ประวัติ แจ็คสัน อาเวลิโน่ โคเอลโญ่ คนโต ใจใหญ่ ใส่สกอร์!
ยิงเร็วสุด! “จาจ้า” ทำสถิติ ไทย ลีก ซีซั่น 2020-21
แจ็คสัน อาเวลิโน่ โคเอลโญ่ กองหน้าชาวบราซิลตัวใหม่ของ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมแชมป์เก่าไทยลีก 2019 กลายเป็นผู้เล่นคนล่าสุดที่ยิงประตูได้เร็วที่สุดในศึกไทย ลีก ฤดูกาล 2020-21 ด้วยเวลา 33 วินาที นับตั้งแต่ที่ผู้ตัดสินเป่าเริ่มเกมในครึ่งแรก เกมที่ทัพ “กว่างโซ้ง” เปิดรังเชือด ราชบุรี มิตรผลฯ 2-1 เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา
โดยหากนับแบบเรียลไทม์ตอนนี้ประตูของ "จาจ้า" ได้แซงหน้าลูกยิงของ เอลิอันโดร กอนเซก้า กองหน้าของ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่ซัดออกนำ 1-0 ในฤดูกาลนี้ด้วยเวลา 47 วินาทีในครึ่งแรก เกมที่ ทรู แบงค็อกฯ เปิดรังเฉือนชนะ สุพรรณบุรี 2-1 เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา
สำหรับสถิติก่อนหน้านี้ในอดีตเคยมีผู้เล่นของ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ยิงประตูเร็วด้วยเหมือนกัน อันดับ 1 ดานิโล่ คิริโน (20 วินาทีแรก เกมพบกับ บางกอกกล๊าส ฤดูกาล 2016) , อันดับ 2 ราฟาเอล โคเอลโญ่ (26 วินาทีแรก เกมพบกับ ไทยฮอนด้า ฤดูกาล 2017) และล่าสุด อันดับ 3 แจ็คสัน อาเวลิโน่ โคเอลโญ่ หรือ “จาจ้า” (33 วินาที เกมพบกับ ราชบุรี มิตรผลฯ ฤดูกาล 2020-21)
ชื่อเต็ม : แจ็คสัน อาเวลิโน่ โคเอลโญ่ (Jakson Avelino Coelho)
วันเดือนปีเกิด : 28 กุมภาพันธ์ 1986 (34 ปี)
สถานที่เกิด : อิปาตินก้า, บราซิล
ส่วนสูง : 190 ซม.
ตำแหน่ง : กองหน้าแจ็คสัน อาเวลิโน่ โคเอลโญ่ เป็นเด็กฝึกของ อาเมริกา มิไนโร่ สโมสรที่มีอายุเก่าแก่ทีมหนึ่งของวงการฟุตบอลบราซิล แต่กลับกลายเป็นว่าเขาได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพครั้งบนแผ่นดินยุโรปกับ เฟเยนูร์ด ในปี 2004 แต่การลงเล่นในทวีปที่ "ขึ้นชื่อ" ในเชิงลูกหนังนั้น ไม่เคยเป็นเรื่องง่าย เพราะในปี 2005 “จาจ้า” ถูกปล่อยตัวให้ เวสเเตร์โล่ ใช้งาน
หลังจากนั้น “จาจ้า” ก็โยกย้ายไปอยู่กับ เกตาเฟ่ ทีมดังจากแดนกระทิงดุ แต่จนเเล้วจนรอดเขาก็ยังยึดตำแหน่งในทีมไม่ได้สักที จึงต้องถูกปล่อยยืมไปอีกหลายครั้ง ไล่มาตั้งเเต่ ฤดูกาล 2006 ไปอยู่กับ ฟลาเมงโก้ ต่อมาในปี 2007 ไปอยู่กับ ราซิ่ง เกงค์ เเละ เวสเเตร์โล่ คำรบที่ 2 สุดท้าย แจ็คสัน อาเวลิโน่ โคเอลโญ่ ก็เหมือนจะได้ที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง เมื่อตัดสินใจเซ็นสัญญากับ เมตาลิสต์ คาร์คีฟ ในลีกของ ยูเครน ในปี 2008
แต่ แจ็คสัน อาเวลิโน่ โคเอลโญ่ ก็อยู่บนแผ่นดินยูเครนได้เพียงเเค่ 2 ปี "ความเปลี่ยนแปลง" ก็เกิดขึ้นกับชีวิตของเขาอีกเเล้ว “จาจ้า” ย้ายไปเล่นกับหลายทีม ไล่มาตั้งเเต่ แทร็บซอนสปอร์, อัล-อาห์ลี, อินเตอร์นาซิอองนาล เเละกลับมาบรรจบกับ เมตาลิสต์ คาร์คีฟ อีกรอบ ในปี 2013
