ประวัติ เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่
เอสเตบัน กัมบิอัสโซ มิดฟิลด์จอมเก๋าชาว อาร์เจนตินา ออกมายืนยันแล้วว่าจะไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่กับ เลสเตอร์ ซิตี้ พร้อมขอบคุณแฟนบอลทุกคนที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีในฤดูกาลที่แล้ว
กัมบิอัสโซ ย้ายมาร่วมทีม เลสเตอร์ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาด้วยสัญญาระยะสั้น 1 ปี และมีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมรอดพ้นการตกชั้น แต่ล่าสุดเจ้าตัวตัดสินใจไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่กับทีมและกลายเป็นนักเตะฟรีเอเยนท์ในตอนนี้
"ผมขอประกาศว่าผมจะไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่กับ เลสเตอร์ ซิตี้" กัมบิอัสโซ โพสต์ข้อความบน Facebook "ผมใช้เวลาแค่ 24 ชั่วโมงในการตัดสินใจหลังได้รับข้อเสนอจาก เลสเตอร์ เพราะผมต้องการให้ทีมมีเวลามากที่สุดในการมองหาตัวเลือกใหม่"
"ผมอยากขอบคุณแฟนบอลทุกคน ที่ทำให้ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้มีส่วนร่วมกับสโมสรแห่งนี้ ผมจะไม่มีวันลืมแน่นอน"
"ผมต้องขอขอบคุณเพื่อนร่วมทีมและสต๊าฟฟ์โค้ชทุกคนของสโมสร ที่ทำให้ฤดูกาลที่ผ่านมาเป็นหนึงในปีที่สำคัญที่สุดของชีวิตผม"
ชื่อเต็ม : เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่
วันเกิด : 18 สิงหาคม 1980
เกิดที่ : บูโนส ไอเรส, อาร์เจนติน่า
สัญชาติ : อาร์เจนติน่า
ส่วนสูง : 177 เซนติเมตร
ตำแหน่ง : กองกลางตัวรับประวัติส่วนตัว
เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ (เกิด 8 สิงหาคม 1980) นักเตะชาวอาร์เจนติน่าของสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งอดีตเคยค้าแข้งกับทีมดังอย่าง ริเวอร์เพลท, เรอัล มาดริด และ อินเตอร์ มิลาน โดยเขาคว้าแชมป์ทั้งหมด 23 ครั้ง มากที่สุดในประวัติศาสตร์นักบอลอาร์เจนไตน์
เส้นทางในอาชีพการค้าแข้ง
กัมบิอัสโซ่ เริ่มค้าแข้งในเส้นทางอาชีพกับสโมสร อาร์เจนตินอส จูเนียร์ส ในปี 1995 ก่อนจะย้ายตามพี่ชายของเขา นิโคลัส กัมบิอัสโซ่ ไปเล่นให้กับอดาเดมี่ของ เรอัล มาดริด ในปี 1996 แต่หลังจากนั้นในปี 1998 เขาก็กลับไปสู่ลีกบ้านเกิดอีกครั้ง และลงเล่นสามปีให้กับ อินเดเพนเดียนเต้ และหนึ่งปีกับ ริเวอร์เพลท ซึ่งต่อมาในปี 2002 เขาได้ตัดสินใจกลับไปยังสโมสร "ราชันชุดขาว" อีกครั้ง และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ อินเตอร์คอนติเน็นทัล คัพ ในปีเดียวกัน นอกจากนี้ยังอยู่ในชุดที่คว้าแชมป์ ลาลีก้า และ สแปนิช ซูเปอร์ คัพ ในปี 2003 แถมยังพาทีมเข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และเข้าชิงชนะเลิศบอลถ้วยในประเทศ โกปา เดล เรย์ ได้อีกด้วยในซีซั่นเดียว
อินเตอร์ มิลาน (2004-2014)
ในเดือน กรกฎาคม 2004 กัมบิอัสโซ่ ในวัย 24 ปี ตัดสินใจย้ายไปร่วมทัพ อินเตอร์ มิลาน หลังจากหมดสัญญากับทาง เรอัล มาดริด ในเดือน มิถุนายน และเขาสามารถช่วย "งูใหญ่" คว้าแชมป์ โคปปา อิตาเลีย ได้ในฤดูกาลแรกที่ไปเล่นจากการเป็นมิดฟิลด์ตัวรับคู่กับเพื่อนร่วมชาติอย่าง ฮวน เซบาสเตียน เวรอน โดยจบฤดูกาล 2004-05 เข้ามีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกอิตาลีคู่กับ มิดฟิลด์จอมทัพของ เอซี มิลาน อย่าง กาก้า
