ประวัติ ฟาบิโอ กรอสโซ่

 

ฟาบิโอ กรอสโซ่ แบ็กซ้ายจอมลุยแห่งแดนมักกะโรนี

ฟาบิโอ กรอสโซ่ แบ๊กซ้ายชาวอิตาเลี่ยน ของสโมสร โอลิมปิก ลียง และเป็นหนึ่งในขุนพล “อัซซูรี่” ชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 ที่ประเทศเยอรมัน เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ปี 1977 ที่เมืองคิเอติ ประเทศอิตาลี เริ่มต้นชีวิตค้าแข้ง  1998-2001 : คิเอติ กรอสโซ่ เริ่มต้นเส้นทางนักเตะด้วยการลงเล่นให้กับทีมระดับสมัครเล่น อย่าง เรนาโต้ คูรี่ ตั้งแต่ปี 1994 จนถึงปี 1998 จึงมีโอกาสได้ย้ายไปร่วมทีมระดับอาชีพอย่าง คิเอติ ในระดับเซเรีย ซี 2 ตั้งแต่ปี 1998 ถึงปี 2001   2001-2004 : เปรูจา   ในเวลานั้นกับทีม คิเอติ กรอสโซ่ ลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก และยิงประตูได้ถึง 17 ลูก จากการลงสนาม 68 นัด อย่างไรก็ตาม อนาคตในเส้นทางลูกหนังของ กรอสโซ่ มาสดใสขึ้น หลังจากที่ถูก เปรูจา ทีมในระดับเซเรีย อา ลีกสูงสุดของประเทศ คว้าตัวไปร่วมทีมในปี 2001 และที่นี่เอง กรอสโซ่ ถูกจับให้เป็นเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้าย ก่อนที่จะพัฒนาฝีเท้า จนก้าวไปติดทีมชาติอิตาลี เป็นครั้งแรกใน ปี 2003 2004-2006 : ปาแลร์โม่ หลังจากที่ลงเล่นให้กับ เปรูจา มาได้ซักพัก กรอสโซ่ ก็ย้ายไปร่วมทีมปาแลร์โม่ ในเดือนมกราคม ปี 2004 โดยในตอนนั้น ปาแลร์โม่ ยังเล่นอยู่ในเซเรีย บี ก่อนที่จะได้แชมป์มาครอง และได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในเซเรีย อา ในที่สุด เช่นเดียวกับการได้ขึ้นมาสัมผัสบรรยากาศของลีกสูงสุดของประเทศอีกครั้ง 2006-2007 : อินเตอร์ มิลาน สำหรับ กรอสโซ่นอกจากจะเล่นในตำแหน่งแบ๊กซ้ายได้แล้ว กรอสโซ่ ก็

ฟาบิโอ  ข้อมูลส่วนตัว ชื่อ - ฟาบิโอ กรอสโซ วดป. เกิด - 28 พย. 1997 สถานที่เกิด - โรม, อิตาลี ส่วนสูง - 190 ซม. ตำแหน่ง - แบ็คซ้าย ทีมปัจจุบัน - โอลิมปิก ลียง หมายเลขเสื้อ - 11 สโมสรเยาวชน 1994 - 1998 : เรนาโต้ เคิร์ล สโมสรใหญ่ 1998-2001 / ชิเอติ / 68(17) 2001-2004 / เปรูจา / 67(7) 2004-2006 / ปาร์เลอร์โม่ / 69(1) 2006-2007 / อินเตอร์ มิลาน / 23(2) 2007- ปัจจุบัน / ลียง / 52(2) ทีมชาติ อิตาลี / 44(3)

