ประวัติ ชนาธิป สรงกระสินธ์
จอมทัพช้างศึกโพสต์ข้อความให้กำลังใจแนวรับเพื่อนร่วมทีมหลังถูกวิจารณ์จากการซัดจุดโทษพลาดในเกมอุ่นเครื่องพ่ายเกาหลีเหนือ
ชนาธิป สรงกระสินธิ์ จอมทัพของทีมชาติไทยปกป้อง ประวีณวัช บุญยงค์ กองหลังเพื่อนร่วมทีมหลังถูกวิจารณผลงานในเกมอุ่นเครื่องที่เปิดบ้านปราชัย เกาหลีเหนือ 0-1 เมื่อวานที่ผ่านมา โดยชี้ว่าเราคือทีมเดียวกันหากแพ้ก็ต้องแพ้ร่วมกัน
ดาวซัลโวซีเกมส์เมื่อสองปีก่อนตกเป็นเป้าโจมตีจากการมีส่วนทำให้ทีมเสียประตูให้ทัพโสมแดงรวมถึงยิงจุดโทษพลาดในช่วงท้ายครึ่งแรก ก่อนที่ล่าสุด "เมสซี่เจ" จะออกมาปกป้องพร้อมให้กำลังใจผ่านทางโซเชียลมีเดีย
"ชนะก็ชนะด้วยกันแพ้ก็แพ้ด้วยกัน คำว่าทีมไม่ต้องเติมไอ #ไม่มีใครไม่เคยผิดพลาดต่อให้เก่งแค่ไหนก็ตาม"
สำหรับ ทีมชาติไทย จะประเดิมสนามคัดเลือกฟุตบอลโลก รอบสอง พบกับ เวียดนาม วันที่ 24 พฤษภาคมนี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน
ชื่อเต็ม : ชนาธิป สรงกระสินธ์
วันเกิด: 5 ตุลาคม ค.ศ. 1993
เกิดที่ : นครปฐม, ประเทศไทย
สัญชาติ : ไทย
ส่วนสูง : 158 เซนติเมตร
ตำแหน่ง : กองกลางตัวรุก / ปีกประวัติส่วนตัว
ชนาธิป สรงกระสินธ์ เกิดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2536 เป็นชาวจังหวัดนครปฐม เล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุได้ 4 ขวบ และเล่นฟุตบอลอย่างจริงจังในขณะอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร และย้ายมาศึกษาต่อที่โรงเรียนเพ็ญสมิทธิ์ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังจบชั้นประถม ชนาธิป กลับจังหวัดนครปฐมเพื่อเข้ารับการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนสามพรานวิทยา ในช่วงนี้เขาได้เล่นฟุตบอลเดินสายกับทีม ซีแอล ไฮสปีด ทีมฟุตบอลเดินสายชื่อดังในจังหวัดนครปฐม ร่วมกับ รัชพล นาวันโน ที่ภายหลังกลายเป็นนักเตะทีมชาติไทยอีกคนหนึ่ง
หลังจบชั้น ม.ต้น ชนาธิป จึงย้ายมาศึกษาต่อที่วิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชยการราชดำเนิน และเล่นฟุตบอลให้สถาบันไปด้วย โดยช่วยให้สถาบันของเขาครองถ้วยพระราชทาน โดยได้แชมป์ฟุตบอลนักเรียนกรมพลศึกษา 18 ปี ประเภท ก. ในเดือน มกราคม ปี 2554
ปัจจุบัน ชนาธิป สรงกระสินธ์ ศึกษาที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เส้นทางในอาชีพการค้าแข้ง
บีอีซี เทโรศาสน
ฤดูกาล 2011
ในสมัยที่ ชนาธิป ยังเล่นฟุตบอลระดับนักเรียน เขาเคยถูกสโมสร ทีโอที เอฟซี ปฏิเสธที่จะเซ็นสัญญาด้วยเพราะรูปร่างเล็กเกินไป ไม่เหมาะจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ก่อนที่จะเป็นสโมสร บีอีซี เทโรศาสน ที่นำตัวเขามาร่วมทีมชุดเยาวชนของสโมสร โดยให้ค่าแรงเดือนละ 10,000 บาท
ชนาธิป อยู่ในทีมชุดเยาวชน U-19 ของสโมสรภายใต้การคุมทีมของ แอนดรูว์ ออร์ด โค้ชทีมเยาวชนชาวออสเตรเลีย และสามารถพาทีมเยาวชนของสโมสรคว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ 2011 ได้สำเร็จ โดยในนัดชิงชนะเลิศ วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ที่สนาม ศุภชลาศัย เขาสามารถพาสโมสรเอาชนะทีมเยาวชน U-19 ของสโมสร บุรีรัมย์-พีอีเอ ไปได้ 5-2 และได้รับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ หลังจบเกมส์
