ประวัติ ฆวน มาต้า เมจิคเชี่ยน แห่งโอล์ด แทร็ฟฟอร์ด

          ฆวน มาต้า มิดฟิลด์ร่างเล็กของ แมนฯยู เพิ่งฉลองประตูที่ 50 ในสีเสื้อของ "ปีศาจแดง" ไปหมาดๆหลังจากที่เจ้าตัวสามารถยิงประตูที่ 2 ให้กับทีม ก่อนที่ แมนฯยู จะบุกอัด ไบร์ทตันฯ แบบหมดรูป 3-0 ในศึกคาราบาว คัพ รอบ 3 เมื่อคืนวานนี้

 

 

 

ชื่อเต็ม : ฆวน มานูเอล มาต้า การ์เซีย (Juan Manuel Mata García)

วันเดือนปีเกิด : 28 เมษายน 1988 (อายุ 32 ปี)

สถานที่เกิด : บูร์กอส ประเทศสเปน

ส่วนสูง : 170 เซ็นติเมตร

ตำแหน่ง : กองกลาง

          ฆวน มาต้า เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับเรอัล โอเบียโด้ ซึ่งเป็นสโมสรที่พ่อของเขาเคยเล่นมาก่อน มาต้าอยู่ที่นั่น 3 ปี ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับทีมอคาเดมี่ของเรอัล มาดริด ที่มีชื่อว่าลา ฟาบริก้า เมื่ออายุได้ 15 ปี จากนั้นในฤดูกาล 2006/07 เขาก็เลื่อนชั้นขึ้นมาเตะให้กับเรอัล มาดริด เบ โดยได้เสื้อหมายเลข 34 กับทีมชุดใหญ่และตอนจบฤดูกาล มาต้า เป็นดาวซัลโวอันดับที่ 2 ของทีมรองจาก อัลบาโร่ เนเกรโด้ ที่ยิงไปทั้งหมด 18 ประตูนั่นเอง

          เนื่องจากมิดฟิลด์ร่างเล็กมีฝีเท้าที่น่าจับตามองทำให้ท้ายที่สุด บาเลนเซีย ทีมจากศึก ลา ลีกา จัดการคว้าตัวเขามาร่วมทีมในเดือนมีนาคม 2007 ซึ่งในฤูดูกาลดังกล่าวเขาได้รับการโหวตโดยแฟนๆ ให้เป็นนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี หลังจากมีส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมคว้าแชมป์โกปา เดล เรย์ โดยการยิงคนเดียว 2 ประตูในรอบรองชนะเลิศที่พบกับ บาร์เซโลน่า

          จนท้ายที่สุด มาต้า ค่อยๆพัฒนาฟอร์มจนกลายมาเป็นนักเตะคนสำคัญของบาเลนเซีย และแน่นอนว่าย่อมมีหลายทีมยักษ์ใหญ่หลายทีมในยุโรปต่างก็จ้องที่จะคว้าตัวเขาไปร่วมทีม จนสุดท้ายก็เป็น เชลซี ทีมจากเมืองผู้ดีที่เซ็นสัญญาคว้าตัวเขาด้วยค่าตัว 23.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 975 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2011 พร้อมกับสวมเสื้อแข่งหมายเลข 10 ทันที ซึ่งเกมแรกที่ มาต้า ประเดิมสนามกับต้นสังกัดใหม่ด้วยการลงมาเป็นสำรองและยิงประตูแรกได้ทันที ผลงานกับทีมสิงโตน้ำเงินครามของมาต้านั้นถือว่าน่าประทับใจตั้งแต่ฤดูกาลแรก หลังจากพาทีมคว้าแชมป์ได้ถึง 2 รายการคือเอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จากผลงานอันยอดเยี่ยมนี้ทำให้เขาได้รับการโหวตจากแฟนๆ ให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรด้วย

