ประวัติ เมมฟิส เดอปาย

| 01/01/1970 07:00 น. | 994 Views

     ดาลี่ย์ บลินด์ เชื่อว่าความมุ่งมั่นและบุคลิกของ เมมฟิส เดอปาย ที่แสดงออกมาในสนามแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นนักเตะที่เหมาะสมสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

     บลินด์ ได้เจอ เดอปาย ตอนที่มิดฟิลด์ร่างตันติดทีมชาติฮอลแลนด์ครั้งแรกที่ต้องย้อนไปถึงปี 2013 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟจำเป็นที่กำลังท็อปฟอร์มให้สัมภาษณ์พิเศษพูดถึงบุคลิกและความสามารถของนักเตะใหม่รายนี้ในมุมที่ไม่เหมือนใคร

     "เขาปรับตัวได้ดีมากๆ คุณสามารถเห็นได้ว่าเขามีพรสวรรค์สูง เขาแข็งแรงและไวและมีบุคลิกที่มุ่งมั่น เขากล้าที่จะแสดงให้เห็นในสนามซึ่งผลก็ออกมาดี แถมนิสัยยังดีอีกต่างหากเข้ากับทุกคนได้เป็นอย่างดี"

     "เขาแค่ต้องการสนุกในสนามให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แน่นอนคุณต้องมุ่งสมาธิไปที่การโชว์ผลงานให้ดีที่สุดในสนาม ที่คุณสามารถทำได้ทุกๆวันในการซ้อมและเกมการแข่งขัน แต่สิ่งที่สำคัญคือคุณต้องไม่กดดันตัวเองมากเกินไปและทำให้แน่ใจว่าคุณจะสนุกกับช่วงเวลานั้น เหมือนตอนที่คุณเล่นใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด"

     "ผมไม่แน่ใจว่าเขาต้องการคำแนะนำอะไรหรือเปล่าเพราะว่าเขาเป็นคนที่มีบุคลิกที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว เดอปายรู้ว่าเขาทำอะไรได้บ้างและมีศรัทธามากมายในตัวเอง นั่นเป็นวิถีทางการใช้ชีวิตที่ดีที่จะอยู่กับสโมสรอย่างแมนฯยูฯ"

ชื่อ : เมมฟิส เดอปาย

เชื้อชาติ : เนเธอร์แลนด์

วันเกิด : 13 กุมภาพันธ์ 1994

อายุ : 21 ปี

ส่วนสูง : 176 ซม.

น้ำหนัก : 78 กก.

สถานที่เกิด : มอร์เดรช , เนเธอร์แลนด์

ตำแหน่ง : ปีก

สโมสร : พีเอสวี ไอด์โฮเฟ่น

     นักเตะที่กำลังสร้างความฮือฮาในตลาดซื้อขายได้มากที่สุดในขณะนี้ คงต้องบอกเลยว่าหนีไม่พ้นปีกตัวเก่งว่าที่นักเตะใหม่ของทัพ ''ปีศาจแดง'' แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าง เมมฟิส เดอปาย หลังมีข่าวออกมาแล้วว่าทางสโมสร พีเอสวี ไอด์โฮเฟ่น ได้ตกลงปลงใจปล่อย เดอปาย ให้ย้ายไปร่วมถิ่น โอลด์แทรฟฟอร์ด เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือว่าปาดหน้ายักษ์ใหญ่หลายต่อหลายทีมอยู่เหมือนกันไม่ว่าจะเป็น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยอดทีมแดน ''น้ำหอม'' หรือแม้กระทั่งคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ''หงส์แดง'' ลิเวอร์พูล โดยตอนนี้เหลือแค่รอการตรวจร่างกายและเซ็นสัญญากันอย่างเป็นทางการเท่านั้น