ด้วยผลงานที่ดีในทีมเยาวชนของบีอีซี เทโรศาสน ทำให้ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2554 เขาถูก สมชาย ชวยบุญชุม โค้ชทีมชาติชุดเยาวชนในขณะนั้น เรียกติดทีมชาติไทยชุดเยาวชน 19 ปี แข่งขันรายการชิงแชมป์แห่งชาติเอเซีย 2012 ในรอบคัดเลือก โดยทีมชาติไทยได้แชมป์กลุ่มได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในปีหน้า โดยในรอบคัดเลือกนี้ ชนาธิป ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงและยิงประตูให้ทีมชาติไทยชุดเยาวชนอายุ 19 ปีได้ 1 ลูก ในเกมส์ที่ถล่มเยาวชนทีมชาติเกาะกวมไปถึง 13-0 ที่สนามเทพหัสดิน
ฤดูกาล 2012
หลังจากแอนดรูว์ ออร์ด โค้ชทีมเยาวชนสามารถคว้าแชมป์เอฟเอ ยูธ คัพ 2011 ได้ สโมสรก็ได้แต่งตั้งให้เลื่อนขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่ และแอนดรูว์ ออร์ด ก็นำชนาธิป ที่เคยเล่นในทีมชุดเยาวชนภายใต้การคุมทีมของเขามาอยู่ในทีมชุดใหญ่ด้วย โดยได้รับเบอร์เสื้อหมายเลข 18
ชนาธิป ได้รับโอกาสลงเล่นให้กับต้นสังกัดเป็นครั้งแรก ในเกมส์นัดเปิดสนามไทยพรีเมียร์ลีก 2555 วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2555 ที่ทีมของเขาต้องออกไปเยือนสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ที่สนาม ยามาฮ่า สเตเดี้ยม โดย ชนาธิป ลงเล่นเป็นตัวจริงแต่ทีมของเขาแพ้ไป 2-1 และมายิงประตูแรกได้ในวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 ในนัดที่ บีอีซี เทโรศาสน ออกไปเยือนสโมสร การท่าเรือไทย เอฟซี ที่สนามแพทสเตเดี้ยม ซึ่งเขาถูกเปลี่ยนลงมาแทน จักรกริช บุญคำ ในครึ่งหลัง โดยในการแข่งขันนัดดังกล่าวเขาทำผลงานให้เป็นที่จดจำของแฟนบอล ด้วยการถูกส่งลงมาในฐานะตัวสำรองแล้วยิงคนเดียว 2 ประตู โดยลูกที่ 2 เป็นการกระชากด้วยความเร็วกว่าครึ่งสนามก่อนจะล็อกหลบ วัลลภ แซ่จิ๋ว นายประตูเจ้าบ้านแล้วค่อยๆ เลี้ยงบอลผ่านเส้นประตูเข้าไปอย่างเหนือชั้น ทำให้สโมสรบุกมาชนะการท่าเรือถึงถิ่น 2-0
ด้วยวัยเพียง 18 ปี แต่จากฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยม ทำให้ ชนาธิป ยึดตำแหน่งภายในทีมได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่ขึ้นมาจากทีมเยาวชน โดยในวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เขาได้ลงสนามในรายการ โตโยต้า ลีกคัพ 2555 ในรอบ 32 ทีมสุดท้ายซึ่งเป็นการลงเล่นรายการนี้เป็นนัดแรกของเขา ในเกมส์นัดดังกล่าวทีมของเขาต้องออกไปเยือนลำพูน วอร์ริเออร์ ที่สนาม แม่กวง สเตเดี้ยม และเขาก็ช่วยให้ทีมชนะ 2-1 ต่อมาในวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เขายิงได้อีก 1 ประตูในเกมส์ ไทย พรีเมียร์ ลีก ที่ บีอีซี เทโรศาสน ต้องออกไปเยือนสโมสรวัวชน ยูไนเต็ด ที่สนาม ติณสูลานนท์ จ.สงขลา โดยเขายิงประตูให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่ทีมของเขาจะชนะเจ้าบ้านไป 2-1
วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้ลงเล่นฟุตบอลชิงถ้วยไทยคม เอฟเอ คัพ เป็นครั้งแรก โดยเป็นเกมส์รอบ 32 ทีมสุดท้าย ที่สโมสรต้องออกไปเยือน พัทยา ยูไนเต็ด ที่สนามกีฬา เทศบาลหนองปรือ โดยเขาเป็นคนเปิดให้ กิลเบิร์ต คุมสัน ยิงประตูชัยให้บีอีซี บุกมาชนะ 1-0 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย และต่อมาในเกมส์ ไทย พรีเมียร์ ลีก วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ระหว่างสโมสร บีบีซียู เอฟซี พบ บีอีซี เทโรศาสน ที่สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน ชนาธิป ยิงให้ทีมขึ้นนำ 2-1 ก่อนจะจบลงด้วยผลเสมอ 2-2
ชนาธิปได้ลงสนามในฤดูกาลนี้รวม 33 นัด (ไทย พรีเมียร์ ลีก 28 นัด,โตโยต้า ลีก คัพ 3 นัด,เอฟเอ คัพ 2 นัด) ยิงในไทยพรีเมียร์ลีกได้ 4 ประตู แล ะบีอีซี เทโรศาสน จบฤดูกาลด้วยอันดับ 3 จากผลงาน และลีลาการเล่นในฤดูกาลนี้ทำให้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้เล่นให้ทีมชาติไทยชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี ไปแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติเอเซียรอบสุดท้าย ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หลังจากเคยเล่นในรอบคัดเลือกเมื่อปีที่แล้ว และติดทีมชาติชุดใหญ่ไปแข่งขัน ซูซูกิ คัพ 2012
ฤดูกาล 2013
ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2556 ชนาธิป ถูกเรียกตัวติดทีมชาติชุดใหญ่ในการแข่งขันฟุตบอล คิงส์ คัพ ครั้งที่ 42 และได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแต่ทำได้เพียงแค่คว้าอันดับ 3 ร่วมกับเกาหลีเหนือ
ในฤดูกาลนี้สโมสรเปลี่ยนแปลงโค้ชเป็น สเตฟาเน่ เด โมล และ ชนาธิป เริ่มต้นฤดูกาล 2556 ในเกมส์ที่ บีอีซี เทโรศาสน บุกไปชนะ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 1-0 ที่สนามกีฬาจังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 10 มีนาคม โดยเป็นตัวสำรองและถูกส่งลงมาแทน คลีตัน ซิลวา ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกมส์
การยิงประตูแรกในฤดูกาลนี้ของเขาเกิดขึ้นในเกมส์ ไทย พรีเมียร์ ลีก ที่เสมอกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-1 ที่สนาม เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม โดยถูกเปลี่ยนตัวลงมายิงตีเสมอให้กับทีม ซึ่งประตูที่เขายิงได้ในนัดนี้ถือเป็นประตูแรกที่เขายิงได้ต่อหน้าแฟนบอลที่สนามเหย้าของสโมสร
ต่อมาวันที่ 18 สิงหาคม เขายิงใน ไทย พรีเมียร์ ลีก ได้อีก 1 ประตู โดยยิงให้ บีอีซี เทโรศาสน ตีเสมอ บางกอกกล๊าส 1-1 ก่อนจะจบลงด้วยการบุกมาชนะ 3-2 ที่สนาม ลีโอ สเตเดี้ยม แต่ในช่วงท้ายเกมส์เขากลับถูกใบแดงไล่ออกจากสนามเพราะไปมีปัญหากับ ฟลาเวียง มิเชลินี่ และ ธีรเทพ วิโนทัยนักเตะของ บางกอกกล๊าส โดยถือเป็นการได้ใบแดงครั้งแรกของเขาในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ
วันที่ 27 ตุลาคม เขายิงได้ 1 ประตูในเกมส์เปิดบ้านเสมอ เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-2 ที่สนาม เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา
จบฤดูกาลชนาธิปลงสนาม 28 นัด (ไทย พรีเมียร์ ลีก 26 นัด ,เอฟเอ คัพ 1 นัด ,ลีก คัพ 1 นัด) ยิงในไทยพรีเมียร์ลีกได้ 3 ประตู พา บีอีซี เทโรศาสน ต้นสังกัดคว้าอันดับ 6 ในลีก และถูก เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เรียกติดทีมชาติชุดอายุไม่เกิน 23 ปี แข่งขันในกีฬา ซีเกมส์ ที่ประเทศพม่าในเดือนธันวาคม