          แต่หลังจากนั้นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ มาต้า ก็มาถึง เมื่อเชลซีได้กุนซือใหม่หน้าเก่าอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามาทำทีมอีกครั้ง โอกาสลงสนามของ มาต้า ลดน้อยลงไปทันทีจึงทำให้มีกระแสข่าวเกี่ยวกับการย้ายทีมออกมาเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2014 มูรินโญ่ ก็ได้ออกมาบอกด้วยตัวเองว่าตอบรับข้อเสนอขอซื้อตัว มาต้า จากทาง แมนฯยู แล้ว ทำให้เขากลายเป็นนักเตะคนใหม่ของ "ปีศาจแดง" ที่ทำลายสถิติค่าตัวสูงสุดของสโมสรในตอนนั้น

          มาต้า ลงสนามเปิดตัวเป็นเกมแรกให้กับต้นสังกัดใหม่ในแมตช์บู๊กับ คาร์ดิฟฟ์ พร้อมกับสามารถทำแอสซิสได้อีกด้วยก่อนที่ทีมจะเอาชนะไปได้แบบสบายๆ 2-0 หลังจากนั้นประตูแรกของเขาเกิดขึ้นในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกถล่ม แอสตัน วิลล่า 4-0 พร้อมกับจบฤดูกาลนั้นด้วยการยิงไปทั้งหมด 6 ประตู

 

มาต้า เริ่มต้นฤดูกาล 2014/15 ด้วยฟอร์มที่สวยหรู ด้วยการซัดประตูตีเสมอ ซันเดอร์แลนด์ 1-1 ตามมาด้วยการยิงหนึ่งเม็ดในเกมที่ถล่ม คิวพีอาร์ 4-0 ก่อนจะถูกจับดองโดย หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือของทีมในตอนนั้น แต่ท้ายที่สุดเจ้าตัวก็เค้นฟอร์มเก่งออกมาอีกครั้งจนกลับมายึดตำแหน่งตัวจริง


           โดยเฉพาะในศึก "แดงเดือด" ที่ มาต้า สวมบทฮีโร่ยิงคนเดียวสองประตูให้ทีมเอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 ซึ่งหลังเกม เจ้าตัวกล่าวว่านี่เป็นฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดของเขากับสโมสรแห่งนี้

 

          อย่างไรก็ตามสิ่งที่ มาต้า ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกครั้งก็มาถึงเพราะต้นสังกัดตัดสินใจดึงตัว โชเซ่ มูรินโญ่ เจ้านายเก่าที่เคยร่วมงานกันที่เชลซี เข้ามากุมบังเหียนและเจ้าของฉายา "เดอะ สเปเชี่ยล วัน" ก็ทำเรื่องทันทีเพราะในศึกคอมมูนิตี้ ชิลด์ มาต้า ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในครึ่งหลังแต่แล้วเจ้าตัวก็โดยเปลี่ยนออกแบบงงๆในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซึ่งหลังเกม มาต้า ก็ให้สัมภาษณ์ว่าระหว่างเขากับมูรินโญ่ ไม่มีความตึงเครียดอะไรให้ต้องกังวล ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่เจ้าตัวว่าไว้จริงๆเพราะตลอดเวลาที่มูรินโญ่ คุมทีมแมนฯยู ก็ไม่มีปัญหาระหว่างกุนซือและนักเตะเลยนั่นเอง

 

          จนกระทั่งช่วงท้ายของปี 2018 แมนฯยู ไล่ตะเพิดมูรินโญ่ พร้อมกับแต่งตั้ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามาคุมทีมทำให้การเดินทางครั้งใหม่ของ มาต้า มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดยล่าสุดเมื่อคืนนี้ มาต้า ได้โอกาสลงเตะในศึกคาราบาว คัพ พร้อมกับสวมปอกแขนกัปตันทีมและโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการผลิตไป 1 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ และที่สำคัญก็คือการยิงได้เมื่อคืนนี้ส่งผลให้ มาต้า ซัดประตูในสีเสื้อ "ปีศาจแดง" ครบ 50 ประตูเป็นที่เรียบร้อย