ในเกมรอบชิงชนะเลิศศึก โคปปา อิตาเลีย 2006 เขาซัดประตูสุดประทับใจให้ทีมเอาชนะ โรม่า ไปได้ 3-1 และต่อมาในวันที่ 9 กันยายน 2006 กัมบิอัสโซ่ ยิงคนเดียวสองประตูในเกมเปิดฤดูกาลให้ทีมเอาชนะ ฟิออเรนติน่า 3-2 โดยหลังจากนั้นในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2007 เขาและ สลาตัน อิบราฮิโมวิช ช่วยกันยิงประตูให้ทีมถล่มเอาชนะ ซิเอสเคเอ มอสโก 4-2 ในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2009 อินเตอร์ มิลาน ประกาศต่อสัญญาให้กับ กัมบิอัสโซ่ ไปอีก 5 ปีและจะสิ้นสุดสัญญาในปี 2014 เขาเป็นนักเตะตัวสำคัญในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2009-10 เป็นอย่างมากจากการซัดประตูชัยให้ทีมเอาชนะ เชลซี 2-1 ที่สนาม ซาน ซีโร่ และยังช่วยทำให้ทีมทุบ บาเยิร์น มิวนิค ในรอบชิงชนะเลิศไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2010
โดยในวันที่ 30 มีนาคม 2013 เป็นครั้งแรกที่ กัมบิอัสโซ่ ได้รับใบแดงกับสโมสรแห่งนี้ จากการเข้าสกัด เซบาสเตียน โจวินโก้ หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2013 เขาสามารถซัดคนเดียว 6 ประตูให้ทีมถล่มทีมน้องใหม่อย่าง ซัสซัวโล่ 7-0 ซึ่งต่อมาหลังจบฤดูกาล 2013-14 เขาต้องตัดสินใจอำลาสโมสรที่ค้าแข้งกันมากว่า 10 ปี จากการที่เขาไม่ได้รับการต่อสัญญา และเดินทางมายังประเทศอังกฤษต่อไป
เลสเตอร์ ซิตี้ (2014-ปัจจุบัน)
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2014 กัมบิอัสโซ่ ได้รับการดึงตัวไปเล่นให้กับทีมน้องใหม่ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยสัญญาระยะสั้น 1 ปี แบบไม่มีค่าตัว ซึ่งเขาลงสนามอย่างเป็นทางการนัดแรกให้กับทีมในวันที่ 13 กันยายน พบกับ สโต๊ค ซิตี้ และก็เป็นทางด้าน "จิ้งจอกสยาม" ที่เอาชนะไปได้ 1-0 โดยหลังจากนั้นประตูแรกของเขากับทีมก็มาถึง ในเกมที่ เลสเตอร์ ซิตี้ แซงเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5-3 ซึ่งเขาเป็นคนที่ยิงประตูตีเสมอ 3-3
ในวันที่ 4 เมษายน 2015 เขาใช้เวลาเพียงแค่ 12 นาทีในการยิงประตูแรกให้กับทีมจากเก็บที่เอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 และยังเป็นชัยชนะนัดแรกจาก 8 เกมหลังสุดอีกด้วย และสุดท้ายเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2015 หลังจากที่สโมสรพ้นจากการตกชั้นเป็นที่เรียบร้อย ทางสโมสรได้มีการประกาศให้เขาเป็นหนึ่งในนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีจากการโหวตของแฟนบอล
ผลงานเกียรติประวัติ
ระดับสโมสร
ริเวอร์เพลท
- แชมป์ พรีเมร่า ดิวิชั่น : 2002 ครึ่งฤดูกาลหลัง
เรอัล มาดริด
- แชมป์ ลาลีก้า : 2003-03
- แชมป์ อินเตอร์คอนติเน็นทัล คัพ : 2002
- แชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ : 2002
- แชมป์ สแปนิช ซูเปอร์ คัพ : 2003อินเตอร์ มิลาน
- แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : 2009-10
- แชมป์ กัลโช เซเรีย อา : 2005-06, 2006-07, 2007-08, 2008-09, 2009-10
- แชมป์ โคปปา อิตาเลีย : 2004-05, 2005-06, 2009-10, 2010-11
- แชมป์ อิตาเลี่ยน ซูเปอร์ คัพ : 2005, 2006, 2008, 2010
- แชมป์ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ : 2010ระดับทีมชาติ
อาร์เจนติน่า
- แชมป์ เยาวชนอเมริกาใต้ : 1997, 1999
- แชมป์ เยาวชนโลก : 1997เกียรติประวัติส่วนตัว
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีโดย ยูโรสปอร์ต : 2005-06
- โกลเด้น ไพเรท : 2006
- มีชื่อเข้าชิงรางวัล ฟีฟ่า ฟิฟโปร : 2010
- นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ : 2014-15