ฤดูกาล 2014
ในช่วงต้นฤดูกาล ชนาธิป ต้องพลาดโอกาสในการลงสนาม เนื่องจากได้รับบาดเจ็บกระดูกหน้าแข้งหักจากการลงเล่นให้ทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ในกีฬา ซีเกมส์ เมื่อปลายปีก่อน และมาได้ลงสนามนัดแรกในฤดูกาลนี้ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ในเกมส์ที่เปิดบ้านเสมอกับสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด 1-1 โดยเป็นตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลงมาเล่นในช่วง 20 นาทีสุดท้าย
วันที่ 22 มิถุนายน ชนาธิป ยิงประตูแรกในฤดูกาลนี้ และช่วยให้ บีอีซี เทโรศาสนเปิดบ้านเสมอกับ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-1 ในเกมส์ ไทย พรีเมียร์ ลีก และนัดต่อมา วันที่ 25 มิถุนายน เขายิงให้ทีมขึ้นนำ 1-0 และจ่ายบอลให้เพื่อนทำประตูได้อีก 1 ลูก ในเกมส์ที่เอาชนะสมุทรสงคราม 2-0 ที่สนามกีฬา เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา
ชนาธิป สรงกระสินธ์ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ บีอีซี เทโรศาสน และในเกมส์ระหว่าง บีอีซี เทโรศาสน เปิดบ้านพบ อาร์มี่ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม เขายิงไกลเป็นประตูชัยให้ บีอีซี ชนะ อาร์มี่ ยูไนเต็ด 2-0 โดยประตูดังกล่าวเป็นประตูที่ 10 ที่ ชนาธิป ยิงให้ บีอีซี เทโรศาสน ใน ไทย พรีเมียร์ ลีก นับตั้งแต่ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของสโมสร
เดือนกันยายน ชนาธิป ถูกเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เรียกตัวติดทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ในการแข่งขันกีฬา เอเชียนเกมส์ ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ และพาทีมชาติคว้าอันดับสี่มาครอง
หลังจากกลับมาจากเอเชียนเกมส์ ชนาธิป ลงสนามให้ บีอีซี เทโรศาสน ในเกมส์ โตโยต้า ลีก คัพ รอบชิงชนะเลิศกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดแชมป์เก่า ที่สนาม ศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2557 และช่วยให้ทีมชนะ บุรีรัมย์ ไปได้ 2-0 และได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ โดยเป็นแชมป์รายการแรกของเขากับ บีอีซี เทโรศาสน
ในเกมส์ ไทย พรีเมียร์ ลีก นัดสุดท้ายของฤดูกาล วันที่ 2 พฤศจิกายน ที่พบกับ เชียงราย ยูไนเต็ด ชนาธิป ยิงได้อีก 1 ประตู แต่จบเกมส์ บีอีซี แพ้ไป 2-1 และจบฤดูกาลด้วยอันดับ 3
ทีมชาติไทยชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี
ชนาธิป ลงเล่นในระดับชาติให้ทีมชาติไทยเป็นครั้งแรก ในรายการฟุตบอลเยาวชนอายุ 19 ปีชิงแชมป์เอเชีย 2012 ในรอบคัดเลือกที่ไทยเป็นเจ้าภาพภายใต้การคุมทีมของ สมชาย ชวยบุญชุม โดยรอบคัดเลือกไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มอี ร่วมกับทีมเยาวชนอายุ 19 ปีของ เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน และ กวม