ยังเล่นในตำแหน่งปีกซ้ายได้ดีไม่แพ้กัน และเขาก็เป็นหนึ่งในกำลัง  สำคัญของปาแลร์โม่ มาโดยตลอด จนกระทั่งถูก อินเตอร์ มิลาน เซ็นสัญญาคว้าตัวไปร่วมทีม ด้วยราคา 5.5 ยูโร (ประมาณ 286 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ปี 2006 ก่อนที่ฟุตบอลโลก 2006 รอบสุดท้าย จะเริ่มขึ้นเพียงไม่กี่วัน 2007-ปัจจุบัน : โอลิมปิก ลียง ทว่า กรอสโซ่ ก็มีอันชีพจรลงเท้าอีกครั้ง เพราะหลังจากค้าแข้งกับทีม “งูใหญ่” เพียงฤดูกาลเดียว  ในที่สุดเขาก็จะตัดสิจย้ายไปหาประสบการณ์ค้าแข้งยังต่างแดนเป็นครั้งแรกให้กับตัวเอง ด้วยการเซ็นสัญญาไปร่วมทีม โอลิมปิก ลียง ยอดทีมในศึกลีก เอิง ฝรั่งเศส  ในวันที่ 8 กรกฏาคม 2007 ภายหลังการตรวจร่างกายและข้อตกลงส่วนตัวผ่านฉลุย โดยเขาได้สวมเสื้อเบอร์ 11 ในถิ่น สต๊าด การ์แล็งด์ และลงเล่นเป็นกำลังหลักให้กับทีมจนถึงปัจจุบัน

 

ทีมชาติอิตาลี

สำหรับในเส้นทางทีมชาตินั้น กรอสโซ่ ติดธงทีมชาติอัซซูรี่ ครั้งแรกในปี 2003 สมัยที่ค้าแข้งอยู่กับ เปรูจา ด้วยผลงานการเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายที่โดดเด่น ทำให้ มาร์เชโล ลิปปี้ กุนซือทีม “อัซซูรี่” ในขณะนั้น เรียกใช้บริการของ กรอสโซ่ มาโดยตลอด และเริ่มมอบตำแหน่งตัวจริงในทีมให้มาตั้งแต่ในปี 2005 ก่อนจะเหน็บมาร่วมรายการสำคัญอย่างฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมัน ก่อนจะมอบหมายบทบาทสำคัญให้ ในฐานะแบ๊กซ้ายหมายเลขหนึ่งของทีม ส่งผลให้ จานลูก้า ซามบร็อตต้า ดาวเตะตัวเก๋าของทีม ต้องหลุดไปเป็นตัวสำรอง   ฟุตบอลโลก 2006 กรอสโซ่  ถูกวิพากวิจารณ์ว่าพุ่งล้มให้ อิตาลี ได้จุดโทษ ในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่พบกับ ออสเตรเลีย โดยเป็นจังหวะเขาพยายามพาบอลลุยเข้าไปในกรอบเขตโทษของ “ออสซี่” ในนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน และโดนนักเตะทีมจิงโจ้ เข้าสกัดจนล้มไป ก่อนที่ ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ จะรับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าไป เป็น

ประตูชัยให้อิตาลี เอาชนะไปหวุดหวิด 1-0 ซึ่งเมื่อมาดูจากภาพช้าจะเห็นว่าผู้เล่นออสซี่ไม่ได้ทำฟาว์ล กรอสโซ่ แต่อย่างใด ในรอบรองชนะเลิศ ซึ่ง อิตาลี พบกับ เยอรมัน นั้น กรอสโซ่ กลายเป็นฮีโร่อีกครั้ง เมื่อรับบอลจากากรจ่ายของ อันเดรีย ปิร์โล่ และยิงบอลโค้งผ่านมือ เยนส์ เลห์มันน์ เป็นประตูขึ้นนำให้ อิตาลี ในขณะที่เหลือการแข่งขันในช่วงต่อเวลาพิเศษเพียงแค่ 2 นาที ก่อนที่ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ จะมายิงประตูตอกย้ำชัยชนะให้อีกในไม่กี่อึดใจต่อมา พา “อัซซูรี่” ผงาดเข้าชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2006 ได้อย่างยิ่งใหญ่  ในรอบชิงชนะเลิศ ที่ อิตาลี พบกับ ฝรั่งเศส กรอสโซ่ ก็สวมบทฮีโร่ อีกครั้ง ด้วยการรับบทเป็นผู้ยิงลูกจุดโทษคนที่ 5 ของทีม ก่อนที่เขาจะส่งบอลเข้าไปตุงข่ายทีม “ตราไก่” พร้อมกับช่วยให้ อิตาลี คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 4 มา

