ประวัติ นิโกล่าส์ อเนลก้า

| 01/01/1970 07:00 น. | 2850 Views

 

นิโกล่าส์ อเนลก้า

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อเต็ม : นิโกล่าส์ อเนลก้า
วันเกิด : 14 มีนาคม 1979 (อายุ 29 ปี)
สถานที่เกิด : แวร์ซาลเลส, ฝรั่งเศส
ส่วนสูง : 6 ฟุต 1 นิ้ว (1.85 เมตร)
สโมสร : เชลซี (2008-ปัจจุบัน)
ตำแหน่ง : กองหน้า
เบอร์เสื้อ : 39

ประวัติความเป็นมา 
 
หนึ่งในนักเตะจอมพเนจรที่ยังคงได้รับการยอมรับในฝีเท้าและสัญชาตญาณการเป็นศูนย์หน้าที่ยอดเยี่ยม ก็คงจะต้องมีชื่อของ "นิโก้" อยู่ในลำดับต้นๆ และตอนนี้เจ้าตัวก็พร้อมแล้วที่จะไล่ล่าความสำเร็จให้กับ เชลซี ต้นสังกัดใหม่

นิโกล่าส์ อเนลก้า ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นหนึ่งในหัวหอกที่เฉียบคมที่สุดคนหนึ่งในยุโรป เพราะแม้ว่าจะเปลี่ยนสโมสรไปกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง นักเตะเฟร้นช์แมนก็ยังคงเจาะตาข่ายคู่แข่งได้อย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดทีมเศรษฐีลอนดอนอย่าง เชลซี ก็ทุ่มเงิน 15 ล้านปอนด์ (ราว 1,000 ล้านบาท) ให้กับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส เพื่อดึงตัว "นิโก้" มาร่วมทีมในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะรอบ 2 ของฤดูกาล 2007-08

เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพ

1995-1997 : ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

ถนนสายลูกหนังของเขาเริ่มต้นขึ้นเมื่อเข้าร่วมทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยักษ์ใหญ่ของแดนน้ำหอม ตั้งแต่ชุดเยาวชน ก่อนจะได้เลื่อนขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่เมื่อปี 1995 และด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นของเขาได้ไปเตะตา อาร์แซน เวนเกอร์ ยอดกุนซือชาวฝรั่งเศส ที่จับเขาเซ็นสัญญากับอาร์เซน่อล ในเดือนก.พ. 1997 ด้วยวัยเพียง 17 ปี พร้อมกับค่าตัวถึง 500,000 ปอนด์ (ราว 35 ล้านบาท) อันเป็นค่าตัวที่ถือว่าสูงมากสำหรับนักเตะวัยรุ่นในสมัยนั้น

อย่างไรก็ตาม การลงทุนของ "ปืนใหญ่" ถือว่าคุ้มค่ามากเมื่อ อเนลก้า กลายเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ทีมคว้าดับเบิลแชมป์ (พรีเมียร์ลีก+เอฟเอ คัพ) มาครองได้ในฤดูกาล 1997-98 ซึ่งผลงานอันน่าประทับใจของเขาก็ทำให้ได้รับการโหวตให้เป็นนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอในซีซั่นถัดมา

อย่างไรก็ดี การเรียกร้องขอขึ้นค่าเหนื่อยมากเกินกว่าที่อาร์เซน่อลจะรับไหว ทำให้ "เดอะ กันเนอร์ส" ต้องยอมขายกองหน้าตัวเก่งของพวกเขาให้กับเรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวมหาศาล 23 ล้านปอนด์ (ราว 1,600 ล้านบาท)

1997-2002 : เรอัล มาดริด, เปแอสเช, ลิเวอร์พูล

ชีวิตในถิ่น ซานดิอาโก้ เบอร์นาเบวของ อเนลก้า กลับไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่แฟนบอลราชันชุดขาวคาดหวัง และแม้ว่าจะคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองได้ แต่สุดท้ายก็ถูกโละให้เปแอชเช อดีตต้นสังกัดเก่าด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ (ราว 1,400 ล้านบาท)

หลังจากที่อยู่ในปารีส มา 18 เดือน อเนลก้า ก็ได้หวนกลับสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้งในเดือนม.ค. 2002 ด้วยสัญญายืมตัวกับลิเวอร์พูล และเขาก็สามารถช่วยให้ทีมหงส์แดง จบฤดูกาลด้วยการเป็นอันดับที่ 2 ของตาราง แต่ เชชาร์ อุลลิเย่ร์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ในเวลานั้นกลับไม่ยอมเสนอสัญญาแบบถาวรให้กับเขาและเลือกเซ็นสัญญากับ เอล ฮัดจิ-ดิยุฟ แทน

2002-2005 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้

จากนั้น นิโก้ ก็เลือกย้ายไปเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์ (ราว 840 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นสถิติของสโมสร "เรือใบสีฟ้า" เลยทีเดียว โดยเขาเลือกสวมเสื้อหมายเลข 39 อันเป็นเบอร์ที่เขาใช้ในการเล่นให้กับทีมอื่นๆ ต่อมาด้วย ทั้ง เฟร์เนบาห์เช่, โบลตัน, เชลซี และทีมชาติฝรั่งเศส