ชนาธิป ลงสนามในนัดแรกของการแข่งขันรอบคัดเลือก วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ในเกมส์ที่ทีมชาติไทยชนะเกาหลีใต้ 1-0 ที่สนาม เทพหัสดิน โดยถือเป็นการลงเล่นให้ทีมชาติไทยในระดับเยาวชนเป็นครั้งแรกของเจ้าตัวด้วย และมายิงได้ 1 ประตู ในเกมส์ถล่มทีมชาติกวม 13-0 เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 โดยการแข่งขันในรอบคัดเลือก ชนาธิป สรงกระสินธ์ ทำผลงานกับทีมชาติไทยชุดอายุ 19 ปี ได้อย่างยอดเยี่ยมสามารถคว้าแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ ด้วยการชนะทีมชาติเกาหลีใต้ 1-0 , ชนะไต้หวัน 1-0, ชนะกวม 13-0 และ เสมอญี่ปุ่น 0-0 ได้เข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม
โดยในการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนอายุ 19 ปีชิงแชมป์เอเชียรอบสุดท้ายที่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไทยอยู่ในกลุ่ม บี ร่วมกับเกาหลีใต้, จีน และอิรัก ซึ่งการแข่งขันทั้ง 3 นัด จะแข่งที่สนามกีฬา ฟูไจราห์ คลับ เมืองฟูไจราห์ โดยไทยลงแข่งขันนัดแรกกับทีมชาติจีน ในวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ชนาธิป สามารถผ่านบอลให้ วรนาถ ทองเครือ เข้าไปยิงประตูได้ และช่วยให้ทีมชาติไทยเอาชนะจีนไปได้ 2-1 ต่อมาในการแข่งขันกับเยาวชนทีมชาติเกาหลีใต้ วันที่ 5 พฤศจิกายน ไทยกลับแพ้ไป 1-2 และการแข่งขันนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม วันที่ 7 พฤศจิกายน ไทย แพ้ อิรักไป 0-3 ตกรอบในที่สุด
ชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี
เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2556 เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้เรียกชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ขณะนั้นเคยเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่มาแล้วในยุคของวินฟรีด เชเฟอร์ มาเป็นหนึ่งในผู้เล่นทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ในแข่งขันซีเกมส์ 2013 ที่กรุงเนปิดอ ประเทศพม่า
โดยชนาธิป ลงเล่นในซีเกมส์เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2556 ในการแข่งขันนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มที่ทีมชาติไทย เอาชนะ ทีมชาติติมอร์-เลสเต ไป 3-1 โดยถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ในช่วง 25 นาทีสุดท้าย ซึ่งในการแข่งขัน ซีเกมส์ 2013 นี้ ชนาธิป รับบทบาทเป็นผู้เล่นตัวสำรองที่มักจะถูกส่งลงสนามเพื่อสร้างสรรค์เกมส์รุกในช่วงครึ่งหลังอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสามารถทำผลงานได้อย่างดี โดยได้เล่นเป็นตัวจริง 1 นัด ในเกมส์ที่เสมอกับทีมชาติกัมพูชา 0-0 และสามารถช่วยให้ทีมชาติไทยผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
ในนัดชิงชนะเลิศกับทีมชาติอินโดนีเซีย ชนาธิป สรงกระสินธ์ ต้องพลาดโอกาสลงเล่นเนื่องจากได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าแข้ง แต่ทีมชาติไทยก็เอาชนะไปได้ 1-0 คว้าเหรียญทองไปครองได้สำเร็จ
ทีมชาติชุดใหญ่
ชนาธิป ได้ลงสนามให้ทีมชาติไทยชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในการแข่งขันนัดอุ่นเครื่องกับทีมชาติภูฏาน เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ที่สนาม ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง โดยถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลังและทีมชาติไทยชนะไป 5-0
