ประวัติ อังเดร อากัสซี่

| 01/01/1970 07:00 น. | 2099 Views

 

 

 

ประวัติความเป็นมา

            อังเดร อากัสซี่ อดีตนักหวดลูกสักหลาดมือหนึ่งของโลก จากสหรัฐอเมริกา ถือเป็นยอดตำนานนักเทนนิสที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเป็นเจ้าของสถิติแชมป์ 8 แกรนสแลมด์ แชมป์เอทีพีมาสเตอร์ซี่รีย์ได้ถึง 17 รายการ แชมป์เอทีพีทัวร์ 33 รายการ มาสเตอร์ซี่รีย์คัพ 1 รายการ
เหรียญทองโอลิมปิค ประเภทชายเดี่ยว ร่วมไปถึงการเป็นส่วนหนึ่งทีมเทนนิสเดวิสคัพของทีมชาติสหรัฐอีกด้วย นอกจากนี้ เขาเป็นหนึ่งในห้านักเทนนิสชายที่สามารถครองแชมป์แกรนสแลมด์ได้ครบทั้ง 4 แกรนสแลมด์ในการเล่นเทนนิสอาชีพออีกด้วย

            นักเทนนิสชาวสหรัฐผู้นี้ เกิดในเมืองแสงสีอย่างลาส เวกัส มลรัฐเนวาดา เมื่อวันที่ 29 เมษายน 1970 มีชื่อเต็มว่า "อังเดร เคิร์ค อากัสซี่" (Andre Kirk Agassi) เกิดเมื่อวันที่ 9 เมษายน 1970 ที่ลาสเวกัส, เนียวานา สหรัฐอเมริกา อากัสซี่ถือได้ว่ามีสายเลือดนักกีฬาอย่างเต็มเปี่ยมมาจากคุณพ่อ เอ็มมานูแอล ไมค์ อากัสซี่
ซึ่งเคยเป็นนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันกีฬามวยในโอลิมปิคปี 1948-1952 ก่อนอพยพถิ่นฐานมายังสหรัฐ อาจจกล่าวได้ว่า พ่อของอากัสซีมีส่วนในความสำเร็จของยอดนักเทนนิสผู้นี้อย่างมาก จนเมื่ออายุ 13 ปี อากัสซี ก็ถูกส่งไปเรียนเทนนิสที่สถาบันสอนเทนนิสชื่อดังในฟลอริดา

            

         ด้วยวัยเพียง 10 ปี อากัสซี่ก็เริ่มหวดแข่งกับคู่แข่งในอนาคตของเขาอย่างพีทท์ แซมปรัส จิม เคอริเออร์ และไมเคิล ชาง ความสามารถของเขาเริ่มทวีขึ้น จนพ่อของเขาจ้างนิกค์ โบลเลเทียรี่ มาเป็นโค้ชมืออาชีพให้อากัสซี่ และอากัสซี ในวัยเพียง 16 ปี ก็ออกมาเผชิญความท้าทายในชีวิตโดยการลงแข่งขันเทนนิสอาชีพครั้งแรกเมื่อปี 1986 ในรายการ ลาควินต้า ที่แคลิฟอร์เนีย โดนในแมตซ์นั้น เขาสามารถคว่ำจอห์น ออสติน แต่ก็ต้องไปพ่ายให้กับแมตซ์ วิลลันเดอร์ ในรอบถัดมา
และเมื่อจบฤดูกาลแข่งขันในปีนั้น เจ้าหนูวัย 16 ปี ก็รั้งมือวางอันดับ 91 ของโลก ต่อจากนั้นไม่นาน เจ้าหนุ่มผมยาวจากลาสเวกัส ก็ใช้เวลาเพียงสามปีเท่านั้น ในการแข่งขันเทนนิส ไต่เต้าจากอันดับ 91 ของโลก พุ่งทะยานติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลกได้สำเร็จในปี 1988 ด้วยวัย 18 ปีเท่านั้น
หลังจากเอาชนะโกราน อิเวนิ เซวิช ในรายการวิมเบิลดัน จากนั้นเขาเปลี่ยนตัวโค้ชมาเป็นแบรด กิลเบิร์ท และอนาคตของเขาก็เริ่มพุ่งทะยาน. ชนะรายการ ยูเอสโอเพ่น ในปี 1994 ชนะรายการออสเตรเลียโอเพ่น ในปี 1995 ชนะโอลิมปิก เหรียญทอง ในปี 1996 ในเวลาต่อมา