ประวัติ


     เมมฟิส เดอปาย ถือเป็นลูกครึ่ง กาน่า โดยพ่อของเขาเป็นคน กาน่า ส่วนแม่นั้นเป็นชาว ดัตช์ ซึ่ง เดอปาย เกิดที่เมือง มอร์เดรช ประเทศ เนเธอร์แลนด์ เริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมเยาวชนของ มอร์เดรช ในปี 2000-2003 ก่อนที่เขาจะได้ไปเข้าอคาเดมี่ของ สปาร์ต้า ร็อตเตอร์ดัม เมื่อปี 2003 ด้วยวัย 9 ขวบ ซึ่งเขาใช้เวลาประมาณ 3 ฤดูกาลกับทีมเยาวชน สปาร์ต้า ร็อตเตอร์ดัม ก่อนที่จะถูกยักษ์ใหญ่ในลีก ฮอล์แลนด์ อย่าง พีเอสวี ไอด์โฮเฟ่น นำหนูน้อยอนาคตไกลรายนี้ไปสานต่อในชุดเยาวชนเมื่อปี 2006

 

สโมสร พีเอสวี ไอด์โฮเฟ่น (2011-ปัจจุบัน)


     ในปี 2011 เดอปาย ได้เข้าทดสอบฝีเท้ากับทีมชุดใหญ่ของ พีเอสวี ขณะที่เขาลงเล่นให้กับ ยอง พีเอสวี อยู่ในตอนนั้น ซึ่งเขาก็โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจและถูกดันขึ้นมาสู่ชุดใหญ่ของถิ่น ฟิลิปส์ สตาดิโอน ในที่สุด
     เกมแรกอย่างเป็นทางการของ เมมฟิส เดอปาย กับ พีเอสวี ไอด์โฮเฟ่น เกิดขึ้นเมื่อ 21 กันยายน 2011 โดยลงเล่นในศึก KNVB CUP ซึ่งนัดนั้น เดอปาย โชว์เหมาคนเดียว 2 ประตูให้ทีมเอาชนะมาได้ จนกระทั่ง 26 กุมภาพันธ์ 2012 เกมในลีกสูงสุดเกมแรกของ เดอปาย ก็เกิดขึ้น แถมเป็นการพบกับทีมใหญ่อย่าง เฟเยนูร์ด เสียด้วย และเกมนั้นก็เป็น พีเอสวี ที่เอาชนะมาได้ 3-2 โดยกุนซือคนสำคัญในตอนนั้นที่ถือว่าเป็นคนปั้น เมมฟิส เดอปาย ขึ้นมาก็คือ ฟิล์ลิป โคคู แล้วด้วยผลงานที่ดูดีมีอนาคตทำให้ทางสโมสร พีเอสวี ไอด์โฮเฟ่น ตัดสินใจมอบสัญญาเป็นนักเตะอาชีพให้กับ เดอปาย จนได้เมื่อ 29 มิถุนายน 2012 โดยตกลงเซ็นกันด้วยสัญญายาว 5 ปี


     เมมฟิส เดอปาย ใช้เวลาเพียงแค่ฤดูกาลเดียวเท่านั้นในการปรับตัวเล่นในลีกสูงสุดของ ฮอล์แลนด์ เพราะในฤดูกาล 2013-2014 ถือว่าเป็นฤดูกาลที่แจ้งเกิดของเด็กหนุ่มที่ชื่อ เมมฟิส เดอปาย อย่างแท้จริง โดยเขาสามารถทำประตูแรกในศึก ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก ได้เมื่อ 30 กรกฎาคม 2013 ในเกมที่ พีเอสวี ไอด์โฮเฟ่น สามารถเอาชนะ ซูลเต้ วาเรเกม ไปได้ 2-0 แต่ทว่า เดอปาย ก็ไม่สามารถช่วยให้ พีเอสวี ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้หลังทำได้เพียงคว้าอันดับ 3 ของกลุ่มตกลงไปเล่นในศึก ยูโร ป้า ลีก แทน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความร้อนแรงของ เดอปาย หมดไป โดยเขาก็สามารถทำประตูในเวทียุโรปได้อีกในนัดที่ชนะ โอเดซ่า ไปได้ 2-0 เมื่อ 3 ตุลาคม 2013


