ประวัติ ยานนิค การ์ราสโก้
ชื่อเต็ม : ยานนิค การ์ราสโก้
วันเกิด : 4 กันยายน 1993
สถานที่เกิด : ไอเซลเลส, ประเทศเบลเยียม
สัญชาติ : เบลเยียม
ส่วนสูง : 180 เซนติเมตร
ตำแหน่ง : ปีก
สโมสรปัจจุบัน : แอตเลติโก มาดริดประวัติส่วนตัว
การ์ราสโก้ เกิดที่เมือง ไอเซลเลส ในกรุง บรัสเซลส์ โดยพ่อชาวโปรตุเกสกับแม่ชาวสเปน และกำลังคบหาดูใจกับ โนเอมี่ แฮ๊ปพาร์ท มิสเบลเยียม 2013
ประวัติการค้าแข้งกับสโมสร
โมนาโก
ปี 2010 การ์ราสโก้ ย้ายจากสโมสร เก็งค์ เข้าร่วมทีม โมนาโก และเขาได้ลงสนามในฐานะนักเตะอาชีพเต็มตัวเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2012 จากเกมเปิดสนาม ลีก เดอซ์ ถล่ม ตูร์ 4-0 โดยลงฤดูกาลนั้นลงเล่นทั้งสิ้น 27 เกมและทำประตูได้ทั้งหมด 6 ลูก ช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดได้อีกด้วย
เขาต่อสู้อย่างหนักและประเดิมสกอร์แรกใน ลีก เอิง ได้ในวันที่ 5 ตุลาคม 2013 จากเกมที่พบกับ แซงต์ เอเตียนน์ ซึ่งต่อมาอีก 15 วัน การ์ราสโก้ สามารถซัดสองประตูภายใน 10 นาทีแรกของเกมที่บุกไปเจ๊า โซโชซ์ 2-2 โดยท้ายที่สุดเขามีส่วนช่วยให้ทีมจบอันดับรองแชมป์เมื่อฤดูกาลนั้น
แอตเลติโก มาดริด
เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2015 สโมสร แอตเลติโก มาดริด ประกาศคว้าตัว การ์ราสโก้ เข้ามาร่วมทัพด้วยสัญญาระยะยาวถึง 5 ปี โดยมีค่าตัวอยู่ที่ 20 ล้านยูโร (ประมาณ 770 ล้านบาท) และเขาสามารถพังสกอร์ในสีเสื้อใหม่ได้ในวันที่ 18 ตุลาคม จากเกมที่บุกชนะ เรอัล โซเซียดัด 2-0
ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2016 เขาได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวสำรองแทน ออกุสโต้ เฟร์นานเดซ ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศที่สนาม ซาน ซิโร่ กับทางด้าน เรอัล มาดริด ซึ่งเขาสามารถกดประตูตีเสมอในนาทีที่ 79 ช่วยให้ทีมได้ลุ้นในช่วงต่อเวลาพิเศษ อย่างไรก็ดีทีมของเขาไม่สามารถเถลิงแชมป์ได้ เพราะพ่ายดวลจุดโทษในท้ายที่สุด โดยประตูตีเสมอนั้นทำให้เขาเป็นชาวเบลเยียมคนแรกที่ยิงได้ในรอบชิงชนะเลิศบนเวทียุโรป
การ์ราสโก้ ซัดแฮตทริคแรกในเส้นทางการค้าแข้งได้เป็นครั้งแรกในเกมที่ถล่ม กรานาด้า 7-1 เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2016
เส้นทางอาชีพกับทีมชาติ
การ์ราสโก้ ลงสนามกับทีมชาติ เบลเยียม ชุดใหญ่เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2015 โดยลงสนามเป็นสำรองแทน มารูยาน เฟลไลนี่ ในนาทีที่ 69 จากเกมที่ถล่ม ไซปรัส 5-0 บนเวที ยูฟ่า ยูโร 2016 รอบคัดเลือก และยังมีชื่อติดเป็นหนึ่งใน 23 ขุนพลลุยศึกรอบสุดท้ายภายใต้การทำทีมของ มาร์ก วิลม็อต
ในวันที่ 26 มิถุนายน 2015 ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของศึก ยูฟ่า ยูโร 2016 ที่เมืองตูลูส และสามารถผลิตสกอร์แรกกับทีมชาติได้สำเร็จ จากเกมที่อัด ฮังการี 4-0 ซึ่งเขาลงสนามมาในฐานะตัวสำรองแทน ดรีส เมอร์เท่นส์ ช่วงครึ่งหลัง