            การเล่นเทนนิสของอากัสซี ถือว่าสร้างสีสันให้กับวงการเทนนิสได้ไม่น้อย ไม่เพียงแต่ลีลาและฝีมือการเล่นอันโดดเด่นเท่านั้น ภาพลักษณ์ของเด็กหนุ่มไฟแรง ที่มีสไตล์ไม่เหมือนใคร ก็ยิ่งทำให้อากัสซีกลายเป็นที่จดจำของแฟนๆ เทนนิสได้ในเวลาอันรวดเร็ว
และด้วยฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมและสม่ำเสมอนี่เอง ในที่สุดอากัสซีก็ค่อยๆ เก็บสะสมรางวัลและเกียรติประวัติมาเชยชม จนสามารถครองมือ 1 ของโลกได้สำเร็จในวันที่ 10 เมษายน 1995 แม้ว่าอากัสซีจะต้องเจอนักเทนนิสฝีมือดีไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คู่ปรับคนสำคัญในช่วงนั้น ก็คือ พีท แซมพราส ก็ตาม

 

 

 

            ชีวิตในสนามกำลังรุ่งโรจน์ ชีวิตนอก สนามก็ไม่น้อยหน้า ในปี 1993 เขาเริ่มรู้จักกับบรูค ชิลด์ จากการแนะนำของลินดี้ เบนสัน ภรรยาของเคนนี่ จี นักแซ็กโซโฟนชื่อดัง ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็เคยควงอยู่กับดารา รุ่นใหญ่อย่างบาร์บาร่า สไตแซนด์
ซึ่งตอนหลังก็กลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่กับบรูค ชิลด์ ถึงขั้นแต่งงานด้วย ทั้งสองจูงมือ เข้าประตูวิวาห์กันในปี 1997 จากนั้นฝีมือการเล่นเทนนิสของเขาเริ่มตกลง ปลายปีของการแต่งงาน อังเดรตกมาอยู่อันดับที่ 141 ของโลก
และก่อนฉลองครบรอบการแต่งงาน ปีที่ 2 เขาประกาศหย่าจากบรูค ชิลด์ ขณะนั้นเขาอายุได้ 27 ปี ซึ่งนักเทนนิสส่วนใหญ่ เริ่มคิดวางมือเมื่ออายุย่างขึ้นเลข 3 แต่อังเดรกับทำตรงกันข้าม เขาเริ่มกลับคืนเข้าสู่วงการเทนนิสอีกครั้ง

            จากนั้นไม่นาน ในปี 1998 อังเดรฟื้นคืนสู่สนามหวดลูกสักหลาดอีกครั้ง อังเดรฝึกหนักมาก แต่เขาก็ได้รางวัลจากการฝึกหนัก ในปี 1999 เขาชนะรายการเฟรนช์โอเพ่น และหลังจากนั้นเป็นคนที่ 2 ที่ชนะแกรนด์ สแลมติดต่อกันถึง 4 ปีซ้อน ซึ่งคนที่ทำไว้คนแรกคือ ร็อด เลเวอร์ ที่เคยทำสถิติไว้ในช่วง 60's
อังเดรชนะรายการยูเอสโอเพ่นในปี 1999 อีกรายการหนึ่ง และอีก 3 ปีถัดมา เขาชนะรายการออสเตรเลียนโอเพ่นถึง 3 ปีซ้อน และในที่สุด เขาก็กลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง จากการเก็บชัยชนะในปีนั้น คว้าแชมป์มาได้ถึง 5 รายการ และเข้ารอบชิง 10 รายการ ทำให้อากัสซีกลับมาติดอันดับท็อปเท็นได้อีกครั้ง

