ประวัติ ฟรานเชสโก้ คาปูโต้ หัวหอกตัวโก้ผู้ถูกลืม

          แม้จะวัยย่างเข้า 33 ปีแล้วแต่เชื่อหรือไม่ว่านักเตะที่ชื่อว่า ฟรานเชสโก้ คาปูโต้ เพิ่งมีโอกาสติดธงทีมชาติอิตาลี เป็นครั้งแรกเท่าแถมพอได้โอกาสลงสนามก็ยิงประตูได้เลย ในเกมกระชับมิตรที่อิตาลี เอาชนะ มอลโดว่า ไปแบบขาดลอยถึง 6-0 

 

 

 

ชื่อเต็ม : ฟรานเชสโก้ คาปูโต้ (Francesco Caputo)
วันเดือนปีเกิด : 6 สิงหาคม 1987 (อายุ 33 ปี)
สถานที่เกิด : เมืองอัลตามูร่า ประเทศอิตาลี
ส่วนสูง : 181 เซ็นติเมตร
ตำแหน่ง : กองหน้า

 

          การทำงานหนักย่อมเป็นเรื่องดีเสมอไม่ว่ากับอาชีพใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชีพนักฟุตบอลที่ต้องขยันฝึกซ้อมเพื่อโอกาสที่ดีกว่าในอนาคต ใช่แล้วครับ! วันนี้ผมจะนำเสนอผู้ชายที่ชื่อว่า ฟรานเชสโก้ คาปูโต้ หัวหอกสุดเก๋าที่เพิ่งได้เพิ่งได้รับโอกาสทีมชาติอิตาลี เป็นครั้งแรกและไม่ปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดลอยไปด้วยการยิงประตูได้ทันทีตั้งแต่นัดแรกที่ลงเตะ แม้วัยจะย่างเข้า 33 กะรัตแล้วก็ตาม

          ฟรานเชสโก้ คาปูโต้ เกิดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 1987 เมืองอัลตามูร่า ประเทศอิตาลี โดยเจ้าตัวเข้าร่วมกับฝึกฝีเท้ากับทีมสมัครเล่นอย่าง โตริตโต้ และ อัลตามูร่า ทีมในระดับเซเรีย ดี ตามลำดับ แต่ก็ไม่มีผลงานอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันมากนัก จนกระทั่งมีแมวมองเห็นฟอร์มเก่งจนท้ายที่สุดเป็น บารี่ ที่ได้ตัว คาปูโต้ ไปร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ปี 2008 และเพียงซีซั่นแรกเจ้าตัวก็มีส่วนร่วมกับการพาทีมคว้าแชมป์เซเรีย บี แต่ดูเหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกเพราะต้นสังกัดอย่าง บารี่ ดันปล่อยตัว คาปูโต้ ไปร่วมทีม ซาแลร์นิตาน่า ด้วยสัญญายืมตัวนอกจากนี้นั้นก็ยืมถูก เซียน่า ยืมตัวไปอีก เรียกได้ว่าช่วงเวลานั้นเจ้าตัวคือพระรองของทีมสุดเพราะไม่สามารถสอดแทรกตัวจริงได้เลย

          หลังจากถูกปล่อยตัวไปานานหลายซีซั่น คาปูโต้ กลับมาร่วมทีม บารี่ อีกในปี 2011 แต่โอกาสลงสนามก็ยังน้อยนิดเช่นเดิมจนท้ายที่สุดก็ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ทำให้ คาปูโต้ ต้องอยู่ค้าแข้งกับทีมจนหมดสัญญาซึ่งนับเป็นเวลา 4 ปีเลยทีเดียว ในปี 2015 กลายเป็น เอ็นเตลล่า จัดการคว้าตัวไปร่วมพร้อมกับค้าแข้งเป็นเวลา 2 ฤดูกาลด้วยกันโดยยิงประตูรวมกันไป 35 ประตู ซึ่งถ้าว่าไม่เลวเลยทีเดียว

          การเดินทางบทของชายที่ชื่อว่า คาปูโต้ ยังคงดำเนินไปเรื่อยๆเพราะหลังจากที่หมดสัญญากับ เอ็นเตลล่า ก็เป็น เอ็มโปลี เข้ามาเซ้งต่อด้วยสัญญาระยะยาว 4 ปีด้วยค่าตัว 2.8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 113 ล้าน) และเวลาเฉิดจรัสของเจ้าตัวก็มาถึงเพราะ คาปูโต้ เป็นคีย์แมนหลักสำคัญในการยิงประตูของทีมร่วมกับคู่หูคนใหม่อย่าง อัลเฟรโด้ ดอนนารุมม่า หลังทั้งสองคนช่วยกันยิงรวมกันไปถึง 49 ประตูพร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์เรีย บี พร้อมตีตั๋วขึ้นสู่ลีกสูงสุดอย่างเซเรีย อา เป็นครั้งแรกของชีวิต

          ด้วยผลงาน 26 ประตูพร้อมควบตัวตำแหน่งดาวซัลโวของเซเรีย บี ทำให้หลายทีมของเซเรีย อา เริ่มจับตามองหัวหอกรายนี้และท้ายที่สุดก็เป็นทีมอย่าง ซัสซัวโล่ ที่คว้าดาวเตะรายนี้ไปร่วมทีมในวันที่ 13 กรกฏาคม 2019 ด้วยค่าตัว 6.3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 254 ล้านบาท) และเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ผิดหวังเพราะเพียงซีซั่นแรกที่ย้ายมาก็สามารถระเบิดฟอร์มกระทุ้งไปได้ถึง 21 ประตูช่วยพาทีมจบอันดับที่ 8 ของตารางในซีซั่นที่ผ่านมาพร้อมกับคว้าดาวซัลโวของทีมมาครองได้อีกด้วย

          จากผลงานในสโสมรที่สะเด่าซะเหลือเกินทำให้ โรแบร์โต้ มันชินี่้ เจ้านายใหญ่ทัพ "อัซซูรี่" ตัดสินใจเรียกตัว คาปูโต้ เข้ามารับใช้ทีมชาติเป็นครั้งแรกและเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาในเกมอุ่นเครื่องเจ้าตัวก็ได้โอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทันทีและสวมบทเพชรฆาตด้วยการยิงประตูได้ตั้งแต่เกมแรกที่ลงเตะ ช่วยให้อิตาลี ถล่ม มอลโดว่า ไปแบบสบายเท้าถึง 6-0