ประวัติ อันเดรีย เบล็อตติ
ชื่อเต็ม : อันเดรีย เบล็อตติ
วันเกิด : 20 ธันวาคม 1993
สถานที่เกิด : กัลซิเนเต้, ประเทศอิตาลี
สัญชาติ : อิตาลี
ส่วนสูง : 181 เซนติเมตร
ตำแหน่ง : กองหน้า
สโมสรปัจจุบัน : โตริโน่ประวัติส่วนตัว
อันเดรีย เบล็อตติ (เกิด 20 ธันวาคม 1993) นักฟุตบอลอิตาเลี่ยน ผู้ที่เล่นในตำแหน่งศูนย์หน้าให้กับสโมสร โตริโน่ และทีมชาติ อิตาลี เขามีชื่อเล่นว่า "อิล กัลโล่" หรือ "เจ้าไก่งวง" เบล็อตติ เริ่มต้นค้าแข้งกับทีม อัลบิโน่เลฟเฟ่ ก่อนจะย้ายไปซบ ปาแลร์โม่ และสามารถพาทีมคว้าแชมป์ เซเรีย บี ในฤดูกาล 2013-14 ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็ถูกดึงตัวไปเล่นให้กับ โตริโน่ ในปี 2015
ประวัติการค้าแข้งกับสโมสร
อัลบิโน่เลฟเฟ่
ก้าวแรกของเขาในฐานะนักฟุตบอล เริ่มต้นที่โรงเรียนวาทศิลป์แห่งกอร์ลาโก้ หลังจากไม่ประสบความสำเร็จในการทดสอบฝีเท้ากับ อตาลันต้า เบล็อตติ ได้ตัดสินใจย้ายไปเล่นให้กับ อัลบิโน่เลฟเฟ่ และถูกส่งให้ไปร่วมฝึกในระบบเยาวชนของสโมสร ต่อมาเขาได้รับโอกาสลงสนามเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับชุดใหญ่ในฤดูกาล 2011-12 ซึ่งเขาสามารถยิงได้ 2 ประตูจาก 8 เกมที่ลงเล่นใน เซเรีย บี ขณะเดียวกันก็ควบตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของทีมเยาวชนในซีซั่นนั้นด้วย
ในฤดูกาลต่อมา เขาก็ถูกขยับขึ้นไปเล่นให้กับทีมชุดใหญ่เต็มตัว และลงสนามทั้งสิ้น 31 เกมในศีก ลีก้า โปร แถมซัดไปเน้นๆ 12 ประตู โดยในซีซั่นนั้นเองได้มีกองหลังนามว่า "เมาโร เบล็อตติ" อยู่ด้วย จึงทำให้ อันเดรีย มีชื่อเล่นว่า "เบล็อตติโน่" เพื่อสะดวกต่อการเรียกผู้เล่นทั้งสองคน
ปาแลร์โม่
ในวันที่ 2 กันยายน 2013 เขาย้ายไปเล่นให้กับสโมสร ปาแลร์โม่ ในฐานะนักเตะยืมตัว โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 500,000 ยูโร (ประมาณ 19.1 ล้านบาท) และมีเงื่อนไขซื้อขาดอยู่ที่ 2.5 ล้านยูโร (ประมาณ 95.4 ล้านบาท) เบล็อตติ ลงสนามเปิดตัวให้กับทีมเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2013 ด้วยการเป็นตัวสำรองเปลี่ยนแทน ดาวิเด้ ดิ เกนนาโร่ ในเกมที่พบกับ บารี่
เบล็อตติ ซัดสกอร์แรกให้กับทีมในวันที่ 5 ตุลาคม 2013 ซึ่งเป็นการพบกับ เบรสชา และสามารถพาทีมเลื่อนสู่ลีกสูงสุดได้อีกด้วย เขาจบฤดูกาลด้วยการซัดไป 10 ประตูในลีก
เขาลงเล่นบนลีกสูงสุดครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2014 ในวัย 20 ปี โดยลงเล่นเป็นตัวสำรองลงสนามแทน เปาโล ดีบาล่า ในแมตช์ที่เปิดรังเสมอ ซามป์โดเรีย 1-1 หลังจากนั้น เบล็อตติ สามารถซัดสองประตูบน กัลโช่ เซเรีย อา จากการออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมเยือน นาโปลี 3-3 ซึ่งจบฤดูกาลนั้นเขาลงสนามทั้งสิ้น 38 เกม (ส่วนใหญ่เป็นสำรอง) และยิงได้ทั้งหมด 6 ประตู
โตริโน่
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2015 เขาได้ตัดสินใจย้ายไปเล่นให้กับสโมสร โตริโน่ ด้วยค่าตัวจำนวน 7.5 ล้านยูโร (ประมาณ 19.1 ล้านบาท) เบล็อตติประเดิมสกอร์แรกให้ทีมเอาชนะ โบโลญญ่า 2-0 จนกระทั่งจบฤดูกาล เขายิงไปทั้งสิ้น 12 ประตูจาก 35 เกมที่ลงเล่น โดยเป็นการซัด 7 ลูกในครึ่งซีซั่นหลัง
เบล็อตติ เริ่มต้นฤดูกาล 2016-17 ด้วยการประเดิมสกอร์ใส่ เอซี มิลาน แต่ทีมก็แพ้ไป 2-3 ซึ่งต่อมาในวันที่ 28 สิงหาคม 2016 เขาสามารถซัดแฮตทริคแรกในอาชีพการค้าแข้ง จากเกมที่เปิดรังถล่ม โบโลญญ่า 5-1 จากผลงานการเล่นที่ยอดเยี่ยมทำให้สโมสรมอบรางวัล ด้วยการขยายสัญญาอยู่ยาวกับทีมไปถึงปี 2021 และตั้งค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 100 ล้านยูโร (ประมาณ 3,815 ล้านบาท) แถมต้องเป็นสโมสรนอกประเทศเท่านั้นถึงจะย้ายได้
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2017 เบล็อตติ ได้รับโอกาสสวมปลอกแขนกัปตันทีมเป็นครั้งแรกให้กับ ปาแลร์โม่ ซึ่งเขาสามารถทำแฮตทริคที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของ เซเรีย อา นับตั้งแต่ที่เคยทำไว้เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2000 (7 นาที 15 วินาที) ทุบสถิติของ อันเดรย์ เชฟเชนโก้
ต่อมาเขากลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่อายุต่ำกว่า 24 ปีและซัดไป 24 ประตูในฤดูกาลเดียว นับตั้งแต่ที่ เชฟเชนโก้ ทำไว้เมื่อปี 1999-00 เบล็อตติ จบซีซั่น 2016-17 ด้วยการซัด 26 ประตูในลีกและสองประตูใน โคปปา อิตาเลีย
เกียรติประวัติ
สโมสร
ปาแลร์โม่
- แชมป์ เซเรีย บี : 2013-14