     ใบแดงครั้งแรกในอาชีพค้าแข้งของ เดอปาย เกิดขึ้นเมื่อ 27 ตุลาคม 2013 ในเกมที่พบกับ โรด้า เจซี โดยเขาได้รับใบเหลือง 2 ใบจนเป็นใบแดง และทำให้ทีมแพ้ไป 1-2 แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาขวัญเสียหรือทำให้ผลงานดรอปลงไปแต่อย่างไร เมื่อ 15 ธันวาคม 2013 เดอปาย กลายเป็นตัวช่วยสำคัญที่พา พีเอสวี ไอด์โฮเฟ่น เก็บชัยชนะ 13 เกมติดได้สำเร็จ โดยเขาเหมาคนเดียว 2 ประตูในเกมที่ถล่ม อูเทรช ไปแบบขาดลอยถึง 5-1 หลังจากนั้น 23 มีนาคม 2014 เมมฟิส เดอปาย ก็ยังช่วยให้ พีเอสวี เก็บชัยชนะได้ติดต่อกันอีกครั้งถึง 8 เกม


     แถมในฤดูกาล 2013-2014 นี้ เดอปาย ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ พีเอสวี ไอด์โฮเฟ่น รักษาอันดับไปเล่นฟุตบอลยุโรปได้อีกครั้งเป็นปีที่ 41 ติดต่อกัน หลังเจ้าตัวเป็นคนยิงประตูแรกให้ พีเอสวี เอาชนะ เอ็นเอซี เบรด้า ไปได้ 2-0 ในเกมสุดท้ายของฤดูกาล ซึ่งทำให้ พีเอสวี จบอันดับ 4 ของตารางได้สำเร็จ
     ฤดูกาล 2014-2015 หลังจากโชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างดีในศึก เวิลด์คัพ 2014 ที่ประเทศบราซิล เมมฟิส เดอปาย ก็ตกเป็นข่าวกับสโมสรยักษ์ใหญ่ในศึก พรีเมียร์ลีก ของอังกฤษในทันที ไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ต่างก็สนใจที่ดึงตัวเขาไปร่วมทีม แต่ทว่า เดอปาย ก็ยังไม่ตัดสินใจอนาคตในตอนนั้นและก้มหน้าลงเล่นให้กับ พีเอสวี ไอด์โฮเฟ่น ต่อไปก่อน เกมนัดแรกในฤดูกาลนี้เป็นการลงเล่นในศึก เพลย์ออฟ ยูโรป้า ลีก รอบที่ 3 โดย เดอปาย ก็โชว์ยิง 1 และจ่าย 1 ช่วยให้ทีมเอาชนะ เซนต์ โพลเท่น ไปได้ 3-2


     เกมนัดเปิดฤดูกาลของลีก ฮอล์แลนด์ เดอปาย ก็สามารถทำประตูได้เลยด้วยการเหมาคนเดียว 2 ประตู ให้ทีมเอาชนะ วิลเลี่ยม ทเวล ไปได้ ก่อนที่เกมต่อมา เมมฟิส เดอปาย จะเหมาคนเดียว 2 ประตูอีกครั้งแถมยังมีลูกยิงฟรีคิกสวยๆให้ได้ชมกันอีกด้วยในเกมที่ไล่ถล่ม เอ็นเอซี เบรด้า ไป 6-1 แต่ทว่าเหมือนฝันร้ายของตัวเเขาก็มาถึงในเกมที่ 3 ของฤดูกาลเมื่อ เดอปาย ลงเล่นไปเพียง 18 นาที เท่านั้น ก็ได้รับอาการบาดเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไปทำให้ พีเอสวี แพ้ ซโวลล์ ไป 1-3
     18 เมษายน 2015 เมมฟิส เดอปาย กลับมาด้วยการทำประตูให้แฟนๆได้หายคิดถึงกันจนได้ด้วยการเหมาคนเดียว 2 ประตู ในนัดที่พบกับ ฮีเรนวีน โดยเป็นประตูจากฟรีคิก 1 ลูกและโอเพ่นเพลย์ 1 ลูก และเดือนต่อมาทางสโมสร พีเอสวี ไอด์โฮเฟ่น ก็ได้ออกมายอมรับว่าทางสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ติดต่อยื่นข้อเสนอในการดึงตัว เมมฟิส เดอปาย เข้ามาจริงๆ