            หลังจากชีวิตในสนาม เริ่มกลับคืนมา ชีวิตนอกสนามเขาต้องเผชิญ กับข่าวร้ายที่ว่า มารดากับพี่สาวของเขาป่วยเป็นมะเร็งเต้านม เขาต้องแบ่งเวลาให้กับครอบครัวด้วย รวมไปถึงอาการบาดเจ็บเรื้อรังบริเวณข้อเท้าและหลัง จนทำให้เขาต้องพลาดลงแข่งขันหลายรายการและทำให้ผลงานไม่ดีเท่าที่ควร
นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งทีเดียวของอากัสซี่ อย่างไรก็ตาม ชีวิตของอากัสซี่ ก็ไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมด อากัสซี่ได้เริ่มความสัมพันธ์กับสเตฟฟี่ กราฟ นักเทนนิสหญิงมือหนึ่งของโลกอีกด้วย เขาใช้ชีวิตร่วมกับสเตฟฟี่ กราฟ และมีลูกชายคนแรกคือ เจเดน กิล (Jaden Gil) ในปี 2001 และอีก 2 ปีถัดมา กราฟก็ให้ กำเนิดบุตรคนที่ 2 เป็นหญิงชื่อว่า เจซ เอลล์ (Jaz Elle) และ "ครอบครัว" นี่เองที่ทำให้อังเดร เริ่มหันมาทุ่มเทและใส่ใจมากขึ้น ซึ่งเขาถือว่า ครอบครัวต้องมาเหนือสิ่งอื่นใด และในที่สุด ยอดนักเทนนิสรายนี้ จึงตัดสินใจแขวนเแร็คเก็ตอย่างถาวรไปในเดือนกันยายน ปี 2006 หลังจากเกมที่ตกรอบสาม ในรายการยูเอส โอเพ่น ซึ่งในแมตซ์สุดท้ายของเขา เกิดขึ้นในเกมที่พบกับเบนจามิน เบ็คเกอร์ มือวางอันดับ 112 ชาวเยอรมัน
อากัสซีได้รับเสียงปรบมืออย่างกึกก้องจากแฟนเทนนิสที่เข้ามาชมในเกมนั้น

            ต้องยอมรับเลยว่า อังเดร อากัสซี นับเป็นนักเทนนิสที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงคนหนึ่งในตำนาน โดยตลอดชีวิตการเป็นนักเทนนิสอาชีพ เขาสามารถคว้าแชมป์เทนนิสได้ถึง 61 รายการ และกวาดเงินรางวัลไปมากกว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ
จนนิตยสารเทนนิส ยกย่องให้เขาเป็นนักกีฬาชายยอดเยี่ยมติด 1 ใน 10 ของตำนานวงการลูกสักหลาด ในช่วงระหว่างปี 1965 ถึง 2005

            หลังจากหันหลังให้วงการเทนนิสอย่างถาวร ปัจจุบัน อากัสซีในวัย 37 ปี ใช้ชีวิตร่วมกับสเตฟี่ กราฟ อดีตยอดนักเทนนิสหญิงมือวางอันดับ 1 ชาวเยอรมัน และมีลูกๆ ทั้งสอง
ทั้งหมดใช้ชีวิตอยู่ในนครลาสเวกัสและบ้านพักตากอากาศต่าง ๆ นอกจากนี้ อากัสซียังได้ก่อตั้งองค์กรการกุศลช่วยเหลือเด็กมากมาย และมักบริจาคเงินให้องค์กรการกุศลต่างๆ อยู่เสมออีกด้วย

ADS