ครองได้สำเร็จ หลังเอาชนะ ฝรั่งเศส ไปได้ 5-3 ในการดวลจุดโทษ หลังจากที่ในเวลา 90 นาที และช่วงต่อเวลาพิเศษ ทั้งคู่เสมอกัน 1-1ประตูชัยให้อิตาลี เอาชนะไปหวุดหวิด 1-0 ซึ่งเมื่อมาดูจากภาพช้าจะเห็นว่าผู้เล่นออสซี่ไม่ได้ทำฟาว์ล กรอสโซ่ แต่อย่างใด ซึ่งอิตาลี เสมอกับ สกอตแลนด์ 1-1 ที่สนาม แฮมป์ตัน พาร์ค กรุงกลาสโกว์, และอีกหนึ่งประตู เกิดขึ้นในฟุตบอลโลก 2006 รอบสุดท้าย ซึ่งอิตาลี ชนะ เยอรมัน  2-0 ส่วนประตูสุดท้าย เกิดขึ้นในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ “ยูโร 2008” รอบคัดเลือก ที่ อิตาลี เอาชนะ จอร์เจีย 2-0 เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2007 ฟุตบอลยูโร 2008 กรอสโซ่  มีชื่อเป็นหนึ่งในขุนพล”อัซซูรี่” ลุยศึกฟุตบอลยูโร 2008 รอบสุดท้าย ที่ประเทศ ออสเตรีย และ สวิตเซอร์แลนด์ แต่เขาก็ไม่อาจสวมบทฮีโร่ให้ทีมได้อีกครั้ง เมื่ออิตาลี ต้องกระเด็นตกรอบก่อนรองชนะเลิศในทัวร์นาเม้นต์นี้ไปอย่างน่าเสียดาย โดยการดวลการจุดโทษแพ้สเปน 2-4 หลังจากที่ใน 90 นาที และช่วงต่อเวลาพิเศษ ทั้งสองทีมเสมอกันแบบไม่มีสกอร์ คอนเฟดเดเรชั่น 2009 กรอสโซ่  มีชื่อเป็นหนึ่งในขุนพล”อัซซูรี่” ลุยศึกคอนเฟดเดเรชั่น 2009 รอบสุดท้าย ที่ประเทศ แอฟริกา แต่เขาก็ไม่อาจสวมบทฮีโร่ให้ทีมได้อีกครั้ง เมื่ออิตาลี ต้องกระเด็นตกรอบก่อนรองชนะเลิศในทัวร์นาเม้นต์นี้ไปอย่างน่าเสียดาย โดนทีมอเมริกา พลิกกลับแซงเข้ารอบ ด้วยประตูได้เสียที่ดีกว่าเฉย ชีวิตส่วนตัว ฟาบิโอ กรอสโซ่ มีภรรยาชื่อ เจสซิก้า เรเป็ตโต้ และมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน คือ ฟิลิปโป้ ซึ่งเกิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2006

เกียรติประวัติ

สโมสร
อินเตอร์ มิลาน
กัลโช่ เซเรีย อา : 2007
โคปปา อิตาเลีย  (รองแชมป์) : 2007
ซูเปอร์โคปปา อิตาเลีย : 2006

โอลิมปิก ลียง
เฟร้นช์ ลีก เอิง แชมเปี้ยนชิพ : 2007/2008
เฟร้นช์ คัพ : 2007/2008
เฟร้นช์ ซูเปอร์ คัพ : 2007

ทีมชาติอิตาลี
ฟุตบอลโลก : 2006