“จาจ้า” ยังคงเดินสายย้ายสังกัดแบบต่อเนื่อง ในปี 2013 เขาถูกปล่อยยืมไปให้กับ คายเซริสปอร์, ในปี 2014 ถูกปล่อยยืมไปอยู่กับ คอริติบา เเละในปี 2015 แจ็คสัน อาเวลิโน่ โคเอลโญ่ ได้สัมผัสกับ "ฟุตบอลเอเชีย" เป็นครั้งเเรก เมื่อเขาจรดปากกาย้ายมาค้าเเข้งกับ ฉงชิ่ง ดังได หลี่ฟาน ในศึกไชนีส ซูเปอร์ลีก
กระนั้นเเล้ว "อุปสรรค" ก็มาเยือน แจ็คสัน อาเวลิโน่ โคเอลโญ่ อีกครั้ง เมื่อเขาไม่ประสบความสำเร็จบนแผ่นดินมังกร เเละย้ายกลับไปสู่ยุโรปอีกเเล้ว คราวนี้ทีมที่อ้าเเขนต้อนรับคือ โลเคเรน ทีมในประเทศเบลเยียม ณ สโมสรแห่งนี้ “จาจ้า” ลงเล่นไปถึง 32 นัด ในระหว่างปี 2015-16
ต่อมาในฤดูกาล 2017 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมดังของแดนสยาม ได้ยืนข้อเสนอยืมตัว “จาจ้า” ให้มาโชว์ฝีเท้าในประเทศไทย เเละที่ "ปราสาทสายฟ้า" นี่เอง แจ็คสัน อาเวลิโน่ โคเอลโญ่ ก็ประกาศศักดาแบบ "กระหึ่ม" ไทย ลีก ด้วยการซัดไป 34 ประตู จากการลงสนามให้ต้นสังกัดไป 34 เกม
แต่ด้วย "เรื่องนอกสนาม" ที่ไม่สู้ดีนัก ทำให้ “จาจ้า” ต้องเก็บของออกจากถิ่น "ช้าง อารีน่า" โดยจุดหมายปลายทางครั้งนี้คือ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด "คู่อริตลอดกาล" ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เเละในฤดูกาล 2018 นั้น แจ็คสัน อาเวลิโน่ โคเอลโญ่ ทำสถิติลงสนาม 26 นัด ยิงได้ 14 ประตู ให้กับ "กิเลนผยอง"
ในปี 2019 แจ็คสัน อาเวลิโน่ โคเอลโญ่ ก็มีอันต้องโยกย้ายอีกครั้ง หลังจากโดน เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ยกเลิกสัญญา คราวนี้ต้องหอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่กับ ซองนัม เอฟซี สโมสรในประเทศเกาหลีใต้ แต่เเล้วเขาก็ไม่ได้ลงสนามสักเกมให้กับต้นสังกัด จนทำให้ต้องแยกทางกันในที่สุด
เหมือน "โชคชะตา" จะอยากให้ “จาจ้า” กลับมาเมืองไทย โดย สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ได้ยื่นข้อเสนอให้กับเขามาแทนที่โควต้าผู้เล่นต่างชาติของ มาอิลซอน ในช่วงก่อนที่ศึกโตโยต้า ไทย ลีก ฤดูกาล 2020-21 จะกลับมา "รีสตาร์ท" กันอีกครั้ง เเละ แจ็คสัน อาเวลิโน่ โคเอลโญ่ ก็ไม่ปฏิเสธโอกาสครั้งสำคัญนี้
ล่าสุด แจ็คสัน อาเวลิโน่ โคเอลโญ่ ลงสนามให้กับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ในศึกโตโยต้า ไทย ลีก ฤดูกาล 2020-21 ไปแล้ว 3 นัด ยิงได้ 1 ประตู โดยประตูที่ยิงประตูได้เป็นการยิงที่เร็วที่สุดในซีซั่นนี้ ด้วยเวลา 33 วินาที นับตั้งแต่ที่ผู้ตัดสินเป่าเริ่มเกมในครึ่งแรก เกมที่ “กว่างโซ้งมหาภัย” เปิดรังเชือด ราชบุรี มิตรผลฯ 2-1 เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา