ประวัติ อารูน่า โคเน่
ชื่อ : อารูน่า โคเน่
เชื้อชาติ : ไอวอรี่ โคสต์
วันเกิด : 11 พฤศจิกายน 1983
อายุ : 31 ปี
สถานที่เกิด : อันยาม่า, ไอวอรี่ โคสต์
ตำแหน่ง : กองหน้า
สโมสร : เอฟเวอร์ตัน
ประวัติ
อารูน่า โคเน่ เกิดที่เมืองอันยาม่า ประเทศ ไอวอรี่ โคสต์ เคยค้าแข้งในระดับเยาวชนกับริโอ สปอร์ต, ลีร์เซ่ ต่อมาก็สร้างชื่อในลีกเอเรดิวิซีย์ ฮอลแลนด์ กับสโมสรโรด้า และพีเอสวี ก่อนพเนจรไปหลายๆทีม สุดท้ายก็มาระเบิดฟอร์มกับเอฟเวอร์ตัน ในปัจจุบัน
สโมสร
พีเอสวี (2005-2007)โคเน่ เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับพีเอสวีอย่างยากลำบากในซีซั่น 2007/08 เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องของเวลา เขากลับไปซ้อมปรี-ซีซั่นกับทีมช้ากว่ากำหนดเพราะวันหยุดในประเทศของเขา จึงทำให้เขาพลาดเวลาเตรียมทีมอันมีค่าสำหรับซีซั่นใหม่ เคราะห์ซ้ำกรรมซัดไปอีกเมื่อเขาเป็นไข้มาลาเรียในช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2007 ต่อมาในเดือนสิงหาคม มีการประกาศว่าเขาหายไข้กลับไปซ้อมกับทีมได้แล้ว และคาดว่าจะฟิตทันลงเล่นเกมแรกของลีกกับเฮราเคลส ในวันที่ 19 นอกจากนี้ยังได้รีเทิร์นกลับสู่ทีมชาติทันทีอีกด้วย
เซบีญ่า (2007-12)
วันที่ 30 สิงหาคม 0007 หลังมีรายงานว่าได้รับความสนใจจากมิดเดิ้ลสโบรช์ เซบีญ่า กลับเป็นฝ่ายปาดหน้าเซ็นสัญญาโคเน่ ไปด้วยค่าตัว 12 ล้านยูโร ลงประเดิมสนามครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 กันยายาน โดยถูกเปลี่ยนตัวแทน เฟรเดอริก กานูเต้ ในช่วงครึ่งหลัง ที่เอาชนะอูเอลบ้า ไป 4-1 อีก 9 วันหลังจากนั้น เขาก็ทำประตูแรกให้ทีมได้สำเร็จ ช่วยทีมไล่ตีเสมอหลังจากถูกเอสปันยอล นำไปก่อน 0-2 แต่สุดท้ายก็แพ้คาบ้านไป 2-3 และในวันที่ 2 ตุลาคม เขาก็ทำประตูแรกในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในเกมที่ชนะสลาเวีย ปราก 4-2 หลังลงสนามได้เพียง 10 นาทีเท่านั้น
หลังจากนั้นก็เจอแต่เหตุการณ์ร้ายๆ ทั้งฟอร์มตก, บาดเจ็บ และหลุดจากทีมชาติ โคเน่ก็ไม่ได้เป็นที่รักของเซบีญ่าอีกต่อไป และท่ามกลางความเป็นไปได้ที่จะย้ายออก ในที่สุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2010 เขาก็ถูกปล่อยยืมตัวให้กับฮันโนเวอร์ 96 จนกระทั่งจบซีซั่น
หลังจากนั้นในปี 2010/11 เขาได้ลงเล่นเพียงครั้งเดียว และนาทีเดียวเท่านั้นให้เซบีญ่าในเกมกับบียาร์เรอัล และไม่นานก็ถูกปล่อยยืมตัวอีกครั้งให้กับเลบานเต้ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงบ่อยครั้ง ทำประตูแรกได้ในวันที่ 18 กันยายาน 2011 ในเกมที่เปิดบ้านเฉือนเรอัล มาดริด ไปแบบเซอร์ไพรส์ 1-0
