ประวัติ แอชลี่ย์ ยัง
แอชลีย์ ยัง ปีกตัวเก่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมายกย่อง หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีมเจ้าปรัชญาว่าเป็นผู้มีส่วนสำคัญที่ทำให้เขากลับเล่นฟุตบอลได้สนุกและมีความสุขอีกครั้ง
มิดฟิลด์วัย 29 กะรัต ประสบปัญหาฟอร์มตกอย่างหนัก ในยุคที่ปีศาจแดงมี เดวิด มอยส์ เป็นนายใหญ่ของทีม ก่อนจะมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่เพิ่งจบไปนี้ ด้วยการยึดสัมปทานตำแหน่งปีกซ้ายแบบถาวร ถึงขนาดเบียดดาวเตะค่าตัวแพงอย่าง อังเคล ดิ มาเรีย นั่งสำรองยาวเลยทีเดียว
"การทำงานกับ ฟาน กัล เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก บอสเดินเข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับปรัชญาการทำทีมของเขาและสิ่งที่เขาต้องการได้รับจากมัน รวมถึงรายละเอียดเล็กน้อยในการฝึกซ้อม และสิ่งที่ผมเห็นก็คือ สโมสรกำลังเดินหน้าไปได้อย่างยอดเยี่ยม" อดีตแข้ง แอสตัน วิลลา กล่าว
"ผมได้เล่นในบทบาทที่แตกต่างออกไป ซึ่งทำให้ผมได้รับประสบการณ์ใหม่มากมาย ใครจะไปคิดว่าผมจะโดนจับไปเล่นแบ็คซ้าย และสามารถเล่นได้ดีด้วย และผมก็พบว่าระหว่างที่อยู่ในสนามนั้น ผมรู้สึกสนุกมากๆ ผมกลับมามีความสุขกับการเล่นฟุตบอลอีกครั้ง ในฐานะนักฟุตบอลคุณย่อมต้องการลงเล่นทุกเกมอยู่แล้ว โชคดีที่ผมกลับมาได้รับโอกาสนั้นอีกครั้ง"
- ชื่อ : แอชลี่ย์ ยัง
- สัญชาติ : อังกฤษ
- วันเกิด : 9 กรกฎาคม 1985
- สถานที่เกิด : สตีฟเนจ, ฮาร์ท
- ส่วนสูง : 175
- น้ำหนัก : 65
- ตำแหน่ง : กองกลาง
- ลงเล่น : 100 นัด
- ยิงประตู : 11 ประตู
- เท้าที่ถนัด : เท้าขวา
- ย้ายร่วมทีม : 1 กรกฎาคม 2011 จาก แอสตัน วิลล่า
- นัดแรก : 7 สิงหาคม 2011 (พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
18. แอชลี่ย์ ยัง
ประวัติส่วนตัว แอชลี่ย์ ยังแอชลี่ย์ ยัง เริ่มต้นค้าแข้งกับ "แตนอาละวาด" วัตฟอร์ด ในอคาเดมี่ของสโมสร รวมถึงการถูกปล่อยตัวให้ทีมอื่น ยืมไปใช้งาน ซึ่งหลังจากบ่มเพาะจนฝีเท้าแข็งแกร่งแล้ว เขาได้เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้ โดยสามารถยึดตำแหน่งตัวหลักของทีมเลยทีเดียว และมีครั้งหนึ่งเคยส่วนร่วมในการเอาชนะลีดส์ ยูไนเต็ด ในเกมเพลย์ออฟ 3-0 ส่งผลให้วัตฟอร์ดได้ขึ้นไปเล่นในพรีเมียร์ลีกหลังจากทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เจ้าตัวอยู่ในช่วง "เนื้อหอม" มีหลายทีมยื่นข้อเสนอมา แต่เขาตัวสิ้นใจย้ายไปลงสนามให้ "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลล่า ในเดือนมกราคม ปี 2007 ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์(400 ล้านบาท) และเขาก็พิสูจน์ด้วยผลงานว่า คู่ควรกับรับรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ในปี 2009 และ มาร์ติน โอนีล ผู้จัดการแอสตัน วิลล่าในเวลานั้นยกให้เขาเป็นนักเตะระดับ "เวิลด์คลาส"ปีกตัวจี๊ดรายนี้ ย้ายมาร่วมทัพ "ปีศาจแดง" ในปี 2011 และช่วยให้เกมริมเส้นของยูไนเต็ดมีความเร็ว และน่ากลัวยิ่งขึ้น แต่ในฤดูกาลแรกเขาต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อถูกแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมคู่แข่งร่วมเมืองแย่งแชมป์ไป ในแมตช์สุดท้ายของฤดูกาล ด้วยผลงานส่วนตัวของเขาทำให้ทีมชาติอังกฤษเรียกตัวไปรับใช้ชาติ ในช่วงซัมเมอร์ของปีเดียวกันสำหรับเกมกับทีมชาติ แอชลี่ย์ ยัง มีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่ในยุคของ สตีฟ แม็คคลาเรน ไปลุยศึกยูโร 2008 ที่ประเทศออสเตรียและสวิตเซอร์แลนด์ แต่ก็ไม่มีชื่อติดทีมชาติเพื่อไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ที่ประเทศแอฟริกา จากนั้นได้ลงเล่นในฟุตบอลยูโร 2012 รอบคัดเลือกที่พบกับมอนเตเนโกร จากนั้นก็ทำประตูแรกในทีมชาติได้ ในเกมที่พบกับสวิสเซอร์แลนด์ปัญหาเดียวของเขาที่ทำให้ไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้อย่างสม่ำเสมอคือ การต้องพบกับอาการบาดเจ็บบ่อยครั้ง ซึ่งฤดูกาลนี้แฟนๆคงต้องหวังว่าโรคเดี้ยงคงไม่มารบกวนเขาเยอะเหมือนปีที่ผ่านๆมา เนื่องจากความสามารถในตำแหน่งริมเส้นฝั่งซ้ายของเขาจะสามารถช่วยทีมในยามคับขันได้อย่างแน่นอน