     7 พฤษภาคม 2015 สโมสร พีเอสวี ไอด์โฮเฟ่น ได้ออกมาประกาศอีกครั้งว่าทางสโมสรได้ตอบรับข้อตกลงในการยื่นซื้อตัวเข้ามาของทาง ''ปีศาจแดง'' แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เรียบร้อยแล้ว โดยเหลือแค่การตรวจร่างกายและเซ็นสัญญากันอย่างเป็นทางการเท่านั้น ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่า เมมฟิส เดอปาย เริ่มนับวันและเวลารอลงเล่นในถิ่น โอลด์แทรฟฟอร์ด ได้เลย โดยตลอดอาชีพค้าแข้งของเขาลงเล่นให้กับ พีเอสวี ไอด์โฮเฟ่น ไปเพียงทีมเดียวเท่านั้น ซึ่งลงสนามไปทั้งหมด 89 นัด ยิงได้ 39 ประตู


การติดทีมชาติ
     เมมฟิส เดอปาย ลงเล่นในนามทีมชาติครั้งแรกเมื่อ 15 ตุลาคม 2013 โดยเขาถูกส่งลงสนามไปแทน เจเรเมน เลนส์ ในช่วงท้ายเกม ในนัดที่ เนเธอร์แลนด์ บุกไปเอาชนะ ตุรกี มาได้ 2-0 ในศึก รอบคัดเลือกฟุตบอลโลก


     และเมื่อเวิลด์คัพ 2014 ที่ประเทศบราซิลมาถึง หลุยส์ ฟาน กัล ประกาศรายชื่อ 23 ผู้เล่นทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ โดยมีชื่อของ เมมฟิส เดอปาย ติดอยู่ใน 23 คนนี้ด้วย เดอปาย ได้ลงสนามในนัดพบกับทีมชาติ ออสเตรเลีย หลังเจ้าตัวถูกส่งลงสนามมาแทน บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ เพราะขณะนั้น ฟาน กัล ต้องการที่จะเน้นเปิดเกมรุกมากขึ้น และ เดอปาย ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง หลังจากยิงประตูชัยได้ในนาทีที่ 68 ของเกม ทำให้ เดอปาย กลายเป็นนักเตะ เนเธอร์แลนด์ ที่อายุน้อยที่สุดด้วยวัย 20 ปี 4 เดือน ที่ทำประตูได้ในศึก เวิลด์คัพ และประตูที่ 2 ของ เดอปาย เกิดขึ้นในเกมที่พบกับทีมชาติ ชิลี โดยเขาเข้าชาตจากลูกเปิดของปีกรุ่นพี่อย่าง อาร์เยน ร็อบเบน ช่วยให้ เนเธอร์แลนด์ เอาชนะ ชิลี ไปได้ 2-0


     11 กรกฎาคม เมมฟิส เดอปาย ติด 1 ใน 3 รายชื่อดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำศึก เวิลด์คัพ โดยมีคู่แข่งอย่าง พอล พอคบา และ ราฟาเอล วาราน เป็นคู่แข่ง แต่สุดท้ายก็เป็น พอล พอคบา ที่คว้ารางวัลนี้ไปครอง

เกียรติประวัติ
พีเอสวี ไอด์โฮเฟ่น
- แชมป์ KNVB Cup : 2011-12
- โยฮาน ครัฟ ชิวด์ : 2012
- เออร์ดิวิซี่ : 2014-15

ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์
- แชมป์ยูโร รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี : 2011
- อันดับ 3 ฟีฟ่าเวิลด์คัพ : 2014

ADS