วีแกน แอธเลติก (2012-2013)
14 สิงหาคม 2012 โคเน่ เซ็นสัญญา 3 ปี ย้ายซบวีแกน แอธเลติก ทีมในพรีเมียร์ ลีก ด้วยราคา 3.5 ล้านปอนด์ ปาดหน้าหลายๆทีมร่วมลีกมากมาย แต่เลือกวีแกนเพราะสไตล์การเล่น ทำประตูแรกในลีกได้ในเกมที่สองของเขากับทีม ยิงตอกย้ำชัยบุกไปเอาชนะเซาท์แฮมป์ตันได้ 2-0 หลังจากนั้นในช่วงท้ายฤดูกาล เขาได้ลงเล่น 90 นาทีเต็ม ช่วย "เดอะ ลาติกส์" คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ จากการเฉือนชนะทีมยักษ์ใหญ่อย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 1-0 อย่างไรก็ตาม สามวันหลังถัดมาวีแกนก็ตกชั้นจากลีกสูงสุด เนื่องจากแพ้อาร์เซนอลในเกมสุดท้ายของซีซั่นไป 1-4
เอฟเวอร์ตัน (2013-ปัจจุบัน)
8 กรกฎาคม 2013 เอฟเวอร์ตันยืนยันว่าพวกเขาเซ็นสัญญาโคเน่ 3 ปี แบบไม่เปิดเผยค่าตัว ลงเล่นนัดแรกให้ "ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน" ในวันที่ 17 สิงหาคม ลงสนามในนาที่ที่ 81 เสมอกับนอริช ซิตี้ ไป 2-2 แต่ต้องโชคร้ายที่ได้รับบาดเจ็บหัวเข่าในเดือนตุลาคม จนไม่ได้ลงสนามเลยทั้งซีซั่น กลับมาอีกครั้งในวันที่ 24 ธันวาคม 2014 ยิงประตูแรกให้เอฟเวอร์ตันได้สำเร็จ แต่สุดท้ายทีมก็พ่ายนิวคาสเซิลไป 2-3
ในเกมเปิดซีซั่น 2015/16 โคเน่ ลุกจากม้านั่งสำรอง ลงสนามไปทำแอสซิสต์ ช่วยทีมตีเสมอวัตฟอร์ด 2-2 หลังจากนั้นก็โชว์ฟอร์มดีเรื่อยมา ทั้งช่วยทีมเอาชนะเซาท์แฮมป์ตัน 3-0 เก็บชัยจากเชลซีได้ 3-1 และซัดแฮทริกเป็นครั้งแรกให้เอฟเวอร์ตัน ในเกมที่ถล่มซันเดอร์แลนด์ไป 6-2 เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2015
ทีมชาติ
โคเน่ เล่นให้ทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ ชุดยู-20 ในศึกฟุตบอลโลกระดับเยาวชน 2013 ซัดไป 3 ประตู แม้จะตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่เว็บไซต์ทางการของฟีฟ่าได้ประกาศว่าเขาคือหัวใจสำคัญในเกมรุกของทีม และระบุว่าเขาเป็นนักเตะที่แข็งแกร่ง, มีความสามารถในลูกกลางอากาศ และควบคุมบอลได้ดี
โคเน่ ได้รับเลือกติดทีมชาติลุยศึกฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมัน ลงเล่นนัดแรกในเกมที่พ่ายอาร์เจนติน่าไป 1-2 โดยถูกเปลี่ยนตัวแทนเคเดอร์ เคอิต้า และออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในอีกสองเกมที่เหลือ ทำประตูไม่ได้เลย และสุดท้ายทีมของเขาก็ไปไม่ถึงรอบน็อคเอาต์
หลังห่างหายจากทีมชาติไป 4 ปี เนื่องจากบาดเจ็บและฟอร์มตก โคเน่ถูกเรียกติดทีมชาติอีกครั้งในปี 2012 และมีชื่อติดทีมไปเล่นแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 2013 เนื่องจากโชว์ฟอร์มกับสโมสรได้อย่างยอดเยี่ยม