จากนั้น วินฟรีด เชเฟอร์ ได้คัดเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นชุด เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 โดยชนาธิป เป็นผู้เล่นที่มีอายุน้อยที่สุดภายในทีม และได้ลงสนามในรายการนี้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ที่ทีมชาติไทย พบกับทีมชาติเวียดนาม ในรอบแบ่งกลุ่ม โดยถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นแทน ปิยพล บรรเทา ที่มีอาการบาดเจ็บ (จบเกมส์ไทยชนะ 3-1) จากนั้นเขามีโอกาสลงสนามอีกครั้งหนึ่งในนัดชิงชนะเลิศนัดที่ 2 พบกับทีมชาติสิงคโปร์ ชนาธิปมีโอกาสเลี้ยงกระชากหนีนักเตะสิงคโปร์และยิงประตูหนึ่งครั้ง แต่ไม่สำเร็จ และได้รองแชมป์ในที่สุด
ปี พ.ศ. 2556 ได้เล่นในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 42 ปี พ.ศ. 2556 ที่จัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีทีมที่เข้าร่วมแข่งขันคือเกาหลีเหนือ, สวีเดน และฟินแลนด์
ในการแข่งขันนัดแรกที่ทีมชาติไทยพบทีมชาติฟินแลนด์ เมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556 ที่สนาม สมโภช 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่ ชนาธิป ลงเล่นเป็นตัวจริง แต่จบด้วยการแพ้ฟินแลนด์ 1-3 ทำให้ต้องชิงที่ 3 กับเกาหลีเหนือ โดยการแข่งขันนัดชิงที่ 3 วันที่ 26 มกราคม ชนาธิป ลงเล่นเป็นตัวจริงอีกครั้ง ก่อนจะเสมอกันไป 2-2 คว้าอันดับ 3 ร่วมไปครอง
ในการแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2015 รอบคัดเลือก ไทยอยู่ร่วมสายกับ อิหร่าน คูเวต และเลบานอน นัดแรก 6 กุมภาพันธ์ 2556 ไทยเปิดสนาม ราชมังคลากีฬาสถาน พบกับ ทีมชาติคูเวต ชนาธิป มีชื่อเป็นตัวสำรองและได้ลงสนามแทน จักรพันธ์ พรใสในนาทีที่ 72 ถัดจากนั้น 3 นาที ชนาธิป สามารถทำประตูตีไข่แตกได้ และจบเกมส์ไทยเปิดบ้านแพ้คูเวตไป 1-3 โดยประตูดังกล่าวถือว่าประตูแรกของ ชนาธิป ในการเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่
ชนาธิป เป็นตัวหลักในยุคของ ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือที่รับหน้าที่กุนซือขัดตาทัพสำหรับทีมชาติชุดใหญ่แทน วินฟรีด เชเฟอร์ โดย ซิโก้ ประเดิมคุมทีมชาติชุดใหญ่เมื่อ 15 มิถุนายน 2556 โดยได้นำนักเตะชุดซีเกมส์ 2013 ไปอุ่นเครื่องกับทีมชาติจีน และชนะทีมชาติจีนคาบ้านถึง 1-5 โดย ชนาธิป เป็นหนึ่งในผู้ทำประตูด้วย
ในการแข่งขัน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 ชนาธิป เล่นได้อย่างโดดเด่น และเป็นผู้เล่นที่ถูกจับตามองในการแข่งขันครั้งนี้ ในนัดชิงชนะเลิศที่ ไทย พบกับ มาเลเซีย ทางมาเลเซียระบุว่า ชนาธิป เป็น 1 ใน 3 ผู้เล่นของไทยที่ต้องระวัง (อีก 2 คน คือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ และ ชาริล ชับปุยส์) ในการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศนัดที่ 2 ที่ไทยเป็นฝ่ายแพ้ไป 3-2 แต่โดยผลการแข่งขันรวมแล้ว ไทยชนะไป 4-3 ชนาธิป เป็นผู้ยิงประตูที่ 2 ให้กับไทยได้ในนาทีที่ 86 จากลูกยิงนอกเขตโทษ ทำให้ไทยได้แชมป์รายการนี้ไปเป็นสมัยที่ 4 และเป็นแชมป์ครั้งแรกในรอบ 12 ปี นอกจากแล้ว ชนาธิป ยังได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมในรายการนี้ไปอีกด้วย