ตำแหน่ง : ปีก/มิดฟิลด์ตัวรุก
สโมสรปัจจุบัน : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
 
ประวัติการค้าแข้ง
โรซาริโอ เซนทรัล
     ดิ มาเรีย เริ่มอาชีพค้าแข้งนัดแรก เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2005 ในเกมลีกที่เสมอ 2-2 กับ อินดีเพนเดียนเต้ โดยลงมาแทน เอมิเลียโน่ เว็คคิโอ เขามายิงลูกแรกเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2006 ในเกมเปิดบ้านชนะ กิเมส 4-2 
 
 
เบนฟิก้า
     ดิ มาเรีย ได้เลือกย้ายไปร่วมทีม เบนฟิก้า ในลีก โปรตุเกส เมื่อเดือนกรกฎาคม 2007 โดยเล่นในตำแหน่งปีก ซึ่งเข้าแทนที่ ซิเมา ปีกกัปตันทีมที่ย้ายไปร่วมทีม แอตเลติโก มาดริดในช่วงซัมเมอร์ พร้อมรับคำชมจาก ดีเอโก้ มาราโดน่า ว่าจะเป็นซูเปอร์สตาร์อาร์เจนติน่าคนต่อไป
     วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2010 ดิมาเรีย ทำแฮตทริคได้ในเกมชนะ ไลซอส 4-0 จนได้ฉายาว่า แมจิก ไตร มาเรีย
 
 
เรอัล มาดริด
ฤดูกาล2010-11
     วันที่ 28 มิถุนายน 2010 เรอัล มาดริด ได้ประกาศทางเว็บไซต์ว่า ได้เซ็นสัญญา 5 ปี มูลค่า 25 ล้านปอนด์ คว้าตัว ดิ มาเรีย  เขาได้เริ่มเกมแรกในทีมชุดขาววันที่ 4 สิงหาคม 2010 ในเกมอุ่นเครื่องกับ คลับ อเมริกา ซึ่งชนะไป 3-2 
     เขาประเดิมเกมลีกนัดแรกวันที่ 29 สิงหาคม ในนัดเสมอ เรอัล มายอร์ก้า 0-0 จากนั้นทำประตูแรกให้ทีม ในชัยชนะเหนือ เรอัล โซเซียดัด 2-1 ต่อเนื่องด้วยประตูแรกในแชมเปี้ยนส์ ลีกในเกมเชือด โอแซร์ 1-0  
ฤดูกาล 2011-12 
     เป็นซีซั่นที่ปรับตัวได้ยากลำบาก เขามีส่วนทำผิดพลาดในเกมแพ้ เลบานเต้ 1-0 หลังจากไปทำฟาลว์ใส่ ฆวนฟราน  จนเกิดการทะเลาะกัน ส่งผลให้ทีมของเขาเหลือ 10 คน แต่กระนั้นก้ยังทำแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมทำสกอร์อยู่เป็นระยะๆ 
 
ฤดูกาล 2012-13
     เขามาทำประตูแรกในซีซั่นนี้ในนัดเจอ บาร์เซโลน่า ในถ้วยซูเปอร์โคปา เลกแรก จากความผิดพลาดของ บิคตอร์ บัลเดส
     ซีซั่นนี้ผลงานของเขาไม่ค่อยมี ที่พอจดจำได้คือการครอสบอลให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงประตู แมน ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ จบซีซั่นนี้เขาทำไป 8 ประตู จาก 46 นัด
ฤดูกาล 2013-14
     วันที่ 2 ตุลาคม 2013 เขาเหมาสองลูก ในเกมถล่ม เอฟซี โคเปนเฮเก้น 4-0 ในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก พร้อมรับบทเป็นกองกลางตัวทำเกม ภายใต้การคุมทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ      ฤดูกาลนี้เขาทำแอสซิสต์สูงสุดของลีก พร้อมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รวมทั้งมีชื่ออยู่ทีมยอดเยี่ยม ยูฟ่า และรับรางวัลจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
ฤดูกาล 2014-15
     ดิ มาเรีย ถูกจับเป็นสำรองในเกม ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ นัดเจอเซบีย่า วันที่ 12 สิงหาคม 
 
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
     วันที่ 26 สิงหาคม 2014 ดิ มาเรีย เซ็นสัญญา 5 ปี กับ แมน ยูไนเต็ด ด้วยราคาค่าตัว 59.7 ล้านปอนด์ เปนสถิติผู้เล่นแพงที่สุดของพรีเมียร์ ลีก
 
 
ทีมชาติ
ฟุตบอลโลก 2010
      วันที่ 19 พฤษภาคม 2010 เขาถูกเลือกจากดีเอโก้ มาราโดน่า ผู้จัดการทีมชาติอาร์เจนตินา ให้ติด 23 ผู้เล่นชุดลุยบอลโลกที่แอฟริกาใต้ 
โดยในทัวร์นาเม้นท์นี้ เขาทำประตูได้ในเกมกระชับมิตรกับ ไอร์แลนด์ พาทีมชนะ 1-0 
 
ฟุตบอลโลก 2014
     ดิมาเรีย ได้ลงเล่นใรฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 2014 ไป 12 นัด และติด 23 คนสุดท้ายชุดลุยบอลโลก ที่บราซิล เขาทำประตูได้ในเกมพบ สวิตเซอร์แลนด์  ในนาที 118 จากนั้นเกมพบ เบลเยี่ยม เขามาบาดเจ็บต้นขา จนต้องถอนตัวจากรายการนี้ 
     วันที่ 11 กรกฎาคม ดิ มาเรีย มีชื่อติดใน 10 คนสุดท้ายรางวัล บอลทองคำ ในรายการนี้ด้วย
 

ADS