2005-2006 : เฟเนร์บาห์เช่

หัวหอกเลือดน้ำหอม ก็ชีพจรลงเท้าอีกครั้งเมื่อย้ายไปเล่นให้ทีมดังของตุรกีอย่าง เฟเนร์บาห์เช่ ด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์ (ราว 490 ล้านบาท) ก่อนจะช่วยให้ต้นสังกัดใหม่คว้าแชมป์ลีกในปี 2005 ก่อนที่จะอกหักพลาดแชมป์ลีกในวันสุดท้ายของฤดูกาล 2005-06 ต่อ กาลาตาซาราย

2006-2008 : โบลตัน วัลเดอเรอร์ส

วันที่ 25 ส.ค. 2006 โบลตัน ได้ออกมาประกาศว่า อเนลก้า กลายเป็นศูนย์หน้าคนใหม่ของสโมสร และเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะทำประตูได้อย่างต่อเนื่องให้ "เดอะ ทร็อตเตอร์ส" แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้ทีมทำผลงานดีขึ้นได้ และการจมอยู่ในโซนท้ายตารางก็ทำให้ นิโก้ ตัดสินใจย้ายทีมอีกครั้งทั้งที่จะเพิ่งต่อสัญญาในถิ่นรีบอค สเตเดี้ยม ไปจนถึงปี 2011

anelka

2008-ปัจจุบัน : เชลซี

เชลซี ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาได้เซ็นสัญญากับ อเนลก้า ด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,000 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2008 และทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่มีค่าตัวรวมสูงที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอล 87 ล้านปอนด์ (ราว 6,090 ล้านบาท) เริ่มตั้งแต่การย้ายทีมครั้งแรกจนถึงครั้งล่าสุด

อเนลก้า ได้ประเดิมนัดแรกให้กับ "สิงห์บลูส์" ในเกมที่พบกับท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ในเกมลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ ก่อนจะทำประตูแรกให้เชลซีได้ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 ซึ่งเชลซี คว้าชัยเหนือ วีแกน 2-1 เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2008

ทีมชาติฝรั่งเศส

ผลงานในทีมชาตินั้น นิโก้ มีชื่ออยู่ในทีมชุดชิงแชมป์เยาวชนโลก รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี เมื่อปี 1997 ก่อนจะประเดิมทีมฝรั่งเศสชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในเกมที่เสมอกับ สวีเดน 0-0 เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 1988

การพัฒนาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วทำให้ อเนลก้า กลายเป็นกองหน้าคนสำคัญของทีมตราไก่ และมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ยูโร 2000 มาครองได้สำเร็จ แต่จากการที่เขาหลุดโผฟุตบอลโลก 2006 ก็ทำให้เจ้าตัวโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงจนขู่ว่าจะหันหลังให้ทีมชาติ

อย่างไรก็ตาม เรย์มงด์ โดเมอเน็ค กุนซือทีมตราไก่ ก็กลับมาเรียกใช้บริการของดาวยิงวัย 28 ปีอีกครั้งในช่วงคัดยูโร 2008 และ เขาก็จะเป็นศูนย์หน้าตัวหลักร่วมกับ เธียร์รี่ อองรี ในการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปที่จะมีขึ้นในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วย

anelka 

ลับเฉพาะกับ นิโล่าส์ อเนลก้า 

- พ่อแม่ของ อเนลก้า เป็นชาวมาตินิค ซึ่งย้ายมาตั้งรกรากในประเทศฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 1979 โดย นิโก้ ได้เปลี่ยนชื่อของเขาเป็น "อับดุล-ซาลาม บิลาล" เนื่องจากเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม โดยเขาได้แต่งงานกับ บาร์บาร่า เทาเซีย เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2007

- ในปี 2002 อเนลก้า ได้แสดงหนังในภาพยนตร์เรื่อง "Le Boulet" ซึ่งเขารับบทเป็นนักฟุตบอลชื่อว่า นิโกล่าส์ โดยเขาเคยเปิดเผยว่า หากตนเองแขวนสตั๊ดจากอาชีพนักฟุตบอลแล้ว เขาก็อยากจะทำงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เนื่องจาก เขามีเพื่อนที่ทำงานอยู่ในแวดวงนี้

เกียรติยศที่เคยได้รับ

อาร์เซนอล
1997-98 เอฟเอพรีเมียร์ลีก
1997-98 เอฟเอคัพ
1998-99 แชริตี้ชีลด์

เรอัล มาดริด
1999-00 ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก

ปารีส แซงท์ แชร์แมง
2001-02 อินเตอร์ โตโต้คัพ

เฟเนบาเช่
2004-05 ตุรกีพรีเมียร์ลีก

เชลซี
2008-09 เอฟเอคัพ 

ทีมชาติฝรั่งเศส
2000 แชมป์ยุโรป
2001 คอนเฟดเดเรชั่นคัพ

รางวัลส่วนตัว
ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือน: 1998(กุมาพันธ์), 2008(พฤษจิกายน)
ติดทีมยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ : 1999, 2009
รองคำทองคำจากบาร์เคล : 2008/09
ผู้เล่นเยาวชนยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ : 1999

ADS