ประวัติ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ปีกลูกหม้อที่ก้าวขึ้นตัวหลักในเวลาแค่ไม่นาน

ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ปีกลูกหม้อที่ก้าวขึ้นตัวหลักในเวลาแค่ไม่นาน

          ถ้าพูดถึงปีกเด็กปั้นที่ดังไวปานฟ้าผ่าของ เลสเตอร์ ซิตี้ คงหนีไม่พ้น ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ เพิ่งจะซัดประตูแรกในแมตช์ที่ทีมบุกเอาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 4-1 ในค่ำคืนวันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2020 ซึ่งเจ้าตัวใช้เวลาเพียง 2 นาทีเศษ ประเดิมสกอร์แรกในเกมนั้นได้ จากการแอสซิสต์ของ เจมี่ วาร์ดี้ รุ่นพี่สายใจบุญ

          จากเด็กปั้นของศูนย์ฝึกเยาวชนในปี 2007 ใช้เวลากว่าสิบปีพิสูจน์ตัวเอง ก่อนจะก้าวขึ้นสู่การค้าแข้งอาชีพและยึดตัวจริงของ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ด้วยอายุเพียงแค่ 20 ปีเศษเท่านั้น

          ด้วยฟอร์มอันเจิดจรัสและความเร็วอันจี๊ดจ๊าดทำให้ บาร์นส์ ถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2020 โดยลงสนามนัดแรกในฐานะตัวสำรองนาทีที่ 76 จากแมตช์ถล่ม เวลส์ 3-0

          ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ เกิดวันที่ 9 ธันวาคม 1997 ในเมือง เบิร์นลี่ย์ ประเทศอังกฤษ และเป็นลูกชายของอดีตนักบอลรุ่นใหญ่อย่าง พอล บาร์นส์ โดยในปี 2007 เขาเข้าสู่ระบบอะคาเดมี่ของ เลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยวัยแค่ 10 ขวบ

          บาร์นส์ ใช้เวลาสะสมเลเวลกว่า 10 ปี จนกระทั่งในปี 2016 เขาถูกผลักดันให้ติดทีมชุดใหญ่เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2016 ซึ่งขณะนั้นวัยเพียง 19 ปีกว่า

          อย่างไรก็ดีช่วงแรกยังไม่ได้รับโอกาสให้ลงเล่นมากนัก และถูกปล่อยยืมให้ เอ็มเค ดอนส์ ใช้งานครึ่งฤดูกาลหลังตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2017 จนถึงวันที่ 2 พฤษภาคม 2017 โดยลงสนามทั้งหมด 21 เกมและกดไปเหนาะๆ 6 ประตูเลยทีเดียว กลายเป็นนักเตะที่ได้รับรางวัลเยาวชนยอดเยี่ยมแห่งปีประจำฤดูกาล 2016-2017

          หลังจากกลับมาสู่อ้อมอกของ เลสเตอร์ อีกครั้ง เขาก็ได้รับการต่อสัญญาเพิ่มเติมยาวไปอีก 4 ปี เพื่อรักษาตัวเขาไว้จนถึงเดือน มิถุนายน 2021

          เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2017 เขาได้รับการทาบทามจาก บาร์นสี่ย์ ให้ไปช่วยงานหนึ่งฤดูกาลเต็มในฐานะนักเตะยืมตัวของฤดูกาล 2017-2018 และลงสนามไปทั้งสิ้น 23 นัด ซัดไปไม่น้อยถึง 5 ประตู ก่อนที่ต้นสังกัดอย่าง เลสเตอร์ จะเรียกตัวเขามาเสริมทัพแบบทันด่วนในช่วงตลาดซื้อ-ขายเดือนมกราคม และนั่นทำให้เขาได้รับโอกาสลงสนามในศึกพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก ณ วันที่ 19 เมษายน 2018 ในฐานะแข้งสำรองนาทีที่ 91 จากแมตช์เจ๊า เซาท์แฮมป์ตัน 0-0

          ในเดือน กรกฎาคม 2018 บาร์นส์ ได้รับการต่อสัญญาอยู่ยาวไปอีก 4 ปี ก่อนจะถูกส่งไปช่วย เวสต์บรอมวิช ที่ตกชั้นหมาดๆ หนึ่งฤดูกาลเต็ม และโชว์ฟอร์มเทพจัดๆ ลงบู๊ 26 เกมและยิงไปทั้งหมด 9 ประตู

          ผลพวงจากการหายไปของ ริย๊าด มาห์เรซ ที่ย้ายออกไปประกอบกับ มาร์ก อัลไบรจ์ตัน ก็ประสบปัญหาเจ็บบ่อย ทำให้ เลสเตอร์ ต้องตัดสินใจดึงตัวเขากลับมาร่วมทีมในวันที่ 11 มกราคม 2019

          จนแล้วจนรอดในเดือนมิถุนายน 2019 บาร์นส์ ได้รับการต่อสัญญาเพิ่มแบบยาวๆ 5 ปี และยึดตำแหน่งตัวจริงถาวร เพราะประสานงานเข้าขากับ เจมี่ วาร์ดี้ เหลือเกิน และกลายเป็นที่ถูกอกถูกใจของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ในเวลาต่อมา

          โดยในฤดูกาล 2019-2020 เขาลงสนามในเกมลีกทั้งหมดให้กับ เลสเตอร์ ถึง 36 นัด (ตัวจริง 24 / สำรอง 12) และยิงไปทั้งหมด 6 ประตูกับอีก 14 แอสซิสต์ นับเป็นซีซั่นที่เขาประสบความสำเร็จสูงสุดในฐานะผู้เล่นชุดใหญ่